หลวงพ่อน้ำฝน ประธานทอดกฐิน ถวายกตัญญูหลวงปู่อาด วัดบุญสัมพันธ์

 

หลวงพ่อน้ำฝน ประธานทอดกฐิน

ถวายกตัญญูหลวงปู่อาด วัดบุญฯ

…………………………………………

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพ่อน้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ร่วมสร้างทานบารมี เป็นประธานนำคณะศิษยานุศิษย์ชาววัดบุญสัมพันธ์และญาติธรรม ร่วมทอดกฐินสามัคคีประจำปี ๒๕๖๐ ถวายแด่พระสงฆ์ ผู้จำพรรษากาล ณ วัดบุญสัมพันธ์ ตำบล หนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ประชาชนจำนวนมากรวมกันตั้งโรงทานและร่วมบุญในครั้งนี้ นับรวมยอดกฐินเป็นเงินทั้งสิ้น 917,497.25 บาท โดยมีท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองปรือ นายกมาย ไชยนิตย์ เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ และท่านพระครูใบฎีกาชวลิต วัดบุญสัมพันธ์ เป็นผู้รับประสานศรัทธาในครั้งนี้

นับเป็นอีกหนึ่ง ฤกษ์งามยามดีตามที่ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพ่อน้ำฝน แห่งวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้ร่วมสร้างทานบารมี ทอดกฐินสามัคคีกับทางวัดบุญสัมพันธ์ในปีนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีด้วยพลังสาธุชนที่มีใจดุจเทวดาคุ้มครองอำนวยอวยชัยร่วมแรงร่วมใจปัดเป่าอุปสรรคนานับประการ เปิดทางสว่างไสวให้กับงานบุญกฐินมหากุศลในครั้งนี้

กล่าวสำหรับวัดบุญสัมพันธ์ จังหวัดชลบุรี ที่ตั้งอยู่กลางเมืองพัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญวัดบุญสัมพันธ์ เป็นวัดที่สงบ ร่มเย็น เป็นที่พึ่งทางใจให้กับชาวบ้านมาช้านาน โดยเฉพาะพระเกจิดัง นามว่า “หลวงปู่อาด ปิยธัมโม” อดีตเจ้าอาวาสวัดบุญสัมพันธ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ชาวเมืองพัทยาและอำเภอบางละมุง ให้ความเลื่อมใสศรัทธาด้วยความที่ท่านเป็นพระเกจิสืบทอดวิชาพุทธาคมเข้มขลังสายภาคตะวันออกจนชาวบ้านเรียกขานนามว่า “เทพยดาแห่งท้องทะเลพัทยา”

หลวงปู่อาด ปิยธัมโม พื้นเพเป็นคนอยุธยา เกิดปีพ.ศ.2479 ที่ อ.บางบาล ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ในช่วงวัยเยาว์เป็นคนใฝ่ธรรมะแต่ทางบ้านฐานะยากจน เมื่อจบชั้นประถมศึกษาไม่ได้เรียนต่อจึงออกมา

ทำงานช่วยครอบครัว จนอายุครบเกณฑ์ทหารจึงเข้าเป็นทหารกองประจำการ เมื่อปลดเกณฑ์ทหารออกมาใช้ชีวิตฆราวาสเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตทางโลกจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระเขมเทพาจารย์ วัดหัวเวียง เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ สำหรับพระเขมเทพาจารย์นั้น เป็นที่รู้จักกันดีว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้น พระอุปัชฌาจารย์เห็นความตั้งใจเรียนรู้และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จึงถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ ให้หลวงปู่อาดโดยไม่ปิดบัง นอกจากนี้ท่านยังเป็นศิษย์สามเสือกรุงเก่า “ยิ้ม-ปาน-จง” อันได้แก่ หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด ,หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา และยังเป็นศิษย์ก้นกุฏิของพระครูอุดมสมาธิวัตร หรือหลวงปู่เปลื้อง อีกด้วย ท่านได้เรียนวิชากับหลวงพ่อไวย์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่วัดสุธาโภชน์ จารึกแสวงหาวิชาอาคมจนได้พบพระครูอุดมสมาธิวัตร (หลวงปู่เปลื้อง)จึงได้มีโอกาสเรียนเลขยันต์พิสดาร วิชาแพทย์แผนโบราณ ต่อกระดูก และวิชาสักยันต์สี-น้ำมัน

ในอดีตหลวงปู่อาดท่านท่องธุดงค์พบเจอสิ่งแปลกๆ ในป่าใหญ่กลางหุบเขามากมาย เป็นประสบการณ์ที่ท่านถ่ายทอดบอกเล่าแก่ลูกศิษย์ใกล้ชิดเป็นการภายใน ต่อมาหลวงปู่อาดก้าวหน้าได้รับตำแหน่งทางฝ่ายปกครองเป็น เจ้าคณะตำบลหนองปรือเขต 2, เป็นพระอุปัชฌาย์ และยังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนาม “พระครูวิสุทธิ์ปิยากร” จากเมื่อก่อน วัดบุญสัมพันธ์เป็นวัดเล็กๆ ที่ยังต้องพัฒนาสถานที่ ทั้งโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิพระสงฆ์ เมื่อหลวงปู่อาด ท่านได้รับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสในปีพ.ศ.2515 ท่านได้เข้ามาทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาวัดเริ่มจากการสร้างโบสถ์และศาลาการเปรียญ รวมไปถึงสร้างโรงเรียนวัดบุญสัมพันธ์ ท่านได้นำไม้มาจากโรงไม้แถวนั้นเพื่อประกอบสร้างอาคารเรียนไม้หลังแรกและอุปถัมภ์โรงเรียนวัดบุญสัมพันธ์โดยแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุกปี โดยท่านเริ่มระดมทุนเพื่อการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดบุญสัมพันธ์ด้วยการใช้วิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์ ช่วยเหลือญาติโยมที่ขาดที่พึ่ง สร้างวัตถุมงคล รุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดนั่นคือ แพะเหลียวหลัง หล่อโบราณรุ่นแรก หลวงปู่อาดท่านมาพัฒนาสถานที่ในเวลานั้นอย่างยากลำบาก ในช่วงแรกท่านลงมือเทปูนก่ออิฐด้วยตัวท่านเองจนเลือดตกยางออก แม้ไม่มีเงิน ท่านก็ไม่ละความพยายามในการทำงานพัฒนาวัดบุญสัมพันธ์ ด้วยเหตุนี้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนคนใจบุญที่อาศัยอยู่ละแวกวัดนั้น เห็นท่านทำงานอย่างไม่ย่อท้อ เกิดศรัทธาเลื่อมใส เข้ามาช่วยหลวงปู่บูรณะวัดหลังเลิกงาน เกิดภาพอันน่าปิติยินดีสมกับชื่อวัดบุญสัมพันธ์ ในเวลาต่อมาท่านได้รับนิมนต์ให้นั่งปรกวัตถุมงคลของหลวงพ่อพูลแห่งวัดไผ่ล้อมโดยการชักนำของท่านเจ้าคุณพระวินัยเวที (ท่านเจ้าคุณอำนวย) แห่งวัดเสนาสนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นับแต่นั้นเป็นต้นมาหลวงปู่อาดได้พบสหธรรมมิกคนสำคัญที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลและทำงานอุทิศชีวิตแก่พระพุทธศาสนานั่นคือ หลวงพ่อน้ำฝน ไม่นานหลังจากที่หลวงปู่อาด ท่านเริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงในปี พ.ศ. 2556 ท่านยังคงพยายามทำงานต่อไปโดยสร้างกุฏิทรงไทยไม้สัก ทาสีซุ้มประตูวัด ซ่อมแซมบูรณะวัดอย่าง

ต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อวัดบุญสัมพันธ์ให้เป็นมรดกทางธรรมแก่ลูกหลาน หลังจากที่ท่านเกิดอาการอาพาธหนักในช่วงปีพ.ศ. 2559 หลวงพ่อน้ำฝนท่านได้ถวายทรัพย์ให้หลวงปู่อาดรักษาตัว ด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์ที่ท่านมีต่อสหธรรมมิก ท่านเป็นธุระจัดการให้ทุกอย่างตามที่หลวงปู่อาดได้ฝากฝังวัดบุญสัมพันธ์ไว้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ

แม้ว่าขณะนี้หลวงปู่อาดได้มรณภาพลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 เวลา 12.00 น. แม้กระนั้นท่านยังคงอยู่ในห้วงความทรงจำของบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่พร้อมเดินหน้าสานต่องานพัฒนาวัดและจิตใจของชาวเมืองพัทยาต่อไป

สำหรับวัดบุญสัมพันธ์ในปัจจุบันสถานที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มเย็น เหมาะสำหรับเป็นที่พักกายและใจแก่สาธุชนทั้งหลาย ผู้ใฝ่ใจในธรรมและศรัทธาในพุทธศาสนา แม้อาจต้องสั่นคลอนไปตามกระแสข่าวด้านลบของภิกษุสงฆ์ ผู้ฝึกปฏิบัติธรรมต่อสู้กับกิเลสตัณหาท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์ที่เชี่ยวกราดและยั่วยุให้ก่อกรรมทำชั่วได้อย่างง่ายดาย สาธุชนทุกท่านได้พิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์พยานอันดีด้วยการประกาศความสำเร็จให้กับงานทอดกฐินประจำปี ณ วัดบุญสัมพันธ์แห่งนี้ พร้อมทั้งร่วมกันสืบทอดประเพณีไทยในพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ต่อไป