“ออริจิ้น” กวาดยอดมหกรรมบ้านและคอนโด 4 วันทำ New High 650 ล้าน  เตรียมบุกพารากอนจัดอีเวนท์ใหญ่กลาง ธ.ค.นี้ 

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ออกบูธมหกรรมบ้านและคอนโด 4 วัน โกยยอดขายระดับ New High 650 ล้าน คอนโดทุกเซ็กเมนท์ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและ Investment Property กระแสดีเยี่ยม หลังมหกรรมฯกลับมาจัดครั้งแรกในรอบ 3 ปี กำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัวเต็มรูปแบบ มีสินค้าฟังก์ชันเด่น-ดีไซน์โดนให้เลือกครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล-EEC ประเมินอสังหาฯ Q4/2565 คึกรับหลากปัจจัยบวก รวมถึงความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีเหลืองชมพู เตรียมบุกสยามพารากอนจัดอีเวนท์ใหญ่ กระตุ้นการเข้าถึงผู้บริโภค กลาง ธ.ค.นี้ 

นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมออกบูธงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 42 ณ​ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 27-30 ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายบ้านและคอนโดมิเนียมรวมกันได้มากกว่า 120 ยูนิต คิดเป็นยอดขายรวมประมาณ 650 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายที่สูงที่สุดของบริษัท (New High) นับตั้งแต่เคยเข้าร่วมมหกรรมบ้านและคอนโด และเป็นยอดขายที่คึกคักที่สุดของการออกบูธระยะเวลา 4 วัน

ทั้งนี้ ยอดขายดังกล่าว กระจายตัวอยู่ในบ้านและคอนโดมิเนียมทุกเซ็กเมนท์ โดยกลุ่มคอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัยได้รับกระแสตอบรับทั้งในกลุ่มคอนโดระดับ Entry Level ราคาประมาณ 50,000-90,000 บาทต่อ ตร.ม. ระดับ Mid-end ถึง High-end ราคาไม่เกิน 200,000 บาทต่อ ตร.ม. ระดับลักชัวรี ราคามากกว่า 200,000 บาทต่อ ตร.ม. ขณะเดียวกัน กลุ่มคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน (Investment Property) ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง 

เบื้องต้น บริษัทประเมินว่ามีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ออริจิ้น สามารถทำสถิติยอดขาย New High ในครั้งนี้ ได้แก่ 1.การกลับมาจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดมิเนียมครั้งแรกในรอบ 3 ปี และการฟื้นตัวด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค 2.การมีสินค้าหลากหลายเซ็กเมนท์ หลากหลายทำเล ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 3.ฟังก์ชั่นและดีไซน์ของสินค้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ และ 4.การทำโปรโมชั่นที่ดีและโดนใจทั้งการจับมือกับพันธมิตรธนาคารให้ผู้บริโภคสามารถผ่อน 0% ได้นาน 2 ปี และสิทธิ์ลุ้นโชครับแพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4/2564 จะเป็นช่วงที่มีความคึกคักมากที่สุดของปีนี้ และคึกคักมากที่สุดในรอบหลายปี จากหลากหลายปัจจัย ทั้งบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ความคืบหน้าของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปีหน้า

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจัดงานอีเวนท์และการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภค ตอกย้ำฐานะผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสถานะเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุดในปีนี้ โดยในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ บริษัทจะจัดงานอีเวนท์ใหญ่แห่งปี ณ ใจกลางศูนย์การค้าสยามพารากอน 

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 112 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น                       (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 172,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร