อยากสวยอย่างไม่เสี่ยงต้องอ่านหนังสือให้เกินปีละ 7 บรรทัดจะได้ปลอดภัย

สถานการณ์ โควิด ที่ยังยาวนานแบบไม่มั่นใจว่าจะจบลงเมื่อไร ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกมีปัญหา ทั้งสภาวะเงินเฟ้อ มีหลายธุรกิจปิดตัวลง และอีกด้านหนึ่งก็ทำให้หลายธุรกิจเติบโตขึ้น. เหมือนกับธุรกิจ ศัลยกรรม ผิวพรรณ ความงามนั้น ยอดภายในประเทศก็เติบโตขึ้น สวนทางกับเม็ดเงินที่เคยไหลออกนอกประเทศ เพราะยังประสบปัญหาในการเดินทางเข้าประเทศ ที่เกิดจากโรคระบาด และการลักลอบเข้าประเทศ สิ่งที่ตามมาคือการทำการตลาดที่เข้มข้นท้าทายความถูกต้องของหน่วยงานของประเทศในขณะนี้

นายพิพัฒนกรณ์ เอี่ยมศิลา ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจ ศัลยกรรม และความงามของไทย ได้ออกมาเผยถึงสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นว่า ” อยากสวยต้องศึกษา และอ่านหนังสือ เนื้อหาต่างๆให้เกิน 7 บรรทัดต่อปี แล้วจะปลอดภัยครับ. ผมแบ่งสาเหตุหลักๆของการไปทำสวยแล้วเสียโฉม มีอยู่ 3 สาเหตุดังนี้ครับ

 

1. เอาราคาเป็นที่ตั้ง ขอถูกไว้ก่อน ก็จะเข้าทางคลินิกทำการตลาดแบบลดราคา ซึ่งจะแบ่งได้ว่าคลินิกลดราคา เพราะลดต้นทุนผลิตภัณฑ์. คุณภาพของยา. ลงไปจนถึงกระทั้งไม่ใช้ของแท้มาให้บริการ. หรือลดราคาแต่พอเข้าคลินิกไป พนักงานก็จะหาทางโน้มน้าวให้ทำอย่างอื่นเพิ่ม ข้อนี้ลองคิดง่ายๆ ของดีราคาถูกไม่มีนะครับ เพราะนอกจากผลิตภัณฑ์ ค่าฝีมือแพทย์ก็ต้องรวมด้วย ไม่มีแพทย์ท่านใด มาลดราคาค่าประสบการณ์ตัวเองแบบ 50% ,70% ครับ

2. เชื่อว่าหมอต่างชาติเก่งกว่าหมอไทย มีหลายๆคลินิก โรงพยาบาล กำลังทำการตลาดแบบอิงกระแส ดารา ต่างประเทศ แล้วแอบ พาแพทย์ต่างชาติมาให้คำปรึกษา ไปจนผ่าตัดคนไข้ ทั้งๆที่เป็นเรื่องผิด กฏหมาย แล้วพอคนไข้มีปัญหาก็ทำการรักษาแบบไปวันๆ ข้อนี้ผมฝากไว้ให้คิดว่าถ้า แพทย์ที่เก่งจริงๆ จะมีเวลาบินมาผ่าตัดให้คุณไหมครับ. เค้าก็ต้องมีนัดที่เยอะมากๆครับ ดังนั้นแพทย์ที่มาทำให้คุณ คุณมั่นใจได้ยังไงว่าเก่งจริงๆครับ

3) เชื่อการตลาด เห็นแต่ภาพรีวิว ที่บ้าง เค้าเอาดารามาโปรโมทบ้าง อ้างว่าตนเป็นอาจารย์แพทย์บ้าง ไม่ใช่ตัดสินใจทำสวยจากข้อมูลเพียงเท่านี้. ภาพเค้าใช้โปรแกรมแต่งไหม. ภาพก่อนหลัง แต่งหน้าเพิ่มหรือเปล่า. ดารามาทำจริง หรือแค่แวะมา. เป็นอาจารย์แพทย์สอนที่มหาวิทยาลัยแพทย์ที่ไหน. เหล่านี้ต้องศึกษาข้อมูลให้เยอะๆครับ

ทั้งหมดนี้ผมเองเวลาทำงานกับคุณหมอก็จะพูดคุยกันเสมอ ถึงสิ่งที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ด้วยความห่วงใย อีกทั้ง แพทย์และเจ้าของกิจการก็ต้องมีจิตสำนึก จรรยาบรรณที่ดีในวิชาชีพของตัวเอง ไม่ทำร้ายคนไข้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ผมจึงต้องออกมาเตือนคนไทยที่กำลังเป็นเหยื่อ อยากสวยแบบเสี่ยงให้ได้มีแนวทางทำสวยอย่างไรจะปลอดภัยดีครับ ” คุณดิวกล่าวทิ้งท้าย