บริติช เคานซิล ชี้สถิติการจัดสอบ IELTS ทั้งหมดในประเทศไทย รวมกว่า 35,000 ครั้งต่อปี สะท้อนจำนวนเด็กไทยเตรียมศึกษาต่อในและต่างประเทศ พร้อมเปิดศูนย์สอบใหม่ ณ สยามสแควร์ ฉลอง 70 ปี บริติช เคานซิล ประเทศไทย

·       บริติช เคานซิล เผย ผู้สอบ IELTS เลือกสอบแบบคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้น เทียบเป็น 60:40 กับการสอบแบบกระดาษ พร้อมเตรียมพบกับ IELTS Online สอบ IELTS ได้จากที่บ้าน เร็ว ๆ นี้

กรุงเทพฯ 12 กรกฎาคม 2565 บริติช เคานซิล ประเทศไทย ชี้สถิติการสอบ IELTS ทั้งหมดในประเทศไทยระหว่างปี 2564 – 2565 รวมกว่า 35,000 ครั้ง สะท้อนถึงการกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังผลกระทบของโควิด-19 และจำนวนที่กลับมาเพิ่มขึ้นของผู้ที่ต้องการนำคะแนนสอบไปใช้ยื่นศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ ต่อยอดในสายงานอาชีพ หรือย้ายถิ่นฐานที่อยู่ โดยภาพรวมคะแนนสอบของคนไทยยังอยู่ที่ระดับ 6 เทียบเท่ามาตรฐานเฉลี่ยทั่วโลก ทักษะที่คนไทยทำคะแนนได้ดียังคงเป็นทักษะความเข้าใจ ได้แก่ การฟังและการอ่าน มากกว่าทักษะการแสดงออก หรือ การพูดและการเขียน ล่าสุดเพื่อเฉลิมฉลองวาระฉลองครบรอบ 70 ปี บริติช เคานซิล ประเทศไทย ได้เปิดตัวศูนย์สอบแห่งใหม่ IELTS on Computer ณ สยามสแควร์ ที่ทำให้ บริติช เคานซิล สยามสแควร์ กลายเป็นศูนย์ให้บริการด้านการสอนภาษาอังกฤษ ข้อมูลศึกษาต่อสหราชอาณาจักร และการจัดสอบวัดระดับภาษาอย่างครบครัน เปิดสอบทุกวัน รองรับได้กว่า 400 ผู้สอบต่อสัปดาห์  พร้อมเชิญชวนผู้สนใจ สมัครรับทุนการศึกษา IELTS Prize 2022 ถึง 15 กรกฎาคม 2565 นี้

นางเฮลก้า สเตลมาเกอร์ ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่า สถิติจำนวนการสอบ IELTS ทั้งหมดในประเทศไทย ในช่วงเดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565 มีจำนวนรวมกว่า 35,000 ครั้ง ซึ่งสะท้อนถึงการกลับมาเติบโตอีกครั้งจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งในช่วงปี 2563-2564 จะอยู่ที่ประมาณ 25,000 ครั้ง แต่ยังคงไม่เท่าจำนวนในช่วงก่อนโควิด (2562-2563) ที่อยู่ที่ประมาณ 45,000 ครั้ง โดยจำนวนดังกล่าวยังแสดงถึงจำนวนที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งของคนไทยตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน ที่มีความต้องการนำคะแนนสอบไปใช้ในการยื่นศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงต่อยอดในสายอาชีพของตนเอง

 

นางเฮลก้า กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลล่าสุดของ IELTS พบว่า คะแนนสอบเฉลี่ยของผู้สอบชาวไทยในวัตถุประสงค์ด้านวิชาการ (IELTS Academic) อยู่ที่ระดับ 6 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยกลางของผู้สอบ IELTS ทั่วโลก ที่อยู่ที่ประมาณ 6.1 ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงของเรา อย่างกัมพูชาจะอยู่ที่ 5.8 เวียดนาม 6.1 ฮ่องกง 6.6 และมาเลเซีย 6.9 โดยทักษะที่คนไทยที่ทำได้ที่สุด ได้แก่ การฟัง (6.4) ตามมาด้วยการอ่าน (6.1) การพูด (5.9) และการเขียน (5.1) ซึ่งยังคงสะท้อนถึงจุดเด่นในด้านทักษะความเข้าใจ (Receptive skills) ที่แข็งแรงกว่า ทักษะการแสดงออก (Expressive skills) ของคนไทย

เนื่องในวาระครบรอบ 70 ปี ของบริติช เคานซิล ประเทศไทยในปีนี้ จึงได้เปิดตัวศูนย์สอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ ณ สยามสแควร์ เพื่อรองรับจำนวนผู้สอบที่เพิ่มมากขึ้น และอำนวยความสะดวกให้กับผู้สอบอย่างเต็มที่ด้วยโลเคชั่นใจกลางเมือง ณ สยามสแควร์ เปิดรอบสอบทุกวัน รองรับได้กว่า 400 ผู้สอบต่อสัปดาห์ ซึ่งจะเป็นการทำให้บริติช เคานซิล สยามสแควร์ เป็นศูนย์รวมที่ให้บริการอย่างครบครันทั้งด้านการสอนภาษาอังกฤษ การส่งเสริมการศึกษาต่อสหราชอาณาจักร และการจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ และสำหรับในส่วนผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด ปัจจุบันบริติช เคานซิลมีศูนย์สอบอย่างเป็นทางการ ที่ดำเนินการจัดสอบด้วยตนเองและพาร์ทเนอร์ในอีก 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สมุทรปราการ ปทุมธานี และอยู่ระหว่างการดำเนินการขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น นางเฮลก้า กล่าวต่อ

 

การจัดสอบด้วยมาตรฐานที่ยอมรับระดับนานาชาติ เป็นหนึ่งในงานที่บริติช เคานซิล ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งอยู่ภายใต้ภารกิจหลักด้านการยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ ที่ควบคู่ไปกับการฝึกทักษะการสอนภาษาอังกฤษของคุณครูในประเทศ และการสอนภาษาอังกฤษผ่านโรงเรียนสอนภาษา โดยการสอบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การสอบ IELTS ซึ่งเป็นการทดสอบวัดความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ยอดนิยมที่สุดในระดับสากล เพื่อวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ใช้สำหรับทั้งการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ โดยปัจจุบันบริติช เคานซิล ได้ให้บริการจัดสอบ IELTS กว่า 1,600 ศูนย์สอบ ในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก นางเฮลก้า กล่าวทิ้งท้าย

           

ด้าน นายสตีฟ อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการสอบประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก บริติช เคานซิล กล่าวว่า หลังจากที่เราได้เริ่มเปิดการจัดสอบ IELTS บนคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปี 2561ในปัจจุบันพบว่าอัตราส่วนของผู้สอบที่เลือกสอบแบบคอมพิวเตอร์นั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับการสอบแบบกระดาษจะอยู่ที่ 60:40 ซึ่งคาดว่ามาจากจุดเด่นต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้สอบมากขึ้น เช่น รอบสอบทุกวัน ความรวดเร็วของการได้รับผลสอบ และระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของการสอบที่ทั้งช่วยลดระยะเวลาในการเขียนหรือจดโน้ต และเร็ว ๆ นี้ จะมีการจัดสอบ IELTS ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเรียนหรือการทำงานจากที่ไหนก็ได้ในปัจจุบัน โดยรูปแบบการสอบจะเหมือนกับการสอบในกระดาษและการสอบบนคอมพิวเตอร์ เพียงแต่ผู้สอบจะสามารถทำการสอบจากที่บ้าน หรือสถานที่ส่วนตัวที่เหมาะสมโดยมีคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน กล้อง และโปรแกรมเฉพาะทางของการจัดสอบ ซึ่งในปัจจุบันการสอบ IELTS Online ยังคงเปิดสอบเฉพาะการสอบแบบวิชาการ และบริติช เคานซิลได้เริ่มต้นนำร่องเปิดสอบในบางประเทศเท่านั้น เช่น ฮ่องกง โดยสามารถติดตามการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งสำหรับการจัดสอบในประเทศไทย

            บริติช เคานซิล ยังมีการเปิดรับสมัครทุนการศึกษา IELTS Prize 2022 สำหรับผู้สนใจศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ในปีการศึกษา 2565/66 ที่ใช้คะแนนสอบ IELTS ในการสมัครเรียนสถาบันการศึกษาในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 3 ทุน มูลค่ากว่า 360,000 บาท ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครได้ถึงวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจและต้องการทดลองทำข้อสอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ก่อนการสอบจริง สามารถทดลองได้ด้วยตนเอง ฟรี ได้ที่ www.ieltsasia.org/th/prepare/familiarisation-test นาย สตีฟ กล่าวทิ้งท้าย

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมตลอดทั้งปีของบริติช เคานซิล ได้ที่เว็บไซต์ www.britishcouncil.or.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ British Council Thailand

 

เกี่ยวกับบริติช เคานซิล

บริติช เคานซิล คือ องค์กรนานาชาติเพื่อส่งเสริมการศึกษา ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งสหราชอาณาจักร เราทำงานกับประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศทั่วโลกผ่านงานด้านศิลปะ วัฒนธรรม ภาษาอังกฤษ การศึกษา และภาคประชาสังคม ในปีที่ผ่านมาเราสื่อสารโดยตรงกับผู้คนมากกว่า 80 ล้านคน และสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์กับผู้คนกว่า 791 ล้านคน เราสร้างประโยชน์แก่ประเทศที่เราทำงานด้วยผ่านทรัพยากรทางวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักร เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนให้ดีขึ้นโดยการสร้างโอกาส สร้างเครือข่าย และสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน บริติช เคานซิล ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2477 ภายใต้พระบรมราชานุญาตและพระราชบัญญัติองค์การอิสระแห่งสหราชอาณาจักร เราได้รับเงินสนับสนุนร้อยละสิบห้าโดยรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักร