ไทวัสดุ เปิดแนวคิดธุรกิจยั่งยืน ส่งเสริมพนักงานขับเคลื่อนสังคมแห่งการให้ สานต่อโครงการ “รวมหัวใจให้บ้านเกิด ปี 3” สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในชุมชน

ภาพการส่งมอบงานปรับปรุงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสุเหร่าเขียว

ท่ามกลางปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ภาคธุรกิจและองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ต่างมุ่งให้ความสำคัญกับการจะดำเนินธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน เล็งเห็นถึงการดำเนินธุรกิจให้เกิดคุณค่าจะต้องทำควบคู่ไปกับการสร้างการมีส่วนร่วมต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด Creating Shared Values (CSV) หนึ่งในแนวทางการขับเคลื่อนองค์กรด้วยหลักการบริหารโดยเน้นการสร้างคุณค่าทั้งจากพัฒนาตัวสินค้า หรือพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับสังคม อาทิ การมีส่วนช่วยรณรงค์ในวาระต่างๆ, การหันมาใช้วัสดุจากธรรมชาติ, หรือหลักการบริหารที่เสริมสร้างความสุขของผู้คนในชุมชน โดยคำนึงถึงความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมองค์รวม

บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำค้าปลีกสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านในภูมิภาคเอเชีย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเติบโตของธุรกิจที่ควบคู่ไปพร้อมกับการสรรค์สร้างสังคมให้น่าอยู่และมีความยั่งยืน ทั้งมิติของผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิดการบริหารแบบ People Centric ที่ยึดเอาคนเป็นศูนย์กลาง สร้างการมีส่วนร่วมระหว่าง “พนักงาน” ในการคิดและลงมือทำเพื่อสังคม เพื่อสานต่อโครงการ “รวมหัวใจให้บ้านเกิด” ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้เข้าไปร่วมพัฒนาพื้นที่ชุมชนบ้านเกิดของตนเอง โดยดำเนินการต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3  

·         การมีส่วนร่วมของพนักงาน…สู่การเป็นหนึ่งเดียวกันกับองค์กร

คุณสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวถึงแนวคิดในการบริหารองค์กรว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของทางไทวัสดุ นอกจากจะให้ความสำคัญกับการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าเป็นหลักแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่เราให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือบุคลากรภายในองค์กร ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อการสร้างองค์กรให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะองค์กรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งต้องมีฐานรากที่แข็งแรงในการขับเคลื่อนธุรกิจและบุคลากรไปพร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้พนักงานเกิดความผูกพันธ์กับองค์กร ไทวัสดุได้สร้างการมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรม CG Voice เปิดรับความคิดเห็น และความต้องการของพนักงานสู่การสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในที่ทำงาน (Happy Workplace) นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ร่วมปลูกจิตสำนึกที่ดีให้กับพนักงานในองค์กรเพื่อสร้างความภาคภูมิใจในมุมของการเป็นผู้ให้ ผ่านโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น

คุณสมชาย มะลา พนักงานของทางไทวัสดุ

·         ทุกเสียงมีความหมาย…สร้างความภาคภูมิใจให้พนักงาน

คุณสุทธิสาร กล่าวต่อว่า “ สำหรับ โครงการรวมหัวใจให้บ้านเกิด เป็นการต่อยอดแนวทาง Driving Sustainability สู่เป้าหมายการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนพร้อมเคียงข้างในทุกมิติ ทั้งพนักงาน คู่ค้า สังคมและสิ่งแวดล้อม เราส่งเสริมและเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับพนักงาน พร้อมส่งต่อโอกาสคืนสู่สังคม โดยโครงการดังกล่าวฯ จะให้พนักงานส่งเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาชุมชนของตนเอง รวมถึงให้พนักงานทั่วไปสามารถบริจาคเพื่อเป็นงบประมาณในการช่วยเหลือต่อยอดโครงการได้ท้ายที่สุดไทวัสดุจะเข้าไปช่วยเหลือปรับปรุงสถานที่ และมอบอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความจำเป็นและสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน เติมความสุขเติมรอยยิ้มเสริมกำลังใจในการใช้ชีวิตที่ดีของคนในชุมชน”

ทั้งนี้ โครงการรวมหัวใจให้บ้านเกิด ผ่านการดำเนินงานเข้าสู่ปีที่ 3 ด้วยผลสำเร็จที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาภูมิลำเนา โรงเรียนชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในจังหวัดต่างๆ และเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ภาพพนักงานส่งเรื่องราวที่ต้องการจะปรับปรุงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสุเหร่าเขียว

·         เรื่องเล่าจากคนตัวเล็ก…สู่การให้ที่ยิ่งใหญ่

ด้าน คุณสมชาย มะลา พนักงานแผนก Warehouse ของทางไทวัสดุ สาขาบางบัวทอง ผู้ที่ได้รับคัดเลือกจาก โครงการรวมหัวใจให้บ้านเกิด เล่าว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนบ้านเกิดของตนเอง และขอบคุณบริษัทฯ ที่สานต่อโครงการดีๆ แบบนี้ ทำให้พนักงานทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่มีคุณภาพให้กับภูมิลำเนาของตนเอง สำหรับผมมองว่าการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของคนในชุมชนเป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากให้ช่วยปรับปรุงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสุเหร่าเขียว อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี  เนื่องจากภายนอกอาคารเป็นพื้นที่โล่งแจ้งไม่มีหลังคา และสภาพทรุดโทรมจากการใช้งานที่ต่อเนื่อง จึงอยากให้ช่วยปรับปรุงเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์  ทางไทวัสดุได้เข้าไปปรับปรุงสถานที่ สร้างหลังคาสำหรับพักคอย ปรับปรุงห้องทันตกรรมและห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีของคนในชุมชนสุเหร่าเขียว มูลค่ากว่า 200,000 บาท

 

·         เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อสังคมที่น่าอยู่

“ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต คู่ขนานไปพร้อมกับการสร้างสังคมที่น่าอยู่ในอนาคต ตามแนวยุทธศาสตร์ CRC Retailigence เราเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจที่เอาใจใส่ในผู้คนเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมส่งเสริมการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างพนักงานและองค์กร ต่อยอดไปสู่การร่วมสร้างความเจริญให้กับประเทศ และชาวไทยโดยรวม” คุณสุทธิสาร กล่าวสรุป  

###

 เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,440 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 56 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565)