Change for Good: มท. มุ่งบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน เน้นย้ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน

สิ่งสำคัญ ที่คนมหาดไทยต้องช่วยกันคือการให้บริการที่ดี เพื่อสนองตอบวิสัยทัศน์และปณิธานของกระทรวง นั่นคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการสื่อสารสังคม และช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด  นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำหัวใจ ในการ Change for Good

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้พวกเราอยู่ท่ามกลางสังคมโลกที่มีความเป็นโลกาภิวัตน์ มีการสื่อสารข้อมูลข่าวสารอย่างอิสระ เสรีเป็นอย่างมาก อันอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ความศรัทธาต่อองค์กร หากเราไม่ให้ความสำคัญหรือทำความเข้าใจให้ถูกต้อง อาจถือได้ว่าเป็น “ภัยคุกคามใหม่” ซึ่งภัยคุกคามในโลกยุคปัจจุบันนี้ ที่มีที่มาจากการสื่อสารจะหมดไปได้ ถ้าพวกเราทุกคนมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน คือ การสื่อสารบทบาทภารกิจในงานองค์กรเพื่อสร้างการรับรู้รวมถึงทัศนคติที่ดีของบุคลากรภายในหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธา พร้อมให้ความสำคัญกับสังคมภายนอก สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสารตั้งต้นก่อนจะสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชน โดยต้องพึงระลึกเสมอว่า ประชาชนคือ บุคคลสำคัญ ที่เราต้องช่วยกันให้บริการที่ดี เราต้องขับเคลื่อนตามปณิธาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการสื่อสารสังคม และช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด

ปลัด มท. ยกตัวอย่าง สิ่งที่ขับเคลื่อนอย่างแข็งขันในช่วงที่ผ่านมา อาทิ โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ที่เราตั้งใจสื่อสาร ผลักดันให้เป็นวาระของชาติ จนสามารถช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างต้องเริ่มจากตัวเราต้องทำเป็นตัวอย่างให้เห็น ต้องสวมใส่ และสื่อสารถึงหัวใจสำคัญในการทำให้สังคมเกิดการรับรู้และพร้อมช่วยเหลือพี่น้องทั้งในวงการผ้าไทย ตลอดจนภาคขนส่ง การทำแพ็กเกจ เรียกได้ว่ากระตุ้นเศรษฐกิจครบวงจร ช่วยประชาชนได้หลายครัวเรือนให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี ลูกหลานมีการศึกษาที่ดี หรือ โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ที่เราลงไปอบรมเองฝึกด้วยตัวเอง เข้าใจหัวใจสำคัญในการทำกสิกรรมธรรมชาติและหลักทฤษฎีใหม่ได้ หรือปัจจุบันเราก็ปลูกผักกินเองตั้งแต่ที่บ้าน เราในฐานะผู้นำเราต้องทำให้เห็นผลสัมฤทธิ์ ลงไปอบรมเพื่อเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และสามารถสร้างการรับรู้รวมถึงสื่อสารได้อย่างเข้าใจ ว่าโครงการต่างๆ จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้มิติต่างๆ ของประเทศในยามวิกฤตได้ ทั้งเศรษฐกิจและการบริโภคของเราก็มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยไร้สารเคมีแน่นอน

ดังนั้น สิ่งที่ผมเน้นย้ำคือ ต้องให้คนมหาดไทยเข้าใจตรงกันและทุ่มเททำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดผลกว้างขวาง ซึ่งถ้าพวกเราทำอย่างเข้มแข็ง ก็จะเป็นแรงจูงใจให้ข้าราชการคนรุ่นใหม่เป็นคนดี มีอุดมการณ์ ทำเพื่อประชาชน มีความรู้รักสามัคคี และทุกหน่วยงานประสานหลอมรวมกัน ผนวกกับการสนับสนุนของภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี อันได้แก่ ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และสื่อสารมวลชน ที่มาร่วมมือช่วยงานกันก็ย่อมเป็นการรวมพลัง ให้งานประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น รวดเร็วมากขึ้น ต้องไม่ลืมว่า ทุกองค์กรต้องปรับตัวในการทำงานเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย ปรับตัวให้ทันต่อภัยคุกคามต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา

ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยว่าตั้งแต่ช่วงมอบนโยบาย ผมเองได้ฝากถึงผู้บริหาร ข้าราชการ ะเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ให้ช่วยกันตั้งใจทำวันนี้ให้มีคุณค่า เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคง ในการที่จะเป็นคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงกับพี่น้องประชาชน หัวใจการทำหน้าที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน เนื่องในวาระ 130 ปี กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 1 เมษายน พวกเราต้องช่วยกันทำองค์กรให้เข้มแข็ง ให้เป็นหน่วยงานหลัก ที่สร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ เราต้องช่วยเหลือเกื้อกูล ทุ่มเท ร่วมกับภาคีเครือข่ายให้เต็มกำลัง พร้อมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นในเชิงคุณภาพ ทั้งในองค์กร และต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ก็จะเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า “อมตะอยู่เสมอ” และเป็นหลักชัยให้เกิดความมั่นคงที่ยั่งยืน

ที่สำคัญเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผมได้เปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ คณะทำงาน Change for Good ของกระทรวงมหาดไทย หลักสูตร “ผู้นำการขับเคลื่อนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก จังหวัดนครนายก วันนั้นเราเห็นประจักษ์ชัดเจนว่าทุกคนที่เต็มใจเเละตั้งใจมาร่วมกัน Change for Good เพื่อส่วนรวม หลายคน ไม่ได้มีเเค่งานประจำหรือหน้าที่อย่างเดียว เเต่จะมีภารกิจพิเศษ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวมเเละยังประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน ถือเป็นโอกาสที่ดีในวาระครบรอบการก่อตั้งกระทรวงมหาดไทย 130 ปี ที่ทุกคนที่จะมา Change for Good ให้เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์  มีใจกล้าหาญ กล้าทำกล้าคิดนอกกรอบ โดยอาศัยองค์ความรู้ และทัศนคติที่ดี มีอุดมการณ์ และความสามารถในการทำงานเพื่อส่วนรวม สิ่งเหล่านี้จะทำให้เป้าหมายการ Change for Good ประสบความสำเร็จ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่าในปัจจุบัน คนในองค์กรทำงานแบบหุ่นยนต์มากขึ้น คือ ทำงานตามคำสั่ง ทำตามหน้าที่ หรือตามสิ่งที่ได้รับมอบหมาย ผู้บังคับบัญชาชี้นิ้วสั่งก็เห็นชอบแล้วก็ทำตาม แต่ความจริงเเล้วไม่ใช่ ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีจะต้องคิดริเริ่มสิ่งที่สร้างสรรค์ เพื่อปรับปรุงงานที่นอกเหนือจากงานที่ทำอยู่ ผู้บังคับบัญชาที่ดีจะต้องทำให้ผู้บังคับบัญชา สั่งการหรือกระทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ซึ่งจะก่อให้เกิดสิ่งดี ๆ จึงอยากให้ทุกคนมีเป้าหมายชีวิต มีแพชชั่น เเละขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย Change for Good ความยั่งยืนของสังคมจึงจะเกิดขึ้นได้

ดังนั้น  Change for Good  จึงเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทีมมหาดไทย ต้องรู้ เข้าใจ และใช้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจการสื่อสารทั้งภายในและภายนอก ต้องมีความรัก และพร้อมในการทำหน้าที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับสิ่งที่ดี รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ รุ่นพี่ต้องเป็นแบบอย่างและถ่ายทอดสื่อสารการทำงานให้แก่รุ่นน้องได้ เพื่อให้เรามีบุคลากรที่ดี ที่รักองค์กร รักเกียรติยศ รักชื่อเสียง และสำนึกตลอดเวลาว่าเราคือข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อยากจะทำงานเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

ปลัด มท.ระบุด้วยว่า ประเทศไทยเราโชคดีมาก ที่มีขุมทรัพย์ทางปัญญา คือ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้พระราชทานให้คนไทย สิ่งที่เป็นหน้าที่ของพวกเรา คนไทยทุกคนจะต้องช่วยกันคิดว่า ทำอย่างไรจะทำให้เกิดชุมชนหมู่บ้านในฝัน หรือหมู่บ้านเเห่งความสุข และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ว่าจะสืบสาน รักษา เเละต่อยอด แนวพระราชดำริของพระบรมชนกนาถของพระองค์ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงหรือทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา  นั้นหากคนไทยสามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดเป็นรูปธรรม พัฒนาตนเองและพัฒนาชีวิตให้มีความเป็นอยู่ที่มั่นคง และเกิดความเจริญแก่ประเทศชาติอย่างยั่งยืนได้แน่นอน