มูลนิธิซิตี้ ร่วมองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ปลุก “นิวสกิล” สร้างรายได้แก่เยาวชนที่ก้าวพลาด พร้อมชี้กว่า 22% ของการกระทำผิดซ้ำมาจาก “การว่างงาน”

กรุงเทพฯ 2 ธันวาคม 2564 – มูลนิธิซิตี้ ร่วมมือ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เดินหน้าดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน (Career Development for Youth Program) สำหรับเยาวชนที่อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน สังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน 6 แห่งทั่วประเทศ ผ่าน 3 องค์ประกอบหลักในการดำเนินงาน ได้แก่ 1.การอบรมทักษะชีวิต 2.การอบรมทักษะอาชีพ และ 3.การอบรมการเตรียมความพร้อมในการทำงาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้รับโอกาสในการฝึกอบรมหลักสูตรทักษะและกิจกรรมที่เสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกอันเหมาะสมแก่เยาวชน พร้อมทั้งช่วยพัฒนาความสามารถในการจัดการกับความต้องการและความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการทำงาน รวมทั้งเพิ่มพูนทักษะด้านอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานด้วยการสนับสนุนให้เยาวชนได้รับโอกาสในการฝึกงาน ผ่านการติดต่อสื่อสารและเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ จากผู้ประกอบการธุรกิจหลากหลายประเภท อันจะนำไปสู่การได้รับการจ้างงานในงานที่เหมาะสมในอนาคตต่อไป จากข้อมูลรายงานของกรมพินิจฯ เมื่อปีพ.ศ. 2557 พบว่าร้อยละ 43.25 ของคดีเด็กและเยาวชนทุกแห่ง รวมถึงอัตราการกระทำผิดซ้ำในปีพ.ศ. 2559 กว่าร้อยละ 22 ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับการว่างงานของเยาวชน

นางสาววันวิสาข์ โคมินทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ตัวแทนมูลนิธิซิตี้ กล่าวว่า เพราะเยาวชนคืออนาคตของชาติ ดังนั้นการพัฒนาเยาวชนให้เติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรตระหนักและให้ความสำคัญ ด้วยเหตุนี้มูลนิธิซิตี้ที่มีเป้าหมายในการทำงานที่ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเยาวชนทั่วโลกให้ดีขึ้น ผ่านการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินอย่างทั่วถึง ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพสำหรับเยาวชน นอกจากการให้ความช่วยเหลือมูลนิธิซิตี้ยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำและความพร้อมของพนักงานผ่านการขับเคลื่อนแนวคิดความเป็นผู้นำและนวัตกรรม จึงได้ร่วมมือกับ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ดำเนิน “โครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน” (Career Development for Youth Program) ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2560 จนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นเป้าหมายไปที่เยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน สังกัดกรมพินิจฯ ทั่วประเทศ เพื่อให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้รับโอกาสในการฝึกอบรมหลักสูตรทักษะและกิจกรรมที่เสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกอันเหมาะสมแก่เยาวชน พร้อมทั้งช่วยพัฒนาความสามารถในการจัดการกับความต้องการและความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการทำงาน รวมทั้งเพิ่มพูนทักษะด้านอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานด้วยการสนับสนุนให้เยาวชนได้รับโอกาสในการฝึกงาน ผ่านการติดต่อสื่อสารและเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ จากผู้ประกอบการธุรกิจหลากหลายประเภท เพื่อนำไปสู่การได้รับการจ้างงานในงานที่เหมาะสมในอนาคตต่อไป นอกจากนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นอันดีที่ทำให้เยาวชนสามารถเดินเข้าสู่สังคมปกติได้อย่างมีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย

นางสาวภิรญา ฐิตินนทชัย ผู้ประสานงานโครงการอาวุโส องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า โครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน (Career Development for Youth Program) ได้ถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับเยาวชน ตั้งแต่อายุ 15 – 24 ปี ที่อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน สังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่  ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนสิรินธร จังหวัดนครปฐม ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา จังหวัดนครปฐม ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี จังหวัดนครปฐม ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 1 จังหวัดระยอง ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 2 จังหวัดราชบุรี และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 11 จังหวัดลพบุรี โดยมี 3 องค์ประกอบหลัก ประกอบไปด้วย 1.การอบรมทักษะชีวิต 2.การอบรมทักษะอาชีพ และ 3.การอบรมการเตรียมความพร้อมในการทำงาน

สำหรับการดำเนินงานในปีพ.ศ. 2564 โครงการได้มุ่งเน้นไปที่เยาวชนหญิง เนื่องจากข้อมูลพบว่ากว่าร้อยละ 80 ของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในศูนย์ฝึกและอบรมฯ มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยหรือน้อยมาก และส่วนใหญ่ไม่เข้าถึงการจ้างงาน ในขณะที่รายงานของกรมพินิจฯ เมื่อปีพ.ศ. 2557 พบว่าร้อยละ 43.25 ของคดีเด็กและเยาวชนที่ถูกรวบรวมโดยสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทุกแห่งเกี่ยวข้องกับเยาวชนที่ว่างงาน รวมถึงอัตราการกระทำผิดซ้ำในปีพ.ศ. 2559 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 22 โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้กระทำความผิดซ้ำคือการว่างงาน ดังนั้นโครงการดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเยาวชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กผู้หญิงและเยาวชนหญิง เพื่อสร้างทักษะที่จำเป็นในการเพิ่มการจ้างงานอันจะนำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการลดลงของอัตราการกระทำผิด โดยผลลัพธ์ของการดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 จนถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 มีเยาวชนจำนวน 143 คน ผ่านการอบรมครบทั้ง 3 องค์ประกอบ และมีเยาวชนจำนวน 136 คน ได้มีโอกาสฝึกงานหรือได้รับการจ้างงานในสถานประกอบการ ตามลำดับ

ด้าน คุณสุพัตรา สารสิทธิ์ หรือเชพตุ๊กตา เจ้าของร้านครัวบ้านยี่สาร หนึ่งในผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาทักษะอาชีพเยาวชน เปิดเผยว่า การที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่าเยาวชนทุกคนล้วนควรได้รับการส่งเสริมและพัฒนาตนเองในทุกด้านบนพื้นฐานความเท่าเทียม รวมถึงสามารถประกอบอาชีพมีรายได้พึ่งพาตนเองได้ในอนาคต ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นอีกช่องทางที่ช่วยให้เยาวชนที่ก้าวพลาดได้มีโอกาสในการพัฒนาตนเองทั้งด้านการใช้ชีวิตและการทำงาน เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งอย่างเป็นปกติสุข โดยร้านครัวบ้านยี่สารได้เปิดโอกาสให้เยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี จังหวัดนครปฐม จำนวน 3 คน ได้มาเรียนรู้ทักษะการทำงานในด้านต่าง ๆ ภายในร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การรับเมนู การเสิร์ฟอาหาร การช่วยทำอาหาร ฯลฯ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทำงาน เยาวชนเหล่านี้ได้แสดงออกให้เห็นถึงความตั้งใจในการเรียนรู้การทำงานได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิซิตี้ได้ที่  www.citifoundation.com

###

เกี่ยวกับ มูลนิธิซิตี้

มูลนิธิซิตี้ มีบทบาทในการทำงานที่ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้มีรายได้น้อยในชุมชนทั่วโลกให้ดีขึ้น ด้วยการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินอย่างทั่วถึง การสร้างอาชีพสำหรับเยาวชน รวมถึงสร้างสภาพเศรษฐกิจของชุมชนที่ดีขึ้น นอกจากการให้ความช่วยเหลือแล้ว มูลนิธิซิตี้ ยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำ และความพร้อมของพนักงาน ที่สนับสนุนให้พันธกิจของบริษัทประสบความสำเร็จ และขับเคลื่อนแนวคิดความเป็นผู้นำ และนวัตกรรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมของมูลนิธิฯ ที่ www.citifoundation.com

เกี่ยวกับ “ซิตี้”

ธนาคารชั้นนำของโลก ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ในกว่า 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ซิตี้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.citibank.co.th | เฟซบุ๊ก: Citi Thailand  | LINE: Citi Thailand

เกี่ยวกับองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนดำเนินงานในประเทศไทยมากว่า 38 ปี พวกเรามุ่งมั่นที่จะสร้างและส่งเสริมให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ซึ่งปกป้องคุ้มครองสิทธิเด็ก โดยเฉพาะความเสมอภาคสำหรับเด็กผู้หญิง โดยร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรในทุกบริบท เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและขับเคลื่อนภาคประชาสังคม เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อทัศนคติ พฤติกรรม และแนวทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อพัฒนาความสามารถให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจกำหนดนโยบายในเชิงบวก และเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยตรงต่อกลุ่มเปราะบางและถถูกละเลยโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง  ให้ได้รับการปกป้องคุ้มครองและได้รับสิทธิอันพึงมีพึงได้โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ให้มีความปลอดภัย มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น มีส่วนร่วมในการสะท้อนความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ และมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.plan-international.org/thailandเฟซบุ๊ก: plan.thailand