จุรินทร์ สั่งลุย “ตลาดข้าวส่งออก” เร่งส่งเสริมการขายในต่างประเทศ เน้นเชิงรุก ทั้ง “เจรจา-โปรโมชั่น-OBM”

25 พฤศจิกายน 2564 นางมัลลิกา บุญมีตระกูลมหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามรายงานสถานการณ์ตลาดข้าวโซนใกล้ โดยสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศรายงาน พร้อมนายจุรินทร์ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เร่งดำเนินการตามแผนโครงการและกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกสินค้าข้าวประจำปี 2565 เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-2567 โดยยึดหลักการ “ตลาดนำการผลิต” โดยอาศัยเครือข่ายของทูตพาณิชย์ในฐานะเซลส์แมนประเทศที่กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้การส่งออกข้าวไทยบรรลุเป้าหมายปริมาณ 6 ล้านตันตลอดปี 2564

นางมัลลิกา ระบุว่า ทั้งนี้ตลาดส่งออกข้าวไทยบางประเทศที่ประสบความสำเร็จในการขยายตลาด เห็นได้จากอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ตลาดญี่ปุ่น นำเข้าข้าวจากไทยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 ปริมาณ 215,580 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 คิดเป็นมูลค่า 3,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีตลาดจีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ที่อัตราการขยายตัวโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผนการจัดกิจกรรมขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งดำเนินการทุกช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยร่วมกับห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมในประเทศนั้น ๆ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบ เพื่อประชาสัมพันธ์เพิ่มการรับรู้แก่ผู้บริโภคท้องถิ่น เพื่อขยายโอกาสการส่งออกข้าวไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยทีมเซลส์แมนประเทศได้เริ่มเตรียมการโครงการต่าง ๆ เช่น ทีมเซลส์แมนประเทศที่ญี่ปุ่นจัดกิจกรรมส่งเสริมเมนูข้าวกล่องอาหารไทย โดยใช้ข้าวหอมมะลิจำหน่ายในโรงอาหารตามออฟฟิสต่างๆ รวมทั้งซูปเปอร์มาร์เก็ตทั้งเมืองหลักและเมืองรอง และส่งเสริมเมนูอาหารไทยที่ประกอบด้วยข้าวไรซ์เบอรรี่จำหน่ายในร้านอาหารภายในโรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ข้าวไทยให้อยู่ในระดับพรีเมียม รวมทั้งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Foodex 2022 โดยจัดสาธิตการทำอาหารไทยเพื่อสุขภาพ โดยใช้ข้าวหอมมะลิและข้าวไรส์เบอรี่ เป็นต้น

” ทั้งนี้รองนายกฯ จุรินทร์ให้คำแนะนำเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ส่งออกข้าวของไทยว่า การขยายตลาดส่งออกข้าวของไทยจะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับเทรนด์หรือกระแสในแต่ละตลาดด้วย ตัวอย่างเช่น ตลาดจีนควรมุ่งเน้นข้าว พรีเมียมให้มากขึ้น อาทิ กลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มเด็ก ข้าวแปรรูปสำหรับเด็ก กลุ่มคนป่วย ข้าวน้ำตาลต่ำ โดยเน้นประชาสัมพันธ์คุณประโยชน์ของข้าวไทย นอกจากนี้ ในทุกภูมิภาคของจีนยังต้องผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทยในช่องทางต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างเข้มข้นต่อไป ทั้งการใช้ KOL ไลฟ์สดร่วมกับ KOL การสนับสนุนให้ร้านอาหารไทยใช้ข้าวไทย เป็นต้น ตลาดญี่ปุ่นเน้นข้าวประเภท Functional Food เช่น ข้าว  ออแกนิค ข้าวไรซ์เบอรี่ ตามกระแสรักสุขภาพและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ข้าวแพ็คพร้อมรับประทานแบบอุ่นไมโครเวฟก็เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากตอบโจทย์สังคมเร่งรีบและการทำงานที่บ้าน ตลาดมาเลเซียเน้นตลาดเฉพาะ เช่น ข้าวสังข์หยด ภายใต้กลยุทธ์ Deepening and Widening Business Relations เน้นการขยายตลาดทั้งมิติเชิงกว้าง ขยายฐานลูกค้า ผู้บริโภค และเชิงลึก สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำเข้ารายใหญ่ ตลาดฮ่องกงและสิงคโปร์ เน้นข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ New Crop เนื่องจากใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน และข้าวเป็นสินค้ามงคลที่ชาวจีนนิยมใช้เป็นของฝากในช่วงเทศกาล เป็นต้น ” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว