ช่วยเหลือคนจากไป ต่อลมหายใจให้คนเป็น 

เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 นี้ วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ได้รับบทบาทหน้าที่สำคัญในสถานการณ์นี้ คือ การเป็นสถานที่สุดท้ายของผู้จากไปด้วยโรคระบาด ด้วยการเป็นสถานที่ฌาปนกิจร่างของผู้เสียชีวิต ทำให้ในแต่ละวัน ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ต้องดำเนินการเผาศพกันทุกวัน ทั้งรอบเช้า และรอบบ่าย ตามมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่ง ณ ขณะนี้ชาวบ้านในหลายพื้นที่นั้นมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรการทางสาธารณสุขในการฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อ ทำให้การต่อต้านการใช้เมรุในพื้นที่ของตนน้อยลง อาตมาขอยืนยันอีกครั้งว่า ร่างผู้เสียชีวิต ได้รับการจัดเตรียมมาจากทางโรงพยาบาลเป็นอย่างดีแล้ว และโดยปกตินั้นศพย่อมไม่แพร่เชื้ออยู่แล้ว หากไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวกับสารคัดหลั่ง และยิ่งใช้การเผาร่าง เชื้อโรคก็ตายหมดไม่มีเหลือ ขอให้ทุกคนสบายใจ และให้ความร่วมมือกับทางวัดในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เราจะผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน

จากการที่อาตมาเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพทุก ๆ วัน อาตมาได้เห็นอารมณ์ที่น่าหดหู่ใจ เศร้าใจ เพราะผู้เสียชีวิตเหล่านี้ จากไปอย่างกะทันหัน จากไปอย่างไม่ทันตั้งตัว จากไปโดยไม่มีคำบอกลา และญาติมิตรของผู้เสียชีวิตก็ไม่สามารถบอกลาคนที่รักได้เลย ไม่มีโอกาสแม้จะได้รดน้ำศพหรือจัดงานศพตามธรรมเนียมประเพณี เห็นได้แต่เพียงโลงบรรจุร่างของผู้เสียชีวิต ส่งผู้จากไปได้เพียงบันไดเมรุ เป็นที่น่าสะเทือนใจ และทำให้อาตมาเห็นปัญหาอย่างหนึ่ง คือ พวกอาสาสมัคร กู้ภัยบางคนบางกลุ่มที่ทำหน้าที่รับศพจากโรงพยาบาลเพื่อมาฌาปนกิจที่วัดนั้น มักจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากญาติผู้เสียชีวิตในอัตราราคาค่อนข้างสูง ซึ่งนับว่าอาจเป็นการซ้ำเติมญาติผู้วายชนม์ที่นอกจากต้องสูญเสียคนที่รักไปแล้ว ยังต้องเสียเงินเสียทองเป็นค่ารถอีก สำหรับหลาย ๆ คน เงินจำนวนนั้น ในเวลาที่กะทันหันเช่นนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา อาตมาเห็นว่าควรจะสงเคราะห์ผู้สูญเสียให้ดีที่สุด มิให้เป็นทุกข์ซ้ำซ้อน จึงระดมเงินจากผู้มีจิตศรัทธา ผ่านกองทุนสวด เผา ฟรี ของทางวัดไผ่ล้อม จัดซื้อรถตู้สำหรับเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตจากโรงพยาบาลมายังวัด เป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท โดยทางวัดจะไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ จากญาติผู้เสียชีวิตในการเคลื่อนย้ายศพ อาตมาเชื่อว่าการจัดซื้อในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่การสงเคราะห์ผู้สูญเสียได้มาก 

นอกจากนี้ เงินจากการระดมกองบุญซื้อรถตู้นั้นยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก มากพอที่จะนำไปทำประโยชน์อื่น ๆ ได้อีก อาตมาจึงนำเงินไปจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจ มูลค่า 1,200,000 บาท มอบให้แก่โรงพยาบาล เพื่อใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 ซึ่งเครื่องช่วยหายใจนั้น เป็นสิ่งสำคัญ เป็นดังยุทธปัจจัยที่จะช่วยยื้อชีวิตผู้ป่วยหนัก ซึ่งต้องการเครื่องช่วยหายใจได้ เพราะหากเครื่องช่วยหายใจไม่พอ ก็ยิ่งเพิ่มความสูญเสียให้มากขึ้นไปอีก

อาตมาจึงขออนุโมทนาบุญแก่ผู้มีจิตศรัทธา บริจาคทุนทรัพย์สมทบทุนยังกองทุนสวด เผา ฟรี ของทางวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม มา ณ ที่นี้ ขอให้ทุกท่านได้ทราบว่า ท่านได้ทำบุญใหญ่ สงเคราะห์คนจากไป ต่อชีวิตให้คนเป็น จะสมทบทุนเพียงใด กี่บาทกี่สตางค์ ก็ล้วนเป็นบุญใหญ่ยิ่งที่ควรได้รับการสรรเสริญ ได้รับการอนุโมทนาโดยถ้วนหน้ากัน 

การช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์นั้น ไม่ว่าจะทำด้วยแรงกาย หรือแรงทรัพย์ ก็เป็นบุญ เพราะบุญเช่นว่านี้เกิดขึ้นจากใจที่มีเมตตากรุณาเป็นพื้นฐาน และมีปัญญาเป็นองค์ประกอบ ปัญญาว่าควรช่วยเหลืออย่างไรให้เกิดประโยชน์ เมตตากรุณา และปัญญา มาเคียงคู่กัน ย่อมเกิดสุขทั้งแก่ตนเอง และผู้อื่น เวลาเราช่วยเหลือผู้อื่น แม้ต้องสละเงิน สละแรง สละความสุขส่วนตนออกไปบ้าง แต่พอเขามีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย ความสุขที่ว่านี้คืออานิสงส์ในขั้นแรกเลย ได้ทันที ไม่ต้องรอ เป็นผลบุญอันทันใจที่ใคร ๆ มักมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วคือผลลัพธ์ที่ชัดเจน บางทีก็เหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ ตัวลอยเสียจริง ๆ ก็เพราะความปลื้มปีติในบุญที่ได้ทำ ได้เห็นผลของบุญทำให้คนพ้นทุกข์ได้ยาก จิตใจ ไปจนถึงร่างกายก็ย่อมผ่องใสขึ้น จิตใจมีความละเอียดมากขึ้น จะเห็นได้ว่า บุญนั้นทำง่าย และมีโอกาสอยู่รอบ ๆ ตัว เพียงแต่เราต้องเห็นโอกาสนั้น และคิด ทำให้เป็นบุญกุศล เพื่อให้เราได้บุญ ได้ความสุขใจ ได้พัฒนาจิตใจ ผู้อื่นได้ประโยชน์สุข สังคมก็จะน่าอยู่

ทางวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ได้ตั้งกองทุนสวด เผา ฟรี มาเป็นเวลายาวนาน ระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาจัดพิธีศพ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการฌาปนกิจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะอาตมาเห็นว่าการจัดงานศพนั้นเป็นพิธีกรรมสำคัญสำหรับทุกชีวิต เป็นดังขั้นตอนสุดท้ายของผู้วายชนม์ก่อนจะไปสู่สัมปรายภพ เป็นโอกาสสุดท้ายของผู้อยู่เบื้องหลังที่จะได้ร่ำลาคนที่พวกเขารัก และสำหรับหลาย ๆ คนแล้ว การจัดงานศพถือว่าเป็นงานใหญ่ ต้องใช้งบประมาณมากสำหรับพวกเขา ทำให้อาตมาตั้งกองทุนนี้เพื่อสงเคราะห์ทั้งคนที่จากไป และคนที่ยังอยู่ ตลอดเวลาที่ตั้งกองทุนมา วัดไผ่ล้อมได้จัดพิธีศพเป็นจำนวนมาก จึงขออนุโมทนาแก่ผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนกองทุนสวด เผา ฟรี ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถือเป็นบุญของท่านที่ได้สงเคราะห์ผู้มีความทุกข์โทมนัส ขออนุโมทนา

สุดท้ายนี้ หากญาติโยมผู้อ่านมีความประสงค์จะสมทบทุนยังกองทุนสวด เผา ฟรี ของทางวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม สามารถสมทบทุนได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อ กองทุนสวด เผา ฟรี วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม เลขที่บัญชี 516-1-01179-9 ขออนุโมทนา และขอเจริญพร