ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดค้าส่งสินค้าทางการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งตลาดผลไม้ยุคใหม่ โดยเฉพาะ “ตลาดทุเรียน” ที่ตอนนี้กำลังมีผลผลิตจากเกษตรกรชาวสวนเข้ามาทยอยขายกัน ใครที่เฝ้ารอทุเรียนราชาผลไม้มาตลอดทั้งปี สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ตลาดสี่มุมเมือง

คุณชาลินี ลอยนุ้ย เกษตรกรชาวสวนจากจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด เจ้าของแผง นุช-นนท์ จำหน่ายทุเรียนที่ตลาดสี่มุมเมืองมา 35 ปี และยังเป็นดีลเลอร์ส่งทุเรียนให้กับห้างขายปลีกยักษ์ใหญ่ของประเทศ เผยว่า “ที่ร้านจะมีทุเรียนหลายพันธุ์จำหน่าย สำหรับปีนี้ราคาเฉลี่ยของหมอนทองอยู่ที่ 140 บาท ชะนีไข่ อยู่ที่ 100 บาท ก้านยาว อยู่ที่ 140 บาท กระดุม อยู่ที่ 100 บาท และนกกระจิบ อยู่ที่ 130 บาท”

เมื่อถามถึงกระแสผู้คนกล่าวถึงทุเรียนแพง เพราะจาก ล้ง หรือ พ่อค้าคนกลาง คุณชาลินีกล่าวว่า จริงๆ ทุเรียนแพงเพราะกว่า 80% ของผลผลิตจะส่งออกจีน ยิ่งตอนนี้ผู้ซื้อชาวจีนมีการปรับตัว จากเมื่อก่อนที่ซื้อเฉพาะเบอร์สวยๆ เกรด A ก็เริ่มหันมาเหมาซื้อเกรดรองๆ ลงมา ทำให้ทุเรียนที่จำหน่ายในประเทศมีน้อยลงไปด้วย

“ปีนี้การจำหน่ายทุเรียนถือว่าไม่กระทบมากนัก เพราะเป็นผลไม้ที่คนไทยยังชอบรับประทานอยู่ แต่แม่ค้าปลีกที่รับไปขายอาจจะลดความถี่ในการซื้อลง เช่น ถ้าซื้อสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็เหลือ 2-3 ครั้ง ด้วยเศรษฐกิจที่แย่ลง บวกกับโควิดรอบ 3 จึงทำให้ส่งผลกระทบ ที่ร้านจึงปรับกลยุทธ์การขายโดยลูกค้าเมื่อเลือกซื้อทุเรียนที่ต้องการได้แล้ว ทางร้านจะมีบริการปลอกบรรจุแพ็ค ลูกค้าก็แฮบปี้เพราะได้ทุเรียนราคาดีกว่าที่อื่น และสะดวกสามารถนำกลับไปรับประทานได้เลย หากลูกไหนแกะออกมาแล้วเนื้อไม่ดี ไม่หวาน ก็สามารถเปลี่ยนได้จนกว่าจะพอใจ” คุณชาลินี กล่าว เมื่อถามถึงแนวโน้มการขายทุเรียนปีนี้

คุณชาลินี ยังย้ำถึงลูกค้าที่อยากกินทุเรียนอร่่อยๆว่า แน่นอน อย่างสวนของที่ร้านจากทั้งจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด เกษตรจังหวัดลงพื้นที่ตรวจคุมเข้มเลย ดังนั้น ทุเรียนอ่อน หรือทุเรียนที่ไม่ได้มาตรฐานจะไม่สามารถนำมาขายได้

“ถ้าเป็นที่ร้านแนะนำ อยากให้เลือกลูกดำๆ ที่มันไม่ค่อยสวยและมีมดขึ้น เพราะแปลว่าลูกนั้นสุก หวาน และปลอดสารพิษ อย่างของที่ร้านลูกไหนดำๆ จะขายดีมากกว่าลูกปกติ แต่ถ้ามาตรฐานทั่วๆ ไปก็อยากแนะนำให้เลือกลูกที่ยอดหนามแห้งๆ เป็นสีน้ำตาลเข้ม แสดงว่าสุกกำลังดี” คุณชาลินี กล่าวแนะนำเคล็ดลับการเลือกทุเรียน

อีกหนึ่งร้านที่ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน ร้านน้องฟีม เจ้าของร้านคุณรภัสนันท์ วิจิตรเกรียงไกร สั่งสมประสบการณ์การขายทุเรียนมากว่า 10 ปี จนสามารถเปิดร้านขายเองเปิดเผยว่า “ทุเรียนปีนี้ราคาเฉลี่ยของหมอนทองอยู่ที่ 85-155 บาท ชะนีไข่ อยู่ที่ 85-120 บาท ก้านยาว อยู่ที่ 150 บาท กระดุม อยู่ที่ 100 บาท พวงมณี อยู่ที่ 150 บาท และนกกระจิบ อยู่ที่ 120-150 บาท ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดและรูปทรงของลูกทุเรียน แต่ข้างในคุณภาพดีเหมือนกันทุกลูก บางคนอยากได้ลูกสวยๆ เพื่อซื้อไปเป็นของฝาก หรือบางคนไม่ได้สนใจเรื่องรูปทรงของลูกทุเรียนก็เลือกแบบธรรมดา”

คุณรภัสนันท์อธิบายถึงสาเหตุที่ราคาทุเรียนแพงว่า ราคาทุเรียนสูงเพราะส่วนใหญ่จะส่งออกไปประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเหมากันไปเป็นคอนเทนเนอร์ มีเท่าไหร่ก็ขายหมด สำหรับทุเรียนที่ขายในประเทศ ต้นทุนจะสูงกว่า เพราะเป็นทุเรียนที่พร้อมรับประทาน จะไม่สามารถนำทุเรียนอ่อนไปขายได้ เพราะผิดทั้งจรรยาบรรณและผิดกฎหมาย น้ำหนักของลูกทุเรียนสุกพร้อมทานจะเบากว่าทุเรียนที่ส่งไปจีน ถ้าเป็นทุเรียนส่งออก จะเป็นทุเรียนที่ยังไม่สุกน้ำหนักต่อลูกก็เยอะกว่าทำให้เกษตรกรหลายสวนก็เลือกที่จะส่งออก

เมื่อถามถึงปีนี้ขายยากกว่าเดิมแค่ไหน คุณรภัสนันท์กล่าวว่า สำหรับที่ร้านยังขายดีอยู่ เรามีฐานลูกค้าประจำ ร้านเราขายแต่ทุเรียน และโชคดีที่เรามีทุเรียนทวาย (ทุเรียนนอกฤดู) ขายเกือบทั้งปี ก็จะสลับๆ กันมาขาย อย่างทุเรียนทวาย ก็จะมาจากทางใต้ ถือว่ารสชาติดีไม่แพ้ทุเรียนตามฤดูกาล อย่างตอนนี้ทุเรียนฤดูกาลส่วนใหญ่มาจากภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี

“แน่นอนที่สุด ปกติทางร้านจะคัดทุเรียนคุณภาพก่อนนำมาจำหน่ายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกี่ปี หรือมาซื้อตอนไหน ก็จะได้ทุเรียนอร่อยคุณภาพดีและราคาดี” คุณรภัสนันท์ กล่าวและยังแนะนำถึงวิธีการเลือกทุเรียนที่ดีว่า ให้เลือกที่หนามสีไหม้ๆ หนามห่างๆ ถ้าใช้ไม้เคาะจะดังป๊อกๆ แปลว่าเนื้อสุกกำลังดี หรือถ้าไม่แน่ใจมาซื้อที่ร้านให้บอกได้เลยว่าชอบทานเนื้อแบบไหน เราสามารถเลือกให้ได้ตามที่ต้องการ

นอกจาก แผงค้าทุเรียนแล้ว ตลาดทุเรียนที่ตลาดสี่มุมเมือง ยังเปิดโอกาสให้กับเกษตรกรชาวสวนขับรถมาเปิดท้ายขายทุเรียนได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรนำรถมาจอดขายกันเต็มทุกพื้นที่รอให้ทุเรียนเลิฟเวอร์มาเลือกซื้อกลับไปรับประทาน และหนึ่งในนั้นเกษตรกรชาวสวนที่ขับรถมาจำหน่ายทุเรียนที่ตลาดสี่มุมเมืองอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เปิดเผยว่า ของเราคัดแต่ทุเรียนสวยมาขาย ราคาของหมอนทองอยู่ที่ 150 บาท ชะนีไข่ อยู่ที่ 100 บาท และก้านยาว อยู่ที่ 150 บาท ส่วนมากจะนำทุเรียนพันธุ์หมอนทองกับชะนีมาขายเป็นหลัก ส่วนพันธุ์พวงมณี นกกระจิบ หรือก้านยาวจะนำมาขายเฉพาะลูกค้าประจำสั่งมา

“ราคาทุเรียนปีนี้มีราคาต้นทุนสูงขึ้นเพราะว่าเจ้าของสวนส่วนใหญ่มีการส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ ทำให้ผู้ค้าต้องซื้อทุเรียนแพงกว่าทุเรียนที่ส่งออกต่างประเทศ เพราะทุเรียนที่ส่งต่างประเทศจะตัดผลตอนอายุอ่อนได้น้ำหนักดีกว่าทุเรียนที่ขายตลาดในประเทศ” ชาวสวนทุเรียน กล่าว

เมื่อถามถึงแนวโน้มการขายปีนี้ ระบุว่า หากเทียบปริมาณการขายที่ผ่านมากับปีนี้จะพอๆ กัน เนื่องจากต้องเจอกับสถานการณ์โควิด –19 ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ลูกค้าประจำที่เป็นแม่ค้าปลีกปกติจะมารับทุเรียนไปขาย หลายคนได้รับผลกระทบเรื่องเศรษฐกิจ หมุนเงินไม่ทันทำให้หยุดการขายไปหลายราย แต่ถามว่าคนยังขายได้ไหม ก็ยังไปได้ตลอด ยอดก็ไปเรื่อยๆ แต่ไม่คึกคักเท่าเมื่อก่อน

ผู้ค้ารายนี้ยืนยันว่า ปีนี้คนไทยยังคงได้บริโภคทุเรียนที่อร่อยเหมือนเดิมเพราะ ผู้ค้าที่ตลาดสี่มุมเมืองทุกคนจะไม่ตัดทุเรียนอ่อนมาขายตามนโยบายของตลาดและภาครัฐ ซึ่งมีกฎหมายควบคุมหากใครตัดทุเรียนอ่อนมาจำหน่ายจะถูกปรับ”สำหรับทุเรียนที่นำมาขาย มาจากจังหวัดจันทบุรี

ส่วนจะเลือกว่าทุเรียนลูกไหนดี ผู้ค้าระบุว่า “เคล็ดลับในการเลือกซื้อทุเรียน จะเลือกจากใช้ไม้เคาะฟังเสียง และตอนจับลูกที่สุกกำลังทานจะมีน้ำหนักเบา สีที่หนามจะมีสีน้ำตาลเข้มปลายน้ำจะเหี่ยวๆ แห้งๆ หนามจะถ่างออก เป็นอันใช้ได้”

ขอเชิญชวนมาร่วมอุดหนุนเกษตรกรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุเรียนซึ่งช่วงเวลานี้มีผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก นอกจากจะได้ทุเรียนราคาดี คุณภาพดี ยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรชาวสวนให้มีกำลังใจที่จะสานต่ออาชีพนี้ต่อไป