เมเจอร์+ทิสโก้ เซ็นMOU บุกคอนโดลักซ์ชัวรี่ต่อเนื่อง “มิวนีค สุขุมวิท 23” ตั้งเป้าสิ้นปีจอง100%

เมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ผนึกทิสโก้แบงก์ลงนามหนุนเดินหน้าปิดยอดจอง “MUNIQ SUKHUMVIT 23” (มิวนีค สุขุมวิท 23) หลังยอด Pre-sale สิ้นปี 2016 ทะลุ 70% เชื่อคอนโด High Rise ย่าน CBD 2017 ฟื้น หลังพบสัญญาณบวกรัฐหนุนระบบรางกรุงเทพฯ ชั้นในแข็งแรง มั่นใจสิ้นปีปิดจบยอดจอง 100%

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการลงนามความร่วมมือ หรือ MOU ร่วมกับ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ครั้งนี้ว่า เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างของ โครงการ มิวนีค สุขุมวิท 23 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ ในย่าน Central Business District (CBD) ที่เปิดตัวเมื่อไตรมาส 3 ของปี 2559 ที่ผ่านมาด้วยมูลค่าโครงการ กว่า 2,600 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่ม Young Generation (คนรุ่นใหม่) และกลุ่มStartup (สตาร์ทอัพ) เป็นเจ้าของธุรกิจ ให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว ใส่ใจในเรื่องของวัสดุพรีเมียม มีคุณภาพสูง การคมนาคมสะดวก ภายใต้นิยาม “Sensible Luxury” ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ สำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติของเมเจอร์ฯ ในอนาคต

สำหรับการเปิดตัวที่ผ่านมามียอดจองเข้ามาสูงถึง 70% ความสำเร็จนี้เอง เมเจอร์ฯจึงเดินหน้าเพื่อปิดยอดจองให้ครบ 100% ในสิ้นปี โดยโครงการ MUNIQ SUKHUMVIT 23 มีพื้นที่ ประมาณ 1-1-35 ไร่ สูง 36 ชั้น จำนวน 201 ยูนิต เริ่มต้นพื้นที่ใช้สอย 35-42.5 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน ,57-98 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน , 88.5-144 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน พร้อม 1 ห้องเอนกประสงค์,115-187 ตารางเมตร ขนาด 2-3 ห้องนอน Duplex (ดูเพล็กซ์) ไปจนถึง 139 ตารางเมตร Triplex (ทรีเพล็กซ์) ทั้งนี้จำนวนห้องกับพื้นที่ออกแบบมาภายใต้แนวทางความคิด “การใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ” ซึ่งเป็นหลักการคิดที่ง่าย และนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงกับโครงการระดับลักซ์ชัวร์รี่ ที่ให้ความสนใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย ภายใต้พื้นที่ใช้สอยที่จัดวางด้วยวัสดุคุณภาพอย่างลงตัว ใช้งานได้จริง

​“ด้วยจุดแข็งของโครงการ ที่ตั้งอยู่บนทำเล CBD ใจกลางย่านธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองใหญ่ ความเสี่ยงของเราจึงน้อย แม้ว่าเศรษฐกิจภาพรวมยังต้องรอสัญญาณบวกจากองค์ประกอบอื่นๆ มาพิจารณาร่วม ประกอบกับกลุ่มลูกค้าของเมเจอร์ฯ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ มักซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง หรือซื้อเพื่อเก็งกำไร จากหลายงานวิจัยแนวโน้มของราคาที่ดินในอีก 3 ปีข้างหน้า ระบุว่าที่ดินในย่านอโศก ทองหล่อ ตลอดจนย่านสุขุมวิทราคาประเมินที่ดินจะเพิ่มขึ้นอีกราว 100% เราจึงมั่นใจว่ายูนิตที่มีอยู่ของมิวนีค สุขุมวิท 23 เป็นห้องที่เหมาะแก่การลงทุนด้วยขนาด 1ห้องนอน 35 ตร.ม.และ 2 ห้องนอนขนาด 63.5 ตร.ม. ที่จะสามารถอำนวยสะดวกทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว” ดร.สุริยาขยาย

สำหรับคอนเซ็ปต์การตกแต่งโครงการ “MUNIQ SUKHUMVIT 23” ใช้แนวคิด “LIVE AS ART” เพื่อสื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ มีรสนิยม สะท้อนผ่านการออกแบบโครงการทั้ง Exterior (เอ็กซ์ทีเรีย) และ Interior (อินทีเรีย) คือ การผสมผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบ ขณะเดียวกันยังวางฟัพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว โดยทีมออกแบบระดับประเทศไม่ว่าจะเป็น Palmer & Tuner ทำการออกแบบงานสถาปัตยกรรม, J&H BOIFFILS ดูแลออกแบบอินทีเรียภายใน และ SHAMA ออกแบบแลนด์สเคป จึงเห็นความแตกต่างจากคอนโดมิเนียมทั่วไปอย่างชัดเจน คือโดดเด่นด้วยสไตล์มอนเดรียน อาร์ท (Mondrian Art) ขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่ายกึ่งมินิมอล (Minimal) และเลือกใช้วัสดุที่แตกต่าง เพื่อสะท้อนถึงถึงความพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวราคาระดับบน โดยเริ่มต้นที่ 212,300 บาทต่อตารางเมตร โดยเตรียมพบกับข้อเสนอสุดพิเศษ ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 500,000 บาท ในงานอีเว้นท์ระหว่างวันที่ 15- 19 มีนาคม นี้ ที่ ชั้น G ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ บริเวณด้านหน้าร้าน Harrods

นอกจากนี้ ดร.สุริยา ยังได้พูดถึงแนวโน้มความเติบโตภาพรวมของโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ว่า ในเซ็กเม้นต์ในทำเลที่ตั้งย่านสุขุมวิทตอนต้น อาจมีการชะลอตัวหรือเลื่อนการเปิดตัวโครงการในบางราย ด้วยยังไม่มั่นใจในสัญญาณบวกของเศรษฐกิจ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญของเมเจอร์ฯ ที่ได้เปิดตัวโครงการนี้ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา แต่เชื่อว่า ปี 2560 หลังจากที่ภาครัฐลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่องเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะระบบราง จะทำให้ธุรกิจภาคอสังหาฯ กลับมาสดใสอีกครั้ง และเชื่อว่าจะเติบโตได้ถึง 10% ซึ่งคาดว่าการขยายตัวของโครงการแนวสูงจะเกาะแนวรถไฟฟ้าและแนวถนนตัดใหม่รวมถึงพื้นที่ศูนย์กลางเมืองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ดร.สุริยากล่าวในที่สุด

โครงการ มิวนีค สุขุมวิท 23 ได้เปิด Pre-sale เมื่อเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 2,600 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณกลางปี 2017 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2019 ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.muniq23.com หรือ โทร. 087-778-1111