รับมือ DISRUPTION ยุค 5G

หลังจากการประมูลคลื่น 5G ไปหมาดๆ ความเปลี่ยนแปลง ผลกระทบ กำลังคืบคลานเข้ามาทุกขณะ ธุรกิจไหนตั้งรับ ปรับตัวไม่ทันหนีไม่พ้นถูก Disruption ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความพร้อมของ ผู้ให้บริการ อัตราค่าบริการ อุปกรณ์รองรับ แต่ตัวเร่งสำคัญที่ทำให้เกิด Disruption (ดิสรัปชั่น) เร็วขึ้นในขณะนี้ จากความกลัว ความกังวลของการระบาดของไวรัสโควิด-19 และเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ทำให้พฤติกรรมมนุษย์เปลี่ยนแปลง อยู่ในบ้านมากขึ้น และหันมาใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อความปลอดภัย โดยเทคโนโลยีต่างๆ ล้วนต้องอาศัยความเร็ว 5G เชื่อมต่อการทำงานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ดร.ศุภชัย สุขะนินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Disruption กล่าวถึงยุค 5G ของการสื่อสาร ไม่ใช่แค่มือถือ แต่รวมอุปกรณ์อัจฉริยะทุกชนิดที่เชื่อมอินเทอร์เน็ตได้ (Internet of Things) และด้วยความเร็วสูงมากกว่า 4G ถึง 100 เท่า จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง ผลกระทบทั้งแง่บวกและลบในทุกวงการอุตสาหกรรม แต่มั่นใจให้คุณประโยชน์มากกว่า ช่วยส่งเสริมธุรกิจให้คอนเน็คเร็วขึ้น งานจะติดตัวเราโดยใช้เพียงโทรศัพท์มือถือ ทำงานได้ทุกที่ แบบไม่สะดุด โลกแคบลง

“ผมประเมินว่า 5G ส่งผลกระทบทุกวงการอุตสาหกรรม เพียงแต่ว่า จะกระทบมาก-น้อย กระทบก่อนหรือหลัง อย่างการศึกษา จะทำให้โฉมหน้าการศึกษาเปลี่ยนไป การเปิดวีดีโอการเรียนการสอนจะสามารถทำได้ทันทีที่ต้องการ ภาพและเสียงจะคมชัด e-learning จะเกิดขึ้นอีกมาก หรือครูผู้สอนที่ชำนาญการ จากต่างประเทศ สามารถสอนไลฟ์และโต้ตอบแบบฉับไว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทาง ช่วยลดต้นทุน ทำให้ราคาคอร์สเรียนถูกลง เรื่องของความรู้จะกลายเป็น Knowledge is everywhere in the world

ในวงการแพทย์ การเรียกดูข้อมูลของคนไข้จาก Big Data จะเป็นไปได้อย่างรวดเร็วทันถ่วงทีต่อการรักษา การรักษาทางไกล ตรวจวินิจฉัยทางไกล หรือแม้แต่การผ่าตัดทางไกลก็จะทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน สำหรับ ธุรกิจรีเทล ต้องปรับโดยการใช้เทคโนยี VR (Virtual Reality) เพื่อสรรค์สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้บริโภค เช่น การฟิตติ้ง โดยลูกค้าสามารถเลือกเสื้อผ้าจากแคตตาล็อก และเสมือนสวมใส่ลองเสื้อผ้าผ่าน magic mirror เปลี่ยนสไตล์ เปลี่ยนสี หรือไซส์ เสมือนทดลองใส่เสื้อผ้าจริง ส่วนแวดวงอสังหาริมทรัพย์ก็ยังสามารถใช้ VR เช่นกัน ในการจำลองเห็นรายละเอียดของโครงการ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความน่าอยู่อาศัย ด้านการขนส่งด้วยความเร็วและมีเสถียรของ 5G จะช่วยให้รถไร้คนขับมีประสิทธิภาพสูงสุด ในวงการสื่อสารมวลชน การถ่ายทอดสดนอกสถานที่ในอนาคต ไม่ต้องอาศัยรถ OB เพียงแค่มีกระเป๋าใส่อุปกรณ์รองรับ 5G ก็สามารถถ่ายทอดสดและพร้อมกันหลายๆ ช่องได้อีกด้วย” ดร.ศุภชัย กล่าว

สำหรับอาชีพที่จะถูก Disruption และอาชีพที่จะเกิดขึ้นใหม่หลังจากที่มี 5G ใช้งานกันแล้วนั้น ดร.ศุภชัย ได้ให้ความเห็นว่า อาชีพที่จะถูก Disruption เร็วที่สุด คือ โอเปอเรเตอร์, ล่าม, เจ้าหน้าที่ธนาคาร, ธุรกิจที่ต้องใช้ตัวแทน อาทิ ตัวแทนประกันภัย เซอร์เวเยอร์ โบรกเกอร์ รวมถึงทนายทั่วไป, หมอทั่วไป, เภสัชกรทั่วไป, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เป็นต้น โดยบางส่วนจะถูกแทนทีด้วย AI ในขณะเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้แก่อาชีพใหม่ๆ เช่น เทรนเนอร์ออนไลน์ ที่สามารถสร้างแฟนคลับ และกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพล ในที่สุดสามารถขายคอร์สเทรนผ่านออนไลน์ หรืออาชีพฟรีแลนซ์ ที่เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายติดต่อกัน ได้ง่ายขึ้น และการกำเนิด Personal Brand ของตนเองได้รวดเร็วขึ้น

“ผมว่า 5G น่าจะพร้อมให้บริการครบทั่วประเทศประมาณกลางปีหน้า แต่เริ่มบริการเขตกรุงเทพก่อน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ฉะนั้นธุรกิจต่างๆ หากไม่ต้องการถูก Disruption ต้องเริ่มคิด เริ่มมองหาโอกาส ปรับเปลี่ยน Business Model ปรับเปลี่ยนวิธีการคิด ที่ผ่านมาเรามักลอกเลียนแบบตัวอย่างจากต่างประเทศ โดยไม่คำนึงถึงนิสัย พฤติกรรมบุคคลของแต่ละชาติที่แตกต่างกัน จึงทำให้ไม่ประสพผลสำเร็จ ความอยู่รอดของธุรกิจยุค 5G จึงเป็นความท้าท้ายของผู้บริหารองค์กร” ดร.ศุภชัยกล่าวปิดท้าย