รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอประชาชนเข้าใจ ที่อาจได้รับผลกระทบ จากมาตรการกวดขัน และ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

       พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 ก.พ 62 กำหนดให้การแก้ไขปัญหามลภาวะด้านฝุ่นละอองเป็น “วาระแห่งชาติ” ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมทำแผนปฏิบัติแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้วประเทศ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ดำเนินแนวทางการปฏิบัติแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ทั้งระยะเร่งด่วน และระยะสั้น มาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นมาตรการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่แหล่งกำเนิดต้นทาง คือ การตรวจโรงงานอุตสาหกรรม เขตพื้นที่ก่อสร้าง การเผาในที่โล่งแจ้งและการใข้ยานพาหนะ
       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุ จากการประเมินการปฏิบัติที่ผ่านมา สรุปได้ว่า มาตรการป้องกันและลดการเกิดมลพิษแบบปกติสามารถควบคุมปริมาณฝุ่นได้ในบางพื้นที่. แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณค่าฝุ่นละอองที่จะไม่ให้กระทบต่อประชาชนได้
        ดังนั้น ในระยะต่อไปนับจากนี้ ได้สั่งการเน้นย้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ให้ติดตาม กวดขัน และ เตรียมแผนการใช้มาตรการเข้มข้นขึ้นในการแก้ไขปัญหาที่แหล่งกำเนิดในแต่ละพื้นที่  อาทิ ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้างที่ต้องปิดพื้นที่ไม่ให้ฝุ่นฝุ้งระจาย การลาดตะเวนและ ดำเนินคดีกับการเผาในที่โล่งแจ้ง และ การ กำหนด ระบุประเภท และช่วงเวลา ที่ห้ามรถบรรทุกเข้าในพื้นที่ อย่างเด็ดขาด  พร้อมให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเข้าใจ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการสัญจร และการใช้ชีวิตประจำวันบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการลด และ แก้ไขปัญหาค่าฝุ่นละอองเกิดผล ส่งผลดีต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชน