อยากผิวหน้าดีเริ่มที่ครีมกันแดด แต่จะทาหน้าอย่างไรให้สวยปัง?

หลายคนคงรู้ดีว่าครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวของเราจากแสงแดดรวมถึงรังสียูวี แต่ว่าทุกวันนี้ทากันถูกวิธีรึเปล่า? เพราะหากทาผิดวิธี ครีมกันแดดที่เราทาหน้าอาจจะไม่สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคิดจะเสริมเกราะใช้ครีมกันแดดทาหน้าเพื่อปกป้องผิวแล้วล่ะก็ มาดูวิธีการทาอย่างถูกต้องกันดีกว่า

  1. ใช้ปริมาณ 2 ข้อนิ้ว

ยังมีใครยังใช้ครีมกันแดดทาหน้าแค่เม็ดถั่วเขียวอยู่ไหม? ถ้าใช่ บอกเลยว่าไม่พอ เพราะปริมาณครีมกันแดดที่ควรใช้ในการทาผิวหน้านั้นอยู่ที่ 2 ข้อนิ้วของเรา การใช้ปริมาณน้อยกว่านี้จะทำให้ประสิทธิภาพการกันแดดลดลงอย่างมาก ถ้าไม่อยากให้หน้าคล้ำล่ะก็ อย่าลืมใช้ครีมกันแดดทาหน้าปริมาณ 2 ข้อนิ้ว

  1. ทาก่อนออกแดด 20 นาที

เพราะครีมกันแดดต้องใช้เวลาในการทำงาน ดังนั้นหลังใช้ครีมกันแดดทาหน้าควรใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก่อนออกแดด ให้ตัวครีมค่อยๆ ก่อตัวเพื่อเคลือบชั้นผิว เพราะการทำงานของครีมกันแดดจะเป็นเหมือนแผ่นฟิล์มป้องกันผิว

  1. ควรทาซ้ำเมื่อครีมหมดประสิทธิภาพ

หลายคนเลือกทาครีมแค่ตอนเช้าหลังจากครีมบำรุงเพียงครั้งเดียว แต่ว่าการทาครีมกันแดดควรทาซ้ำ เพราะการทาหนึ่งครั้งคงไม่สามารถปกป้องได้ทั้งวันแน่ โดนเราสามารถดูได้ว่าครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวเราได้นานแค่ไหนจาก SPF โดยนำเวลาที่เราตากแดดแล้วผิวแดงมาคูณกับตัวเอง SPF เช่น เราจะผิวแดงเมื่อเวลาตากแดดไป 15 นาที ก็ให้นำ 15 คูณกับ SPF ของครีมกันแดด เช่น 15 x 50 = 750 หรือประมาณ 12 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะดูเยอะแต่อย่าลืมว่าระหว่างวันครีมกันแดดหลุดเลือนออกจากผิวของเรา ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหงื่อ หรือการซับหน้า เพื่อให้ผิวสวยอยู่กับเรานานๆ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดทาหน้าซ้ำอีกครั้งในช่วงบ่าย

  1. อย่าไว้ใจในวันเมฆมาก

แม้ในวันที่มีเมฆจนไม่รู้สึกแสบร้อนผิว แต่รังสียูวียังคงลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งรังสียูวีนั้นจะทำให้ผิวของเราคล้ำเสียได้ รวมไปถึงถ้าเกิดอยู่ในบ้านแต่รับแดดแรงหรือเปิดให้แสงเข้ามา ก็ควรจะทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันเอาไว้ ผิวของเราจะได้อยู่กับเราไปนานๆ

หวังว่าทริกที่นำมาแนะนำในวันนี้จะช่วยให้ทุกคนใช้กันแดดกันอย่างถูกวิธี เพราะแค่ทาบางๆ เพียงหนึ่งครั้งไม่อาจเพียงพอ อย่าลืมเลือกใส่หมวกหรือพกร่มเพื่อช่วยป้องกันแสงแดดในกรณีที่ต้องเจออยู่กลางแจ้ง ผิวหน้าของเราจะได้สวยใส สู้แดดไปได้อีกนาน