อธิบดี สถ. นำทีมให้กำลังใจ อบต.หนองตาแต้ม จ.ประจวบฯ คว้าอันดับ 1 ด้านการเข้าถึงพลังงานสะอาดจาก UN

อธิบดี สถ. นำทีมให้กำลังใจ อบต.หนองตาแต้ม จ.ประจวบฯ คว้าอันดับ 1 ด้านการเข้าถึงพลังงานสะอาดจาก UN  
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2562 เวลา 09.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เยี่ยมชมนวัตกรรมชุมชนไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบพึ่งพาตนเอง โดยมี นายสุเทพ มลสวัสดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอปราณบุรี นายมนตรีเชื้อ วงศ์สกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตาแต้ม นายทรงพล ศรีแก้ว ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตาแต้ม ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจและน่าชื่นชม หลังจากผลงานการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ฝีมือคนไทย ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองตาแต้ม (อบต.หนองตาแต้ม) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รางวัล United Nations Public Service Awards 2019 ในด้านการเข้าถึงพลังงานสะอาด จากผลงาน Self-reliant Solar Energy Community ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็นได้สำเร็จ โดยผลงานดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้ครัวเรือนสามารถนำไปใช้ได้ร้อยละ 100 ของพื้นที่ รวมทั้งสร้างศูนย์การเรียนรู้สำหรับชุมชน เพื่อฝึกอบรมประชาชนในพื้นที่ ให้ประชาชนหรือผู้ที่มีความสนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ เพื่อในไปใช้ผลิตพลังงานทดแทนใช้ในครัวเรือนได้ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะเมื่อมีองค์ความรู้อยู่ในชุมชนแล้ว ประชาชนก็จะสามารถพึ่งพาตนเองและสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังมีการสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนศูนย์เรียนรู้พลังงานทดแทนพึ่งตนเองตำบลหนองตาแต้มขึ้น จากทุนตั้งต้นของคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา และพนักงงาน อบต.หนองตาแต้ม ที่ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า อบต.หนองตาแต้ม มีความจริงใจในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง  ซึ่งถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมมือกันที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า จุดประสงค์ของการลงพื้นที่ในวันนี้ ก็เพื่อมาชื่นชม และให้กำลังใจทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น ท่านมนตรีเชื้อ วงศ์สกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตาแต้ม และท่านทรงพล ศรีแก้ว ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตาแต้ม ท่านผู้บริหาร ส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ อบต.หนองตาแต้ม และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ มีการลงพื้นที่สำรวจข้อมูล และนำสิ่งที่ทางรัฐบาลสนับสนุนให้ในขณะนั้น นั่นคือ สนับสนุนระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (ระบบโซล่าเซลล์) ให้กับประชาชน เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในครัวเรือน มาต่อยอดให้ยั่งยืน และเมื่อพบปัญหาว่า ประชาชนขาดความรู้เกี่ยวกับการใช้ระบบโซล่าเซลล์ จึงทำให้ประชาชนนั้นใช้ระบบโซล่าเซลล์ผิดวัตถุประสงค์ ทาง อบต.หนองตาแต้ม ก็ได้จึงเร่งสร้างการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ในการเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ตรงตามความต้องการ จนได้ข้อสรุปว่า ต้องมีการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับระบบโซล่าเซลล์ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
การพึ่งพาตนเองด้านพลังงานของพี่น้องประชาชนของ อบต.หนองตาแต้มนี้ นับว่ามีกระบวนการที่ดี เป็นการบูรณาการร่วมกันอย่างดี และที่สำคัญ ได้มีผู้นำที่ดี มีการส่งเสริมการมีส่วนร่วม ร่วมคิด ร่วมหาทางออก ร่วมตัดสินใจกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ก็ขอให้ทั้งท่านผู้บริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน อย่าหยุดยั้งในการที่จะช่วยกันยกระดับคุณภาพชีวิต นำสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัวเรา ไปช่วยกันทำให้ดีขึ้น เพราะมีภารกิจมากมายที่อยู่รอบตัวเรา ที่สามารถนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนได้
ในตอนท้าย นายสุทธิพงษ์ ได้กล่าวด้วยว่า เราทุกคนต้องมีความตื่นตัวในการพึ่งพาตนเองและร่วมกันพัฒนาพื้นที่ของตนเอง โดยเฉพาะท่านผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกท่าน ที่อยากฝากไว้ว่า อปท. จะทำงานดีได้นั้น ต้องมีการประมวลงานทุกเรื่อง นำมาจัดเป็นหมวดหมู่ เรื่องใดที่สำคัญต่อประชาชน ต้องเร่งให้การดำเนินการนั้นให้สำเร็จให้ได้ เพราะทุกวันนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นเหมือนรัฐบาลกลางที่ทำงานอยู่ที่ท้องถิ่น ทำงานในการดูแลพี่น้องประชาชนในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะด้านคุณภาพชีวิต ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ให้ภารกิจต่างๆ ที่เป็นเป้าหมายในการ “บําบัดทุกข์ บํารุงสุข” นั้นสำเร็จได้ หรือแม้แต่การให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เช่น การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการช่วยเหลือประชาชนของ อปท. ที่เป็นสถานที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความทุกข์ร้อนมาเป็นเวลานาน มีช่องทางรับเรื่องขอความช่วยเหลือของประชาชนในรูปแบบที่หลากหลาย สามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและรวดเร็ว ซึ่งเราก็สามารถดึงเอาภาคีเครือข่ายมาร่วมเป็นคณะกรรมการศูนย์ฯได้ เพื่อร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนให้ความช่วยเหลือนี้ เกิดผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อร่วมกัน Change for Good สร้างสิ่งที่ดีให้กับบ้านเมืองของเรา นั่นเอง