เครือข่าย รวมพลัง “หยุดการ ชะล้างพังทลายของดินด้วยศาสตร์พระราชา” ในโครงการ Stop Soil Erosion, Save our Future”

เครือข่าย รวมพลัง “หยุดการ
ชะล้างพังทลายของดินด้วยศาสตร์พระราชา” ในโครงการ Stop Soil Erosion,
Save our Future”

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสมาคม
ดินโลก (World Soil Association) กรมพัฒนาที่ดินและสถาบันปิดทองหลังพระฯ เปิดตัวโครงการ
“Stop Soil Erosion, Save our Future” หรือ หยุดการชะล้างพังทลายของดิน ด้วยศาสตร์พระราชา” ที่ตำบลแก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี เพื่อเป็นตัวอย่างการบรรเทาภัยพิบัติภาวะโลกร้อน ช่วยแก้ปัญหาคุณภาพดิน เพิ่มการกักเก็บน้ำในดินและฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวให้เกษตรกร และเป็นการ
ร่วมเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพด้านการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรดินของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายกสมาคม
ดินโลก ประธานเปิดโครงการ กล่าวว่า ประเทศไทยพบพื้นที่ประสบปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน กว่า 108 ล้านไร่ หรือ ร้อยละ 33 ของพื้นที่ประเทศ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอัตราส่วนการชะล้างพังทลาย
ของดินของโลกและกลุ่มประเทศในเอเชียและแปซิฟิก การจัดงานวันดินโลก คณะกรรมการ Global Soil Partnership และ FAO จึงกำหนดให้ทั่วโลกร่วมกันรณรงค์ Stop Soil Erosion, Save our Future” เพื่อช่วยแก้ไขและป้องกันปัญหาความแห้งแล้งและการขาดแคลนอาหารในระยะยาว ซึ่งปัญหานี้
สามารถทำได้โดยใช้ศาสตร์พระราชา คือ การทำนาและคลองไส้ไก่ เพื่อกักเก็บน้ำและตะกอน การปลูกหญ้าแฝก ฝายชะลอน้ำ และป่า 5 ระดับ จากการดูพื้นที่แก่นมะกรูด ซึ่ง World soil Day กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เพื่อเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรดินของ
องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9

ด้านนายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์
และพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท บางจากฯ ให้ความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมมาโดยตลอด รวมถึงการมีส่วนร่วมชะลอปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะสภาพภูมิอากาศ หรือโลกร้อน การขยายธุรกิจสู่พลังงานสีเขียว พร้อมพัฒนาธุรกิจ Bio Economy โดยในปีนี้ได้เข้าร่วมโครงการด้านดิน เพราะเห็นว่าเป็นแนวที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากโลกร้อน เพราะดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่จะก่อให้เกิดชีวิต เป็นแหล่งอาหาร แหล่งพลังงาน
หากดินเสื่อมภาพจะนำภัยพิบัติมาสู่ผู้คน โดยเฉพาะเกษตรกร เนื่องในโอกาส 35 ปี บางจากฯ จึงเข้าร่วมโครงการ “หยุดการชะล้างพังทลายของดิน คืนชีวิตให้แก่นมะกรูด” ร่วมกับสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กรมพัฒนาที่ดินและจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการชะล้างพังทลายของดินด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดินของเกษตรกรตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี และยังป้องกันการบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติและ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

ทั้งนี้ จะน้อมนำศาสตร์พระราชาไปลงทำงานนำร่องกับ 4 ครอบครัว พื้นที่กว่า 20 ไร่ และทำในลักษณะโครงการวิจัย มีติดตามวัดผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยได้วางแผนกำหนดตัวชี้วัดผลลัพธ์สำคัญ และติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวเนื่องจากการหยุด
ชะล้างหน้าดินร่วมกับกรมพัฒนาที่ดิน อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีนี้

ด้านนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ที่ปรึกษา สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ กล่าวถึงความสำคัญของตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ว่า ในพื้นที่แก่นมะกรูดมีรถไถไม่น้อยกว่า
240
คัน การใช้เครื่องจักรไถพรวนหน้าดินในพื้นที่ลาดชันเพื่อทำไร่ กับการเผาหน้าดิน เป็นตัวเร่งการ
ชะล้างพังทลายของดินให้รุนแรง ซึ่งพื้นที่นี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเป็นป่าต้นน้ำและป่ารอยต่อป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อพื้นที่เดิมทำเพาะปลูกไม่ได้ ป่าก็เสี่ยงที่จะถูกบุกรุกเพิ่ม โครงการ “หยุดการชะล้างพังทลายของดิน ด้วยศาสตร์พระราชา” นี้จะช่วยให้ชาวบ้านตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินและการบริหารจัดการพื้นที่ของตัวเองให้มีทั้งดินดี น้ำดี แล้วป่าก็จะกลับมา น้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้ได้อย่างดี

ในส่วนของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก นายศรีศักดิ์ ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 9 กล่าวถึงโครงการนี้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและโลกในระยะยาว รวมทั้งเป็นการเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพด้านการอนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรดินขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 จึงถือเป็นภารกิจที่กรมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่