มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ผู้นำด้านธุรกิจขนม และของว่าง เดินหน้านโยบายรับผิดชอบต่อสังคม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับการโภชนาการ เพื่อผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

คุณฐานันท์ สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกิจกรรมโครงการสุขหรรษา

มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ผู้นำด้านธุรกิจขนม และของว่าง
เดินหน้านโยบายรับผิดชอบต่อสังคม

ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับการโภชนาการ เพื่อผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

 

(ประเทศไทย –   มิถุนายน 2562) มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายขนมและของว่างแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ ลูกอมฮอลล์ หมากฝรั่งเดนทีน คุ้กกี้โอรีโอ แคร็กเกอร์ริทส์ ได้เผยแพร่รายงานนโยบายด้านความรับผิดชอบสังคมประจำปี 2561 (Impact Report 2018) ซึ่งได้รายงานเป้าหมายด้านนโยบายเพื่อสังคม รวมทั้งความคืบหน้าในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน อันเป็นพันธกิจหลักของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมการบริโภคของว่างอย่างเหมาะสมพร้อมทั้งดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้บริโภค และโลกใบนี้ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ในรายงานดังกล่าว ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการเพื่อสังคม 2 ประเด็นหลัก ได้แก่

1) ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainable Snacking) ที่บริษัทฯ สามารถมีส่วนช่วยในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มีความใส่ใจตั้งแต่วัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ผ่านโครงการต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ทั่วโลก โดยมุ่งเป้าลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติในขั้นตอนการปลูก ลดการตัดไม้ ลดการใช้พลังงาน ลดมลภาวะ ลดปริมาณขยะ ฯลฯ ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการวัดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตัวอย่างของความสำเร็จในด้านความยั่งยืน ณ สิ้นปี 2561 ได้แก่

·      ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ร้อยละ 10

·      ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตร้อยละ 22

·      ลดปริมาณขยะได้ร้อยละ 13

·      ลดวัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ได้กว่า 6 หมื่นตัน 

2) ส่งเสริมการบริโภคของว่างอย่างเหมาะสม (Mindful Snacking) โดยบริษัทมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ได้พัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในสุขภาพของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้พัฒนาด้านส่วนผสมและสารอาหารในหลากหลายแบรนด์  ที่วางจำหน่ายทั่วโลก อาทิ ลดไขมันอิ่มตัวลงร้อยละ 1 และลดโซเดียมลงร้อยละ 0. และ แบรนด์ระดับโลกอย่าง Oreo และ Cadbury Dairy Milk ก็ได้ลดระดับน้ำตาลลงร้อยละ 1 ด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อช่วยผู้บริโภคควบคุมปริมาณการบริโภคต่อหน่วย ให้แต่ละหีบห่อให้พลังงานไม่เกิน 200 แคลอรี ซึ่งบริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ก่อนกำหนดถึง 2 ปี

มร. เดิร์ก แวน เดอ พุท ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า ในฐานะองค์กรผู้นำด้านขนมและของว่างระดับโลก เรามีส่วนสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตและสภาพแวดล้อมที่ดี โดยการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน และการบริโภคที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถวางใจได้ว่าขนมและของว่างของบริษัทฯที่พวกเขาบริโภค ได้มีความพยายามในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต่อผู้บริโภค และต่อสังคม ผมรู้สึกภูมิใจในความก้าวหน้าที่เราสามารถทำได้เมื่อปี 2561 เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในด้านสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำตาล ลดเกลือ หรือเพิ่มสารอาหารในผลิตภัณฑ์ ให้สอดคล้องกับหลักโภชนาการ

สำหรับประเทศไทย ก็ได้มีการดำเนินโครงการที่ส่งเสริมด้านความยั่งยืน เช่นกัน โรงงานผลิตลูกอมและหมากฝรั่งในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ประสบผลสำเร็จในการขับเคลื่อนสู่โรงงานสีเขียวเพื่อลดการใช้พลังงานผ่านโครงการต่างๆ ส่งผลให้นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว จากกระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับรองว่าเป็นโรงงานที่สามารถกำจัดขยะให้เหลือศูนย์โดยใช้ประโยชน์จากของเสียได้ทั้งหมด (Zero Waste to Landfill Certificate)  นอกจากนี้ โรงงานลาดกระบังยังสามารถลดการใช้ทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก อาทิ

·      ลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 37 ในช่วงปี 25572561 ช่วยลดมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 14,220 ตันต่อปี ซึ่งมีค่าเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 1.4 ล้านต้น

·      การเปลี่ยนแหล่งพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้า และใช้พลังงานไอน้ำ ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ร้อยละ 74

·      สามารถลดการใช้น้ำได้ถึงร้อยละ 20

·      สามารถลดปริมาณขยะได้ถึงร้อยละ 49 โดยมีการลดวัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ไปแล้วกว่า 1,639,000 กิโลกรัม

โรงงานอีกแห่งของมอนเดลีซซึ่งผลิตเครื่องดื่มชนิดผงที่จังหวัดขอนแก่น ยังได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) 100% ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2 พันตันต่อปี รวมถึงปัจจุบัน ลดการปล่อยมลพิษไปแล้วถึง 6 พันตัน หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 6 แสนต้น   

นอกจากนี้ มอนเดลีซ ประเทศไทย ยังได้ร่วมส่งเสริมการบริโภคขนมและของว่างอย่างเหมาะสม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ

·      ออกผลิตภัณฑ์แบบไม่มีน้ำตาล เช่น ลูกอมฮอลล์ เอ็กซ์เอส (Halls XS), เม็ดอมคลอเร็ท มินต์ แท็บ (Clorets Mint Tab) และหมากฝรั่งเดนทีน เวฟ (Dentyne Waves)

·      เพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม วิตามินดี และอี ในแคร็กเกอร์ริทส์ (Ritz)

·      ปรับเปลี่ยนส่วนผสม โดยยกเลิกการใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ซึ่งก่อให้เกิดไขมันทรานส์ ออกจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท ที่จำหน่ายในประเทศไทย

นอกจากการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์แล้ว บริษัทฯ ยังมีการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนอย่างโครงการโรงเรียนสุขหรรษา (Joy Schools) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมโภชนาการที่ดีผ่าน 3 แนวคิดหลัก ได้แก่ การเรียนรู้หลักโภชนาการที่ถูกต้อง การรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ในการสนับสนุนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 10 แห่ง และได้มีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนกว่า 2,200 คน ด้วยงบประมาณกว่า 5 ล้านบาท

คุณฐานันท์ สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า สำหรับในประเทศไทย บริษัทฯ ก็ได้สานต่อนโยบายเพื่อสังคมระดับโลกของ มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ในการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อสิ่งแวดล้อมและส่วนรวมอย่างยั่งยืน  โดยนอกจาก การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ แล้ว เรายังมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังได้ริเริ่มทำกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้โครงการโรงเรียนสุขหรรษา (Joy Schools) ที่มุ่งเสริมสร้างและให้ความรู้ด้านโภชนาการที่ดีแก่เยาวชน และเรายังคงตั้งใจที่จะสานต่อโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไปในอนาคต

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ได้กำหนดเป้าหมายของโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ พร้อมกับร่างแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ที่บริษัทฯ จะต้องบรรลุให้ได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด อาทิ

·      ลดปริมาณวัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ของสินค้ามอนเดลีซ ให้ได้ 65,000 ตัน ภายในปี 2563 และปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ทั้งหมด 100% ภายในปี 2568

·      ลดปริมาณขยะ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดการใช้น้ำ ภายในปี 2568

·      เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมปริมาณบริโภคต่อหน่วย ให้ได้ร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งหมด ภายในปี 2563 และเป็นร้อยละ 20 ภายในปี 2568

·      จัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการเพื่อสังคมในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นจำนวนเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท)

  

บุคคลในภาพ

Mondelez (1 – 6)       คุณฐานันท์ สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกิจกรรมโครงการสุขหรรษา

Mondelez (6 – 8)       พนักงานบริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมทำกิจกรรมโครงการสุขหรรษา

Mondelez (9 10)      ภาพด้านหน้า และภายในโรงงานลาดกระบัง

คุณฐานันท์ สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกิจกรรมโครงการสุขหรรษา

พนักงานบริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมทำกิจกรรมโครงการสุขหรรษา
ด้านหน้า โรงงานลาดกระบัง
ภายในโรงงานลาดกระบัง

 

เกี่ยวกับมอนเดลีซ  ประเทศไทย

บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ ซึ่งจำหน่ายสินค้าในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก เรามีพันธกิจหลักในการส่งเสริมการบริโภคของว่างอย่างเหมาะสม โดยเราเป็นผู้นำด้านขนมและของว่างในประเทศไทยด้วยแบรนด์ดังมากมาย อาทิ ลูกอมฮอลล์ หมากฝรั่งเดนทีน ลูกอมคลอเร็ท คุ้กกี้โอรีโอ คุ้กกี้ชิพส์อะฮอย คุ้กกี้ลู แคร็กเกอร์ริทส์ ช็อกโกแลตแคดเบอรี ช็อกโกแลตทอปเบอโรน และชีสฟิลาเดลเฟีย  สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ได้ที่ www.mondelezinternational.com  หรือกดติดตามทวิตเตอร์ www.twitter.com/MDLZ