เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2567

เปิดงานยิ่งใหญ่ “สัปดาห์วันท้องถิ่นไทย” จัด 16-18 มีนานี้ที่ The Station มหาชัย

เปิดงานยิ่งใหญ่ “สัปดาห์วันท้องถิ่นไทย” จัด 16-18 มีนานี้ที่ The Station มหาชัย 
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2562 เวลา 10.00 น. นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานเปิดงาน “สัปดาห์วันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2562” โดยมีนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายมานพ ปัทมาลัย นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ดร.ประสบโชค นิ่มเรือง อุปนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และนายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เข้าร่วมพิธีเปิดงาน ณ The Station Mahachai ถนนพระราม 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
รองอธิบดี สถ. กล่าวว่า การจัดงานวันท้องถิ่นไทยในปีนี้ พิเศษไปกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จะร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร จัดงานยิ่งใหญ่ คือ “งานประเพณี 18 มีนา สุขาภิบาลท่าฉลอม วันท้องถิ่นไทย” ประจำปี 2562 แล้ว ทางกรมฯ ยังจัดงาน “สัปดาห์วันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2562” ด้วย โดยจะจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 16-18 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. ที่จุดพักรถ The Station Mahachai ถนนพระราม 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น การจัดเสวนาทางวิชาการ “ความก้าวหน้าของท้องถิ่นไทย อดีต-ปัจจุบัน” การจัดแสดงนิทรรศการความสำคัญของวันท้องถิ่นไทย การแสดงผลงานและภารกิจที่สำคัญของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เช่น การบริหารจัดการขยะมูลฝอย การบริหารการจัดการศึกษาท้องถิ่น ผ่านการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา การบริหารจัดการน้ำ ผ่านการจัดทำธนาคารน้ำใต้ดิน การจัดกิจกรรมร่วมสนุกกับเกมส์คัดแยกขยะ รวมถึงการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของดีท้องถิ่น ในทุกวันยังจัดให้มีการแสดงของนักเรียนในสังกัด โรงเรียน อปท. จำนวนวันละ 3 ชุดการแสดงอีกด้วย
ในช่วงการเสวนา รองอธิบดี สถ. ได้ชี้ให้เห็นว่า นับจาก พ.ศ. 2448 จวบจนปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 114 ปี มาแล้ว และในประเทศไทยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครบทุกรูปแบบ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเมืองพัทยา รวมทั้งสิ้น 7,852 แห่ง มีพัฒนาการเติบโตขึ้นมาโดยลำดับ จนทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยของการบริหารราชการแผ่นดินที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ตรงตามความต้องการของพี่น้องประชาชนมากที่สุด เมื่อประชาชนมีปัญหาทุกข์ร้อนจะคิดถึง อปท.เป็นลำดับแรก
ซึ่งในปีนี้ นโยบายหลักที่กรมฯ ได้เน้นย้ำไปยัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ก็คือ การปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอย จังหวัดสะอาด ที่ กรมฯได้ดำเนินการเป็นปีที่ 3 แล้ว เพื่อให้ อปท.ทั่วประเทศ ร่วมกันรณรงค์ลดปริมาณขยะ ด้วยหลักการ “ใช้น้อย ใช้ซ้ำ และนํากลับมาใช้ใหม่” อีกวิธีหนึ่งที่กรมฯ พบว่า จะเป็นหนทางแก้วิกฤติขยะคือการจัดทำถังขยะอินทรีย์หรือถังขยะเปียกครัวเรือน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะที่จะออกมาสู่สังคม สร้างสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ตนเองและชุมชน ทั้งยังสามารถนำสารบำรุงดินที่ได้จากถังขยะเปียก ไปใช้ในการปลูกผักสวนครัว และประโยชน์ด้านเกษตรกรรมอื่นๆ โดย กรมฯตั้งเป้าว่า จะชวนคนไทยจัดทำถังขยะอินทรีย์ หรือถังขยะเปียกครัวเรือน ให้ครบ 100% ทุกครัวเรือนภายในเดือนเมษายน 2562
ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ย้ำถึงความสำคัญของ การปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า ถือเป็นหน่วยสำคัญลำดับแรกๆ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ทำหน้าที่ดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่ผ่านมาจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้ทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการร่วมมือร่วมใจบริหารจัดการขยะให้เป็นระบบ ตอนนี้นโยบายเร่งด่วนที่พยายามผลักดันในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ก็คือ การจัดทำถังขยะเปียกอินทรีย์หรือถังขยะเปียกครัวเรือน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะได้ ยังจะช่วยลดค่าบริหารจัดการขยะไปได้เยอะมาก เช่น ลดค่าน้ำมัน ลดค่าซ่อมแซมรถขยะ
“ในโอกาสวันท้องถิ่นไทยที่มาถึงในปีนี้ อยากมอบโจทย์สำคัญให้กับพี่น้องชาวท้องถิ่นทั่วประเทศได้ร่วมขบคิด ว่า ปีนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กำหนดวิสัยทัศน์ของเราไว้ว่า “อปท.ต้องจัดบริการสาธารณะให้ได้มาตรฐาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ภายในปี 2565” ดังนั้น เพื่อจะทำให้วิสัยทัศน์เกิดขึ้นจริง กรมฯ อยากเห็นสี่เรื่องด้วยกัน นั่นคือ 1.การยกระดับบริการสาธารณะของ อปท.ทั่วประเทศให้มีคุณภาพมากขึ้น 2. บุคลากรของ อปท.ต้องได้รับการพัฒนา การฝึกอบรม เพื่อจะร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 หรือ ระบบราชการยุค 4.0 ให้ได้ 3.เราอยากเห็นท้องถิ่นปรับวิธีการทำงาน ด้วยการสร้างนวัตกรรมในองค์กร เช่น การเกิดขึ้นของธนาคารน้ำใต้ดิน การสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญหา และ 4. เราอยากเห็น อปท.กับ ชุมชน สร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารองค์กรให้มากที่สุด ให้พี่น้องประชาชนได้เข้ามาร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมพัฒนาชุมชน ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ท้องถิ่นไทยก้าวไกลยิ่งขึ้น” รองอธิบดี สถ. กล่าวทิ้งท้าย
ณ วันที่ 16 มีนาคม 2562