ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 พฤศจิกายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | กวีกระวาด |
เผยแพร่ |
กวีกระวาด/จเด็จ กำจรเดช
ผู้ประสบควัน
วันนี้แดดจ้าแต่ฉ่ำน้ำ
กลับจากงานศพเมื่อคืนบนทางแฉะโคลน
ยังเห็นดาวบางดวงโชนแสง
ส่งข้อความถึงคนเมืองหลวง
เสียงบ่นว่าอากาศหม่นมัวแสบแห้งระคายคอทุกจังหวะหายใจ
ก็เลือกชีวิตแบบนั้น
เลือกฟู้ดแพนด้าและพารากอน
ดีหน่อยที่งานศพไม่เยอะ
ใครว่า
เมืองหลวงมีคนตายทุกวันแต่ไม่มีงานศพ
ซากศพเน่าเหม็นอยู่ข้างถนน
หนอนอิ่มเอมในน้ำเหลืองและเนื้อเยื่อเส้นเอ็น
ระเหยหายฟุ้งคลุมเมือง
หายใจเข้าออกมีกลิ่นน้ำเหลือง
หน้ากากอนามัยเป็นแฟชั่นที่จำเป็น
ไม่ได้กันควันพิษ
มันปิดรอยยิ้มของเราขณะก้าวผ่านศพพวกนั้น
คํ่านี้ฝนตกลมกระโชกแรง
ต้นขนุนข้างบ้านล้มตีหลังคาพัง
คนเมืองหลวงส่งรูปมาอวดว่าวันนี้ไปลอดอุโมงค์มิตรทาวน์
ถามไถ่ต่อมาว่าดาวสวยไหม
หลังจากนี้ไปจนกว่าจะซ่อมหลังคาเหรอ
ถ้าฝนไม่ตกซ้ำและเราพอจะนอนในบ้านได้
มองผ่านทะลุช่องโหว่ของหลังคาคงเห็นดาวสวย
คืนนี้เป็นผู้ประสบภัยไร้บ้าน
ไม่มีฟู้ดแพนด้าสั่งข้าวมากิน
ไม่มีผู้บริจาคยกข้าวกล่องมาแจก
ใส่เสื้อฝนขับรถล่องไปงานศพ
อิ่มแกงวัวแล้วเล่นไฮโลสักสองสามตา
บ่ายนี้แดดจ้าจนหญ้าแห้ง
ลมพัดฝุ่นเข้ามาเปรอะพื้นบ้าน
คนเมืองหลวงบอกว่าฝุ่นในเมืองหายไปหมดแล้ว
ไม่ใช่ว่าอากาศดีขึ้นนะ
แต่คนทั้งเมืองต่างช่วยกันสูดฝุ่นลงปอดจนเมืองสะอาดเอี่ยม
แดดเปรี้ยงแม้บ่ายลงมากแล้ว
คนทั้งหมู่บ้านรวมตัวในวัด
ยกมือบังแดดเพราะนอนน้อยติดกันหลายวัน
เมื่อคืนกระสุนลั่นเปรี้ยงกลางวงพนัน
คนไม่ได้โกงโชคร้ายรับกระสุนแทน
บ่ายนี้แดดคล้อยเงาเคลื่อนยาว
ควันจากสุมาตราลอยมาสมทบ
ความกดอากาศต่ำจากจีนตามมาทัน
ควันจากปล่องเมรุคลุ้งขึ้นไปแล้วตีกลับลงล่าง
คนทั้งงานแตกฮือกระจัดกระจาย
ควันจากปล่องไฟขีดเขียนความห่วงใยส่งต่อถึงคนเมืองหลวง
ในความน้อยเนื้อต่ำใจของผู้ประสบควันท้องถิ่น
ปลอบใจว่ากลางวันที่ท้องฟ้าคลุ้งควันเราจะเห็นดาวสวย