ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 มีนาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | กวีกระวาด |
เผยแพร่ |
กวีกระวาด/ประกาย ปรัชญา
รอยยาวของระยะ
เช่นที่แสงไฟในสวนมิด่วนร้างรา
ข้ามฟากมาค้างคาหน้าต่างห้อง
แนบนิ่งดื่มด่ำกับทำนอง
บนหมุนวนกริ๊งกร๊องกริ๊งกร๊องกล่องดนตรี
ฝนก่อนค่ำ หยุดพรำสาย
เหลือสิ่งซึ่งปริ่มเงาฉายหลายแหล่งที่
แขวนดวงกับราวตากผ้า, อ้อยอิ่งกับชิงช้ายิ่งกว่ารอรี…
มวลมุกน้ำนี้กี่รายเรียง
กระทั่งแสงจันทร์แม้สัญจร
ผัดผ่อน จะผละจะพรากจากเฉลียง
อยู่ประโลมจานดาวเทียมหม่นมัว – จั่วและกันสาดลาดเอียง
เคียงเขตก่อสร้างอย่างรอมชอม
เช่นที่ใบชาค้างคาในกาใบน้อย
หอมอันอ้อยสร้อยหอม
ยอมหญิงสาวหากเติมน้ำใหม่ ใบชายอม
ข้ามคืนสิ้นทะนุถนอมไปพร้อมกัน
ฉายจากครึ้มสวน แสงนวลต้อง
ฉายสู่ชั้นสองของแมนชั่น
คือมิตรตรงข้าม ในความใยยองของสัญจรจันทร์
มีถนนสายสั้น คั่นกลาง
ความสิ้นเยื่อของชายสะพายกระเป๋า จะหวนเงากลับมามั้ยนะ?
ถนนเฉอะแฉะ และสะท้อนแต่ระยะห่าง
หญิงสาวเติมน้ำใหม่ในกา อา… หอมจาง
รอยเปลี่ยวนอกหน้าต่าง อ้างว้างนัก
แสงไฟ… แสงเป็นเพื่อนใจไปจนรุ่ง?
กรุ๊งกริ๊งกรุ๊งกริ๊งบางจังหวะตะกุกตะกัก
หมุนเพลงรักของใคร ได้หมดรัก
หมุนรอสักกี่รอ ก็หมดลาน