ทุกครั้งที่ “ชูวิทย์” ออกมาเดินหน้าแฉเรื่องราวต่างๆ จะได้รับความสนใจของคนในสังคมเสมอ ปี 2566 ที่ผ่านมา ชูวิทย์ ออกมาแฉ “ทุนจีนสีเทา” ของ “นายตู้ห่าว” และ “สารวัตรซัว” จนสะเทือนทุกวงการ นับตั้งแต่ข้าราชการระดับสูง มาถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นักการเมือง อัยการ ผู้พิพากษา ผู้มีอิทธิพล ที่มีส่วนเข้าไปเกียวข้องพัวพันกับทุนจีนสีเทา

ต่อมาคือการเคลื่อนไหวประเด็นกัญชาเสรีในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้พรรคการเมืองคะแนนเสียงร่วงลงมิใช่น้อย หลังจากนั้นเปิดปฏิบัติการ “แฉเพื่อชาติ” ก็เกิดขึ้น ด้วยการ การซื้อที่ดินภายใต้การดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ “นายเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ก็เกิดผลกระทบกับพรรคเพื่อไทยไปไม่น้อย จนเจ้าตัวต้องออกมาตอบโต้ดุเดือด กระทั่งข่มขู่ฟ้องร้องกัน 

นายชูวิทย์ ยอมรับว่าการแฉเรื่องที่ดินล่าสุดเป็นการแฉครั้งสุดท้าย พร้อมกับเปิดเผยถึงอาการป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย และต้องทำคีโมอยู่ตลอด โดยแพทย์ระบุว่า เหลือเวลา 8 เดือน-ปีครึ่ง ซึ่งหลังจากนี้จะบินไปรักษาตัวที่อังกฤษ และจะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอย่างมีความสุข ทำในสิ่งที่อยากจะทำ ก่อนประกาศยุติการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เพื่อไปรักษาตัวต่างประเทศ และบินไปรักษาตัวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. เป็นอันปิดม่านจอมแฉผู้วาดลวดลายอยู่ในวงการเมืองไทยมาเกือบ 2 ทษวรรษ