ฉบับวันที่ 2-8 ก.ย. 2559

“เปรมโมเดล”ที่ถูกเสนอขึ้นมาเป็นทางเลือก ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่มีโอกาสขึ้นสู่ “นายกฯคนนอก” นั้น ดูเหมือนจะไม่ได้รับการตอบสนองเท่านั้น

ด้วยระยะห่างแห่งเวลา ที่ “ไม่ทันกาล” แล้ว ประการหนึ่ง
ด้วยความแตกต่างของบุคคลิก นิสัย แนวทางปฏิบัติ ของพล.อ.เปรม และพล.อ.ประยุทธ์ ประการหนึ่ง
และที่สำคัญ นาทีนี้ ความเชื่อมั่นกำลังไหลหลั่งมาสู่ พล.อ.ประยุทธ์
จึงไม่มีเหตุผลใด ที่จะต้องไปพึ่งพิง “โมเดลอื่น”
ตอนนี้ เวลานี้
ต้อง “ประยุทธ์โมเดล” เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในศาสตร์แห่งการบริหารอำนาจนั้น
พล.อ.ประยุทธ์ รู้ดีว่า การดำรงขั้วอำนาจไว้ที่ขั้วบูรพาพยัคฆ์ เพียงขั้วเดียว ไม่เพียงพอ
ยิ่งมีเป้าหมายที่จะ สืบทอดอำนาจ ต่อไป จำเป็นต้องสร้างสมดุลกับขั้วอื่นๆด้วย
เพราะเหตุนี้ เมื่อมีปรากฏการณ์ “ปิดบ้านสี่เสาเทเวศน์” ในช่วงวันเกิดพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรีบนำคณะรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ รวมถึง “ป” พี่ใหญ่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปขอเปิดบ้านสี่เสาฯเพื่ออวยพรวันเกิดเจ้าของบ้าน
แน่นอน การเข้าบ้านสี่เสา ไม่ได้มีแค่ แจกันดอกไม้ เท่านั้น
หากแต่มี “ข่าวการโยกย้ายนายทหาร” อบอวลอยู่ด้วย
อบอวลด้วย “ข่าวใหญ่” ที่พล.อ.ประยุทธ์ ยอมขัดใจพี่ป้อม ด้วยการเปลี่ยนตัว ผู้บัญชาการทหารบก
น้องรักบูรพาพยัคฆ์ พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เป็น นักรบหมวกแดง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาร
แม้จะมีการยืนยันว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการโยกย้ายทหารใดๆ
แต่ข่าวใหญ่ นั้น ทำให้บรรยากาศที่บ้านสี่เสาฯชื่นมื่นอย่างยิ่ง
ด้วยใครๆก็ทราบว่า พล.อ.พิสิทธิ์ เป็นทหารในสายตาของเจ้าของบ้านสี่เสาฯด้วย

แม้พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่าพล.อ.ประวิตรอาจจะน้อยใจกับการตัดสินใจครั้งนี้
แต่กระนั้นในทางยาว
หากรวม “เปรม-ประยุทธ-ประวิตร” เป็น “ป โมเดล” เดียวได้
เส้นทางแห่งอำนาจ ก็ย่อมจะมั่นคง
ยากที่ใครจะมาคลอนแคลนได้