โค้งสุดท้าย! มหกรรมหนังสือ ชวนอ่าน 5 วรรณกรรมห้ามพลาด! ไทย-เทศ จากมติชน

เข้าสู่โค้งสุดท้ายของมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ที่มติชนยกกองทัพหนังสือคุณภาพหลากหลายประเภทที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีด้วยแนวคิด Readvolution อ่านเพื่อเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนอนาคต กับชุดวรรณกรรม 5 เล่มไฮไลต์

ทั้งไทยและต่างประเทศ

เรื่องราวระหว่างทรงจำของทรงจำ

บางข้อความเพียงไม่กี่บรรทัด สามารถ ประกอบสร้าง หรือ ทำลายล้าง ประวัติศาสตร์ได้

พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ วรรณกรรมซีไรต์ปีล่าสุด ผลงานของวีรพร นิติประภา เจ้าของรางวัลซีไรต์ 2558 จาก ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต

วรรณกรรมชื่อยาวเล่มนี้ ว่าด้วยเรื่องราวโศกนาฏกรรมของผู้คนบนประเทศไร้ทรงจำ โดยหยิบความเว้าแหว่งในความทรงจำของผู้คนของครอบครัวชาวจีนในประเทศที่แทบจะไม่มีความทรงจำ มาบอกเล่าผ่านความทรงจำของตัวละครปริศนา สะท้อนให้เห็นถึงความคิดของชาวจีนอพยพที่โลดแล่นอบอวลไปด้วยกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์

การันตีด้วยคำประกาศจากคณะกรรมการตัดสินรางวัลซีไรต์ 2561 ที่ยกย่องให้นวนิยายเล่มนี้ โดดเด่นด้วยชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ด้วยการใช้ขนบการเล่าเรื่องแบบนิทานที่มีลักษณะมหัศจรรย์เหนือจริง รวมไปถึงความประณีตของลีลาการเล่าเรื่อง การนำเสนอตัวละคร และการใช้ภาษาเฉพาะตัว ชวนให้ครุ่นคิดและใคร่ครวญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์

โดยเฉพาะเรื่องเล่าของคนพลัดถิ่น

เมื่อ “ศิลปินพยายามกลับไปเป็นนักเขียน”เรียบเรียงสุนทรียะแห่งความตาย

ศิลปะถมเติมนิยาย ความตายถมเติมชีวิต

เรื่องราวของผู้หญิง 3 ช่วงวัย

เริ่มต้นจาก เด็กหญิง วัยแรกแย้มดั่งกลีบดอกไม้เพิ่งเบ่งบาน จนเติบใหญ่เป็น หญิงสาว ผู้เบิกบานและหรุบหรู่ในวังวนของวัยสาวอันอบอวลด้วยควันแห่งปรารถนา

และ หญิงชรา ผู้ขยับเคลื่อนทวนสังขารที่ผ่านความเป็นไปของชีวิต ผ่าน ไลลียา ผู้จัดเจนและคุ้นชินกับการสูญเสีย ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งศิลปะ ก่อนจะท้าทายทุกขีดจำกัดเพื่อแสวงหาคำตอบเกี่ยวกับ “ตัวตน”

หรือสุดท้าย ความตายจะเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด?

ผุดเกิดมาลาร่ำ โดย อารยา ราษฎร์จำเริญสุข ศิลปินศิลปาธร สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี 2551 ผู้นิยามตนเองว่าเป็นศิลปินพยายามกลับไปเป็นนักเขียน

หนังสือเล่มนี้เป็นนวนิยายแห่งผลลัพธ์ของการถวิลหาภวังค์งานเขียนของผู้ที่จำต้องเลิกรา วางปากกาเพราะภาระงานศิลปะ

เรื่องรักในหุบเขาฝนโปรยไพร

“ถ้ามีความเปลี่ยนแปลง ชีวิตจะหาหนทางของมันเอง”

หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา นวนิยายอันเป็นอนุสรณ์แห่งความคิดถึงแด่ชายผู้ลาลับ ในฐานะ “ภรรยา” ที่มีชื่อว่า อุรุดา โควินท์ เมื่อความตายพรากกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีใครคาดคิด

เรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยความรักของนักเขียนหนุ่มสาวที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ในชนบทอันห่างไกล

โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการสร้างสรรค์วรรณกรรมที่มีคุณค่า เหมือนจะเป็นเรื่องรักอันหอมหวานคงอยู่ตลอดกาลเช่นในนิทาน

กลับเป็นความปวดร้าวและหยาดน้ำตาที่ไม่เคยเหือดหายของภรรยาที่ยังอยู่

แต่ทุกสิ่งต้องดำเนินต่อไป จากความโศกเศร้าจึงแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องราวที่ตราตรึงอยู่ในห้วงทรงจำ

ความเวิ้งว้างของผืนทรายไม่อ้างว้างเท่าความเดียวดายของตัวตนมนุษย์

ใต้เวิ้งฟ้า (The Sheltering Sky) วรรณกรรมคลาสสิคของ Paul Bowles นักเขียน นักประพันธ์เพลง และนักแปลชาวอเมริกา ผู้หลงใหลในการเดินทางเพื่อพบเจอกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ / อทิมา แปล

หากใครรู้จัก The Sheltering Sky ภาพยนตร์คลาสสิคในปี 1990 หรือมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์สารคดี เรื่อง ดนตรี คีตา ริวอิจิ ซากาโมโตะ (Ryuichi Sakamoto : CODA) ที่เข้าฉายในประเทศไทยเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็คงจะพอคุ้นชื่อหนังสือเล่มนี้อยู่บ้าง

ใต้เวิ้งฟ้า เป็นเรื่องราวของพอร์ตและคิท คู่สามีภรรยาที่กำลังประสบปัญหาความรักที่ชืดจางและความสัมพันธ์ที่พร้อมจะพังทลายลง เพื่อความรักที่อาจกลับมาหวานชื่นดังเดิม ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวไปยังทวีปแอฟริกาเหนือ เพื่อพิชิตทะเลทรายซาฮารา พร้อมด้วยทันเนอร์ผู้หลงใหลในความซับซ้อนของเพื่อนทั้งสอง และเขายังหลงรักคิทอีกด้วย จึงเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่เวิ้งว้างของคนทั้งสามท่ามกลางความเดียวดายของเม็ดทรายรอบตัว

หนังสือเล่มนี้พร้อมจะเผยให้เห็นถึงความเปราะบางของตัวตน ความไร้แก่นสารของชีวิต และความโดดเดี่ยวที่ไม่อาจเติมเต็มของมนุษย์ พร้อมกับเรื่องราวการเดินทางทั่วแอฟริกาเหนือ ผ่านเมืองต่างๆ ที่พวกเขาย่างก้าวสัมผัส

พันหนึ่งราตรีฉบับแฟนตาซีเสียดสีสังคมโลก

การหยิบยกเอากิมมิกของนิทานโบราณอย่าง พันหนึ่งราตรี มาสร้างสรรค์โลกสุดแฟนตาซีของเหล่าญิน ภูตในตำนานและความเชื่อของศาสนาอิสลาม

ผ่านปลายปากกาของ Salman Rushdie นักเขียนผู้สาดน้ำหมึกสีฉูดฉาดใส่วงการวรรณกรรมโลกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

เรียกได้ว่าเป็นนักเขียนตัวแสบอีกคนที่พิสูจน์ความสามารถด้านวรรณศิลป์ ผ่านผลงานและรางวัลมากมาย

สองปี แปดเดือน กับยี่สิบแปดคืน (Two Years Eight Months and Twenty-Eight Nights) แปลโดย สุนันทา วรรณสินธ์ เบล เป็นเรื่องราวสุดมหัศจรรย์พิสดารอาเพศไร้เหตุผลของเหล่าญิน เมื่อหลังพายุครั้งใหญ่ มิสเตอร์เจอโรนิโม เพิ่งสังเกตเห็นเป็นครั้งแรกว่าเท้าของเขาไม่แตะพื้นอีกต่อไป ตัวเขาและเหล่าญาติพี่น้องไร้ติ่งหู ต่างพบว่าพวกเขามีพลังวิเศษแอบซ่อนอยู่ในตัวเอง พร้อมกับการกลับมาของ ดุนยา ญินฝ่ายดี กลับมายังโลกมนุษย์เพื่อตามหาทายาทไร้ติ่งหูของเธอ ให้มาช่วยกันกอบกู้โลกจากหายนะอันเกิดขึ้นจากสงครามระหว่างญินฝ่ายดีและฝ่ายร้าย ที่ใช้โลกมนุษย์เป็นสนามรบ ยาวนานเท่าชื่อหนังสือ

ในการกลับมาโลกมนุษย์ครั้งนี้ของดุนยา ทำให้เธอตกหลุมรักอีกครั้ง ซึ่งมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ

เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันเท่านั้น ก่อนที่มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 จะจบลง นอกจาก 5 เล่มวรรณกรรมไฮไลต์แล้ว ยังมีหนังสือกลุ่มการเมือง ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม แรงบันดาลใจ และหนังสือคุณภาพอีกมากมาย

พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ รอนักอ่านทุกท่านอยู่ที่บูธสำนักพิมพ์มติชน V10 โซน Plaza หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.matichonbook.com