Solomon Kane

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

มาที่งานเขียนประเภทฟันดาบและจอมเวท (Sword &Sorcerer) อีกเรื่องของโรเบิร์ต อี โฮเวิร์ด ผู้เขียนโคแนน ยอดคนแดนเถื่อน

ครั้งนี้มิใช่ยุคโบราณไร้กาลเวลา แต่เป็นเรื่องของมือดาบในศตวรรษที่ 16

มิใช่มือดาบธรรมดาๆ แต่เป็นพวกพูริแทน (Puritan) โปรเตสแตนต์เคร่งศาสนาที่พยายามจัดระเบียบสังคม

เป็นผลงานที่เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสาร Weird Tales เช่นเดียวกับโคแนน เรื่องแรกชื่อ Red Shadows ตีพิมพ์เมื่อปี 1928 เล่าเรื่อง โซโลมอน เคน ไปพบหญิงสาวคนหนึ่งถูกฆ่าตายพร้อมทุกคนในหมู่บ้าน เขาตามล่าพวกเหล่าร้ายจากฝรั่งเศสไปถึงแอฟริกา เท่ากับเป็นการเปิดโลกเวทมนตร์ของศตวรรษที่ 16

โซโลมอน เคน สวมหมวกปีกกว้าง พกดาบติดตัว เร่ร่อนพเนจร

เขามีภารกิจปราบเหล่าร้ายและปีศาจโดยไม่ตั้งคำถาม ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก อย่างไรก็ตาม เขาคอยปกป้องผู้บริสุทธิ์และผู้อ่อนแอกว่าอยู่เสมอ

เรื่องราวทั้งหมดของเขาได้รับการถ่ายทอดเป็นการ์ตูนโดยมาร์เวลส์และดาร์กฮอร์สในเวลาต่อมา

ที่นำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้นำมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง The Saga of Solomon Kane ของดาร์กฮอร์ส ที่รวบรวมผลงานของนักเขียนนักวาดไว้หลายคนเกือบครบทุกเรื่องตามต้นฉบับที่โฮเวิร์ดเขียนเอาไว้

ลองอ่านเรื่องที่สอง Skulls in the Stars เป็นงานเขียนปี 1929 ของโฮเวิร์ด ผลงานของรอย โทมัส และราล์ฟ รีส ช่วยให้เราเห็นบุคลิกภาพของโซโลมอน เคนได้ชัดเจน

มีถนนสองเส้นไปเมืองทอล์กเกอร์ทาวน์

เส้นหนึ่งอ้อมกว่า ปลอดภัยกว่า ต้องเดินผ่านหนองบึง

อีกเส้นหนึ่งลัดกว่า อันตรายกว่า ต้องเดินผ่านทุ่งมัวร์ ว่ากันว่าหลายคนตายเมื่อเดินเข้าไปในทุ่งมัวร์แห่งนั้น ว่ากันว่าในทุ่งมีปีศาจ

โซโลมอน เคน ไม่รีรอที่จะชักม้าเข้าไป

ที่ปากทางแยกไปหนองบึง เคนพบกระท่อมหลังหนึ่งซึ่งมีชายชราชื่อ เอซร่า พักอาศัยอยู่ เขาควบม้าเข้าไปในทุ่งมัวร์ เมื่อตกดึกจึงพบปีศาจที่ว่ากัน

ลายเส้นอัปลักษณ์ ปีกค้างคาวสองข้างดั่งซาตาน มันร้องโหยหวนหมายทำร้ายเคน

เคนลั่นกระสุนใส่มันแต่ผ่านเลยไป เคนฟันใส่มันแต่ผ่านเลยไป มันลงมือจู่โจมและเคนไม่มีทางสู้

แม้เคนหมดทางสู้แต่เขาดิ้นรนสุดชีวิต น่าจะเป็นเพราะเขาเป็นพูริทัน เคร่งศาสนาและมุ่งมั่นแรงกล้าจะปราบคนชั่ว เจ้าปีศาจจึงถอยไปด้วยความโศกเศร้า

ที่แท้มันเคยชื่อกีเดียน เป็นชายไม่สมประกอบที่อาศัยอยู่กับพี่ชายเอซร่า

เอซร่าโหดร้ายทารุณและทำร้ายเขาถึงตายในวันหนึ่ง จากนั้นลากศพไปทิ้งไว้ในทุ่งมัวร์อ้างว้างเดียวดาย

เคนเล่าเรื่องนี้ให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านกรูกันมาจับเอซร่ามัดไว้กับต้นไม้ในทุ่งมัวร์นั้น รอเวลาที่กีเดียนจะมาจัดการ แล้วโซโลมอน เคน ควบม้าออกเดินทางต่อไป

ลำพังอ่านการ์ตูนได้ความสนุกและรวบรัด ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ดีชั่วในศตวรรษที่ 16 อยู่ที่จิตใจ หาใช่อยู่ที่การสืบสวนและกระบวนการ

โฮเวิร์ดกำหนดให้เคนอยู่ในศตวรรษที่ 16 ที่ซึ่งความขัดแย้งทางศาสนาพลุ่งพล่านไปทั่วดินแดนอังกฤษ

เขาเขียนโซโลมอน เคน ไว้หลายเรื่อง หลายเรื่องตีพิมพ์หลังการตายของเขา จนกระทั่งถึงปี 1932 เขาเริ่มเขียนเรื่องโคแนน จากนั้นเคนก็หายไปจากหน้านิตยสาร โคแนนถือดาบเล่มใหญ่ยักษ์และไม่มีปืน เหมือนเคนอยู่ในดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อนยิ่งกว่าอังกฤษ การตัดสินดีชั่วตั้งอยู่บนฝีมือดาบ

อย่างไรก็ตาม โคแนนไม่ทอดทิ้งผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบเช่นเดียวกัน มิใช่ประเด็นนี้หรอกหรือที่ควรเป็นจุดมุ่งหมายของศาสนาและศีลธรรม

เคนน่าจะเกิดประมาณปี 1530 ที่เดว่อนไชร์ทางตะวันตกของอังกฤษ เขาเติบโตมาในครอบครัวมีฐานะ เคร่งศาสนาและได้เรียนการต่อสู้ด้วยเพลงดาบ

เมื่อราชวงศ์ทูดอร์ปราบปราบโปรเตสแตนต์ เขาลี้ภัยจากอังกฤษไปถึงเวสต์อินดีส์

ไม่มีเรื่องราวของเขาช่วงนี้มากนัก แต่เชื่อได้ว่าเขาไปกับเรือสินค้า นักผจญภัย และโจรสลัดอยู่นานหลายปี

ความแข็งแกร่งของเขาน่าจะมาจากประสบการณ์ในมหาสมุทรแห่งนี้

เขากลับมาแผ่นดินใหญ่ยุโรปเป็นระยะๆ ครั้งแรกที่ทอล์กเกอร์ทาวน์ แล้วไปเยอรมนี ฝรั่งเศส (คือเรื่อง Red Shadows ซึ่งเขียนขึ้นก่อน)

เรากลับมาอ่านเรื่องเมืองทอล์กเกอร์ทาวน์อีกเรื่องหนึ่งกันครับ The Right Hand of Doom เรื่องโดยดั๊ก มุนช์ ภาพโดยสตี๊ฟ แกน เรื่องนี้ควรเป็นเหตุการณ์ตอนที่สามตามไทม์ไลน์ของโซโลมอน เคน แต่ได้รับการตีพิมพ์ทีหลัง

เคนอยู่ในร้านเหล้า ได้ยินชายร่างอ้วนคุยโวโอ้อวดเรื่องที่ได้รางวัลค่าหัวนำจับจอมเวทคนหนึ่ง ทางการให้เงินรางวัลมาอย่างงาม น่าเสียดายจอมเวทจะถูกแขวนคอในวันพรุ่งนี้เสียแล้ว ที่เคนไม่ชอบใจคือชายอ้วนกับจอมเวทนั้นเป็นเพื่อนกัน

ตกดึกคืนนั้นเคนเห็นแมงมุมยักษ์ผ่านไป เขาคว้าดาบได้รีบไล่ตาม ที่แท้มิใช่แมงมุม แต่เป็นมือข้างหนึ่ง มือนั้นเดินไปที่ห้องของชายร่างอ้วนแล้วหักคอตายคาที่

เคนสืบความได้ว่าจอมเวทได้ติดสินบนผู้คุมให้ช่วยตัดมือขวาเขาทิ้ง เช้าวันต่อมาจอมเวทถูกแขวนคอพร้อมเสียงหัวเราะด้วยมือที่เหลือข้างเดียว จะเห็นว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เคนมิได้ลงมือเอง มีหลายครั้งที่เขาลงมือด้วยวิธีการไม่ลงมือ

โฮเวิร์ดเขียนเรื่องโซโลมอน เคน ไว้หลายเรื่อง แต่ละเรื่องที่ผ่านไปเราจะเห็นบุคลิกภาพที่ชัดเจนของเขา มุ่งมั่น ไม่ท้อถอย และเที่ยงธรรม แม้จะปราบปีศาจแต่ก็ให้ความเป็นธรรมกับปีศาจด้วย

เมื่อโฮเวิร์ดละจากเคนไปเขียนโคแนน เศษนิยายบางเรื่องของเคนถูกนักเขียนรุ่นหลังนำไปเขียนใหม่ให้สมบูรณ์ในภายหลัง รวมทั้งที่เขียนเป็นการ์ตูนขึ้นมาใหม่ด้วย

เรื่อง Death’s Dark Riders เป็นตัวอย่างหนึ่ง โซโลมอน เคน จากศตวรรษที่ 16 ในวัยชราหนีการตามล่าของผีในร่างอัศวินสองนาย เขาหลบเข้าไปในโพรงมืดมิด สถานที่เดียวกันนั้นเองโคแนนแห่งคิมเมอเรียจากยุคไฮบอร์เรียหนีการตามล่าของคนเถื่อนเผ่าหนึ่ง มันหลบเข้าไปในโพรงเดียวกัน

สองตัวเอกจากนวนิยายสองเรื่องมาพบกัน ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกัน แต่รู้ว่าจะเอาตัวรอดจากสถานที่นี้จำเป็นต้องช่วยเหลือกัน สองสหายมาโผล่ที่เบ้าตาของหัวกะโหลกยักษ์ ที่แท้ทั้งสองคนเคยมาสถานที่แห่งนี้ก่อนแล้ว แม้ว่าสถานที่จะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ความแค้นที่เคยทำไว้กับจอมเวทตนหนึ่งยังคงอยู่ บัดนี้ถึงเวลาชำระ

หนังเรื่อง Solomon Kane เมื่อปี 2009 เป็นหนังที่สร้างจากงานเขียนของโฮเวิร์ดได้ดีที่สุด เจมส์ เพียวฟอย รับบทโซโลมอน เคน ได้สมจริง นักแสดงระดับกลางที่มีใบหน้าอยู่กึ่งกลางระหว่างพระเอกกับผู้ร้ายได้รับคำชมเชยไปเฉย บทหนังก็ดีมาก เล่าเรื่องเคนกลับจากการท่องทะเลหวังพบความสงบสุข แต่มิวายถูกผีปีศาจรังควาญจนต้องหยิบดาบต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง

หนังเล่าปูมหลังของครอบครัวสอดคล้องกับชีวิตที่ไม่มีวันสงบสุขของเขา

หนังดีกว่าหนังโคแนน ยอดคนแดนเถื่อน เร้ดซอนย่า และคัลผู้พิชิต อย่างเห็นได้ชัด •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์