ประกวดเรื่องสั้นทั่วไป : ภาพถ่ายของเธอ

โดย : มุ้งมิ้ง ถุงเท้าย้วย

 

ผมติดเครื่องเรือเคลื่อนตัวออกจากศาลาท่าน้ำของเรือนมะนิลาในคลองแยกสายหนึ่งเลี้ยวเข้าคลองด่าน บางขุนเทียน แสงแดดยามเย็นของ พ.ศ. นี้ไม่ร่มแล้ว หรี่ตามองลำคลองกลางเปลวแดด ความทรงจำที่มีต่อเธอแจ่มชัด และความสับสนทุกอย่างกระจ่างใจ

สามเดือนก่อนผมเดินเลียบริมทางรถไฟวงเวียนใหญ่-มหาชัย จากท่าน้ำวัดสิงห์ริมคลองด่าน จุดหมายคือร้านกาแฟใกล้สถานีรถไฟ ครั้งแรกที่เห็นร้านนี้ผมขำอยู่ไม่น้อย ร้านตกแต่งตามสมัยนิยม เน้นโทนสีดำ ปูนเปลือย ติดแอร์ แค่ติดแอร์ก็แปลกแล้วสำหรับคนแถวนี้ ไม่มีร้านค้าใดพึ่งพาความเย็นของเครื่องปรับอากาศนอกจากแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อซึ่งอยู่ไกลออกไปทางฝั่งติดถนน

ผมผลักประตูเข้าร้านสั่งอเมริกาโนหนึ่งแก้ว ร่างงานออกแบบภายในของตึกแถวที่สะท้อนบรรยากาศยุคแรกสร้างราวหนึ่งร้อยปีก่อนในละแวกเยาวราชที่กำลังซ่อมแซมโดยเก็บโครงสร้างเดิมไว้ นอกจากจะได้งานในโครงการนี้ พื้นที่ใกล้เคียงกันอย่างวงเวียน 22 กรกฎา ยังติดต่องานตกแต่งภายในสำหรับบาร์แซงเกรียในตึกแถวห้องหนึ่งเช่นกัน ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งหลังตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านหลังจากใช้ชีวิตที่สำนักงานสถาปนิกในภูเก็ตตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย

ระหว่างเดินไปรับกาแฟตามเสียงเรียกของพนักงาน ผมสะดุดตากับมุมหนังสือ เมื่อพลิกดูพักหนึ่งก็พบว่า แต่ละเล่มแนบไว้ด้วยการ์ดบอกเล่าเรื่องราว ผมนึกถึงบัตรรายการหนังสือในหอสมุด ชอบใจกับรายละเอียดเหล่านี้จนเอ่ยปากชมเจ้าของร้าน

ชายหนุ่มหัวเราะก่อนบอกว่า ทั้งหมดมาจากลูกค้าคนหนึ่ง แรกเริ่มเธอนำหนังสือ แม่น้ำลำคลองสายประวัติศาสตร์ ของ สุจิตต์ วงษ์เทศ มาให้ ก่อนบอกเล่าบางเรื่องราวพร้อมแนะนำให้อ่านเพื่อเรียนรู้ความเป็นมาของย่านนี้

เขาเล่าต่อว่าขำอยู่ไม่น้อย ท่าทางเธอเหมือนครูบาอาจารย์ เหมือนผู้ใหญ่ที่ให้ความรู้กับเด็ก ทั้งที่อายุของเธอดูไม่เกินยี่สิบห้า อ่อนกว่าเขาราวสิบปี หลังจากนั้นเธอนำหนังสือที่แทรกกระดาษการ์ดบอกเล่าเรื่องราวโดยย่อมาวางเพิ่มที่ชั้นหนังสือแทบทุกวันที่แวะซื้อกาแฟพลางทิ้งท้ายว่าไม่รู้วันนี้เธอจะมาไหม ถ้าเห็นผู้หญิงที่ถือถ้วยดินเคลือบเดินเข้าร้านมา นั่นแหละเธอ

วันนั้นผมนั่งอยู่ที่ร้านตลอดบ่ายและไม่พบเธอ

 

หลังจากนั้นราวสองสัปดาห์ ผมและครอบครัวทำบุญครบรอบวันจากไปของพ่อที่วัดไทร ระหว่างญาติมิตรกำลังเตรียมอาหาร หมาวัดกลุ่มใหญ่เห่าเสียงดังพลางวิ่งไปรวมตัวกันที่มุมหนึ่ง ญาติผมร้องตะโกนห้ามหมา

ผ่านไปพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังสลับกับเสียงหมา หญิงสาวคนหนึ่งปรากฏพร้อมอาหารสำหรับพวกมันเต็มสองมือ ท่าทางหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม บางสิ่งบางอย่างดึงดูดความสนใจ ไม่แน่ใจว่าอะไรบอกผมว่าเธอคือเจ้าของหนังสือในร้านกาแฟ ผมทำได้แค่เพียงคิด

หลังจากถวายเพล ผมเดินรอบวัดจนทั่วและไม่พบเธอ

หลังพ่อจากไป หลายอย่างในชีวิตก็เปลี่ยน แม่เงียบกว่าเดิม ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนบรรยากาศจากบ้านไปอยู่คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยากับพี่สาว หลังย้ายข้าวของที่จำเป็นไปครบถ้วน แม่กลับมานอนบ้านหนึ่งคืน ก่อนเอ่ยปากให้ผมขับเรือไปส่งในสายวันถัดมา

ผมขับเรือออกจากหน้าบ้าน เข้าทางคลองด่านเลี้ยวมาคลองดาวคะนอง ก่อนเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จอดเรือริมท่าน้ำกอดแม่ก่อนขับเรือกลับบ้าน แวะท่าน้ำวัดไทร กินมื้อเที่ยงพร้อมสั่งอาหารสำหรับมื้อเย็นเตรียมเข้าบ้าน

และที่เรือก๋วยเตี๋ยวของลุงเจ้าประจำนั้นเอง ผมพบเธอ เสียงเรือหางยาวของพี่เปี๊ยกกระหึ่มระหว่างแกตะโกนคุยกับนักท่องเที่ยวกลบเสียงสั่งก๋วยเตี๋ยวของเธอ

เมื่อเรือแล่นจากไปผมได้ยินแค่เสียงหัวเราะท้ายประโยคของเธอกับลุง เธอจัดเก้าอี้เป็นโต๊ะตัวเล็กก่อนวางย่ามสีฟ้าพิงเสาด้านข้าง ผมเลือกที่นั่งถัดมา สั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วรอจังหวะ คิดหาบทสนทนาที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรจนเธอคีบปลาหมึกกรอบชิ้นสุดท้ายเข้าปาก ก่อนยิ้มกับชามว่างเปล่าและลุงขายก๋วยเตี๋ยวรวบชามทั้งสามใบที่เคยบรรจุเส้นเล็กน้ำ บะหมี่แห้ง ต้มยำและเกาเหลาเย็นตาโฟใส่กะละมังของลุงริมท่าน้ำ

แม้ผ่านเวลาไปชั่วสามชามก๋วยเตี๋ยว ผมยังรีรอ เธอคงเริ่มรู้สึกถึงท่าทางเก้กังความไม่พอใจปนสงสัยเจือผ่านสายตา หลังจากมองผ่านหน้าผมเธอยิ้มให้กับทุกสิ่งที่ปรากฏ สะพายย่ามสีฟ้าแล้วเดินจากไป

ผมรับถุงก๋วยเตี๋ยวจากลุง แล้วมองหาจนพบเธอยกถ้วยลวดลายแปลกตาขึ้นมาจิบกาแฟใต้ต้นสาละ ไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไรนอกจากยิ้มให้

เธอยิ้มตอบ

ผมจึงถามเธอถึงหนังสือและกระดาษการ์ดที่เธอแนบไว้พลางชี้ไปที่ถ้วยปั้นมือเมื่อเธอเลิกคิ้วด้วยความสงสัย พี่ที่ร้านกาแฟเล่าว่าคุณมาพร้อมถ้วยประจำตัว

เธอยิ้มรับ

ผมหยอกว่า เธอคงอยากจะเป็นบรรณารักษ์

เธอนิ่งไปพักหนึ่งก่อนตอบ หรือฉันอาจเป็นคนเริ่มระบบบัตรบอกรายการในห้องสมุดขึ้นมาก็ได้ ใครจะรู้

เธอหัวเราะเสียงใส แล้วเดินไปนั่งอยู่ที่ท่าน้ำริมคลองพลางโบกมือลาลุงขายก๋วยเตี๋ยวที่กำลังติดเครื่องเรือหลังเก็บร้านเรียบร้อยก่อนหยิบกล้องถ่ายรูปคล้ายกล่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นมา

ผมมองด้วยความแปลกใจ เธอบอกว่ากล้องตัวนี้ชื่อ Six-20 Brownie Model C ใช้ฟิล์ม 620 แต่ฟิล์มเลิกผลิตไปแล้ว ตอนนี้เธอเลยไม่ค่อยได้ ถ่ายภาพ

ผมไม่เข้าใจกลไกอะไรมากนัก จำได้แค่เลข 620

 

คืนนั้นผมค้นข้อมูลของฟิล์ม 620 และกล้องของเธอ วันรุ่งขึ้นหลังส่งแปลนออกแบบภายในให้ลูกค้าที่ซอยนานา วงเวียน 22 กรกฎา ผมเดินไปแยกพลับพลาไชยเพื่อสอบถามร้านขายฟิล์ม

เมื่อพบเธอที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในครั้งต่อมาผมยื่นถุงกระดาษที่บรรจุฟิล์มส่งให้เธอ

เธอหยิบฟิล์ม 135 และ 120 ขึ้นมามองพักหนึ่งเอ่ยขอบใจแล้วบอกว่า ตามจริงก็เคยใช้ 120 อยู่บ้าง แต่ 135 ไม่ค่อยได้ใช้ เธอไม่ค่อยมีกล้องที่ใช้ฟิล์มเหล่านี้

ผมหยอกว่าเธอคงนิยมของเก่าขนานหนักใช้แต่รุ่นที่เลิกผลิตฟิล์มไปแล้ว พลางหยิบโทรศัพท์มาเปิดวิธีดัดแปลงฟิล์มทั้งสองชนิดลงในกล้องของเธอ

เธอตื่นเต้นมากพึมพำว่าทำไมเธอไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แล้วขอบคุณผมยกใหญ่

ผมชวนเธอขึ้นเรือ เธอหรี่ตามอง ก่อนเอ่ยอย่างล้อเลียน เอาเรือใหญ่ออกโดยไม่กังวลค่าน้ำมันแบบนี้ท่าทางจะรวยมาแน่

ผมตบกระเป๋า หัวเราะพลางขับเรือไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา

จอดเรือไว้ด้านข้างของท่าเรือท่องเที่ยวระหว่างโอเรียนเต็ลและแชงกรี-ลา พิกัดของโป๊ะตรงข้ามท่าเรือเพนนินซูล่าพอดิบพอดี ท่าเรือแห่งนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารที่ผมฝากท้องเสมอเมื่อพ้นเขตคลองด่าน ผมเอ่ยทักลุงและป้าเจ้าของร้านก่อนสั่งอาหารและเบียร์

ระหว่างนั่งมองพระอาทิตย์ร่วงลงหลังกลุ่มตึกสูงที่ฝั่งธนบุรี ผมเอื้อมมือไปจับมือเธอแล้วสะดุ้งโดยทันที มือเธอร้อนราวกับไฟ เธอหัวเราะพลางบอกว่าเป็นคนมืออุ่นแบบนี้

ผมไม่กล้าสัมผัสเธออีกเลย ได้แต่นั่งมองเธอตักอาหารแต่ละจานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่เคยกินแกงป่าอร่อยแบบนี้เลย ปลาที่บรรจงทอดก่อนปรุงกับเครื่องแกงในหม้อ กุ้งก็อร่อยมาก ฉันเพิ่งเคยกินกุ้งที่ทอดในน้ำมันมะพร้าว แป้งบางเฉียบที่โอบอุ้มความนุ่มของกุ้งไว้ก็ไร้ที่ติ ความจริงฉันตื่นเต้นอยากกลับบ้านไปทดลองใส่ฟิล์มมาก แต่ฉันก็ยังหยุดทานอาหารเหล่านี้ไม่ได้

สารพัดคำชม ยืดยาวจนป้ายิ้มแล้วยิ้มอีกระหว่างลำเลียงอาหารมาเป็นระยะ ผมมองเธอเทเบียร์ขวดที่แปดลงแก้วระหว่างที่ถ้อยคำยังคงดำเนินอย่างชัดเจนโดยไม่มีอาการมึนเมา เห็นสมควรแก่เวลาที่ลุงและป้าจะปิดร้านพักผ่อน ผมชวนเธอกลับขึ้นเรือ เธอยกมือไหว้ลุงก่อนสวมกอดป้าแน่นพลางบอกว่าจะไม่ลืมอาหารที่อร่อยอย่างนี้เลย ป้าหัวเราะ ก่อนบอกให้เธอมาหาอีก เธอยิ้มพลางบอกว่าถ้ามีโอกาส

เพียงแวบเดียวที่ผมคิดว่ารอยยิ้มนั้นเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

ผมขับเรือเพื่อไปส่งเธอที่บ้าน ระหว่างที่เลี้ยวจากคลองดาวคะนองเข้าคลองด่าน คล้ายได้ยินเธอพึมพำว่าที่คลองต้องเป็นแบบนี้เป็นเพราะฉันเองทีเดียว ผมฟังด้วยความไม่เข้าใจและในตอนนี้เบียร์ก็ทำปฏิกิริยากับร่างกายมากแล้ว เหมือนเธอจะแอบเช็ดน้ำตาแล้วหันกลับไปนั่งปะทะทั้งลมและน้ำที่กระเด็นเป็นระยะระหว่างเรือแล่นไปตามคลอง พอถึงศาลาท่าน้ำหน้าบ้านเธอกระโดดขึ้นจากเรือโดยไม่พูดอะไร

ผมผูกเรือแล้วตามไปพบเธอยืนนิ่งราวกับรูปปั้นอยู่ใต้ต้นลั่นทม เรือนมะนิลาด้านหลังของเธอดูสงบและอบอุ่น

ผมยืนเก้กังอยู่กลางห้องโถง เธอตั้งกาบนเตา จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับชงชา ผมมองอากัปกิริยาเหล่านั้นอย่างเงียบเชียบ สังเกตเธออย่างจริงจังเป็นครั้งแรก แม้เธอมีเค้าโครงของชาติผสม ตัวสูงโปร่ง โครงร่างใหญ่ แต่จมูกเธอไม่โด่งเท่าไรนัก ทว่า ดวงตากลมโตพร้อมประกายวิบวับและรอยยิ้มเป็นเครื่องประดับที่ทำให้ทุกอย่างน่ามอง

เธอผายมือเชิญผมที่เบาะหน้าโต๊ะชงชา ผมนั่งลงพลางมองกองหนังสือตั้งใหญ่ ภาพถ่ายขาวดำ แผนที่แผ่นใหญ่กลางโต๊ะด้านข้าง ป้านชาเรียงรายบนชั้นไม้ที่จัดอย่างเป็นระเบียบ บางชิ้นดูมีอายุมากกว่าผมหรือเธอด้วยซ้ำไป ตู้ใบหนึ่งที่มุมห้องโถงเต็มไปด้วยกล้อง Brownie ของ Kodak

นี่คุณมีทุกรุ่นเลยรึเปล่าเนี่ย ผมร้องถามออกมาอย่างลืมตัว

เธอหัวเราะพลางตอบอ้อมแอ้มว่าน่าจะรุ่นแรกๆ ถึงช่วงกลางนะ

เธอรินชาลงถ้วย ผมชอบใจชาที่เธอชงมาก เน็กกุ่ย จุ่ยเซียน เธอบอกชื่อใบชา กลิ่นควันไม้กับกลิ่นคล้ายผลไม้สุกน่าจะช่วยให้คุณโล่งสบายขึ้น ขับเรือไม่เอียงไปมาแบบเมื่อสักครู่

ผมหลบตารีบจิบน้ำชาสีส้มแดงจนหมดถ้วยก่อนถามถึงบ้านหลังนี้และเธอ

เธอเล่าว่าหลังพ่อจากไป แม่ย้ายไปพักกับญาติที่บ้านใกล้วัดนางนองเพื่อพักผ่อนจากความทรงจำตลอดสามสิบปีในบ้านหลังนี้ที่มีกับพ่อ

ผมชะงักแล้วบอกเธอว่า เหมือนผมเลย

เธอยิ้มเศร้าพลางเล่าต่อ หลังจากไม่มีพ่อ หน้าที่ทางธุรกิจของพ่อก็อยู่ในความรับผิดชอบของเธอ… ญาติของฉันส่วนมากอยู่ทางยุโรป พี่ชายฉันมีครอบครัวและลูกเล็กๆ อยู่ที่นั่น พ่อแต่งงานกับแม่เมื่อพ่ออายุห้าสิบปี แม้อายุห่างกันเกือบสามสิบปี แต่ฉันเห็นความทะนุถนอม รักใคร่ ห่วงใยที่พ่อมีให้แม่ตลอดมา ตอนฉันอายุยี่สิบปีพ่อเริ่มลืมหลายเรื่องราวในชีวิต พ่อจำใครหลายคนไม่ได้และคิดว่าท่านอยู่ในวัยหนุ่ม ดิ้นรนจะกลับปีนังซึ่งท่านเคยใช้ชีวิตช่วงนั้นที่นั่น ท่านจำไม่ได้แม้กระทั่งแม่ แต่ท่านจำได้ว่ามีฉัน ลูกสาวคนเดียวของท่าน ฉันเป็นเด็กติดพ่อ เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับการงานของท่านเพราะพี่ชายเดินทางไปเรียนตั้งแต่อายุได้เจ็ดปี แล้วก็ใช้ชีวิตที่นั่นเป็นส่วนใหญ่ พ่อเกิดความสับสนระหว่างการมีอยู่ของฉันและวัยหนุ่มของท่าน ฉันเสียใจกับการมีอยู่ของตนเองในความทรงจำของพ่อ พ่อคงเป็นทุกข์เพราะความสับสนในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ฉันและแม่ดูแลท่านจนจากไปอย่างสงบ พี่ชายเดินทางกลับมาพร้อมครอบครัวช่วยจัดการจนกระทั่งงานศพเรียบร้อย ฉันได้รับกล้อง Brownie ตัวแรกในการเดินทางกลับมาครั้งนั้นของพี่ หลังจากนั้นกล้องและฟิล์มถ่ายภาพจำนวนมากถูกส่งมาอย่างสม่ำเสมอพร้อมจดหมาย

เธอเงียบไป

ที่นู่นคงหาซื้อของเก่าแบบนี้ได้ง่ายนะคุณ เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศก็เพิ่งอาสาหาซื้อฟิล์มถ่ายภาพให้ผม หลังจากผมโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับกล้องและฟิล์มในเฟซบุ๊กเมื่อวันก่อน

พูดจบผมก็หลบสายตาเพราะหลุดความลับออกไป

เธอยิ้มกว้างบอกขอบคุณก่อนเริ่มเก็บอุปกรณ์ชงชา การพักผ่อนหลังดื่มแอลกอฮอล์ของคุณน่าจะเพียงพอแล้ว ตอนนี้น่าจะขับเรือกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

เธอเดินมาส่งผมที่ศาลาริมน้ำ พร้อมบอกว่าพรุ่งนี้จะลองดัดแปลงฟิล์มที่ผมซื้อมาให้ลงในกล้องของเธอ ผมขอมาดูขั้นตอนเหล่านั้น

เธอนิ่งไปพักหนึ่งก่อนบอกเวลานัดหมายและโบกมือลา

 

ผมจอดเรือที่ท่าน้ำบ้านเธอราวสี่โมงเย็น เธอกำลังง่วนกับข้าวของบนโต๊ะ ที่นำมาตั้งไว้ใต้ต้นลั่นทมและดูตกใจในการมาถึงก่อนเวลาของผม

ผมเอ่ยขอโทษพร้อมบอกว่าส่งงานเสร็จไวจึงแวะเข้ามาเลย พลางมองถ้วยกาแฟที่ดื่มหมดแล้วทั้งสามใบบนโต๊ะด้วยความสงสัย

เธอบอกว่ากำลังดูร่องรอยการจิบกาแฟของตัวเองอยู่ สวยเหมือนเธอวาดภาพด้วยการดื่มด่ำจนบางทีก็อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้

ผมหัวเราะพลางส่งโทรศัพท์ให้เธอ เธอถือไว้ในมือพักหนึ่ง ผมเลยเลื่อนไปที่แอพพลิเคชั่นถ่ายภาพที่เพิ่งโหลดมา ลองอันนี้ดู ผมก็ยังไม่ค่อยได้ใช้ กดทัชสกรีนชัตเตอร์ที่ด้านล่างของหน้าจอ

เธอรับไปพลางถ่ายอยู่สามสี่ภาพก่อนส่งโทรศัพท์ให้ผมแล้วเชิญเข้าด้านในของบ้าน

เธอเตรียมชงชา ผมขอเปลี่ยนเป็นกาแฟ เธอขอโทษพลางบอกว่าที่บ้านมีแต่ใบชา กาแฟเธอได้มาจากเรือริมท่างานเมื่อบ่าย

ผมบอกว่าอย่างนั้น ขอเป็นเน็กกุ่ย จุ่ยเซียนอย่างเดิม

เธอยิ้มก่อนบอกว่า วันนี้จะชงอีกตัวให้ลอง

เธอเอื้อมมือไปหยิบห่อกระดาษจากตู้เตี้ยข้างโต๊ะ คลี่กระดาษออกก่อนใช้อุปกรณ์แซะใบชาส่วนหนึ่งออกมาจากแผ่นชาที่อัดเป็นก้อนอย่างคล่องแคล่ว สบตาผมระหว่างการคลายตัวของใบชา ในงานร้อนจัด รินชาและยกถ้วยมาวางพลางบอก ชาหมักสูตรดั้งเดิมของญาติที่เมืองจีน

ผมทึ่ง โอ้โห คุณมีญาติทุกที่จริงๆ คราวนี้ญาติข้างแม่

เธอตอบเจือเสียงหัวเราะเมื่อผมเริ่มจิบชา

เธอเดินนำผมเข้ามาในห้องด้านข้าง ภาพถ่ายในกรอบภาพเรียงรายบนกำแพง เธอนั่งลงที่พื้นกลางห้องหยิบอุปกรณ์สำหรับดัดแปลงฟิล์ม ผ้าสีดำเย็บคล้ายถุงกระสอบความกว้างขนาดมุดเข้าไปได้เกือบทั้งตัว ผมช่วยแกะฟิล์มจากกล่องส่งให้เธอที่กำลังคลำชิ้นส่วนภายในถุง เธอรับม้วนฟิล์ม 135 สำรวจอุปกรณ์ด้วยสีหน้าคิด คำนวณก่อนมุดเข้าไปในความมืดพักใหญ่ ผมกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้นตามไปด้วย

คล้ายได้ยินเสียงแผ่วเบาของฟิล์มที่เดินทางออกจากกลักฟิล์ม ชั่วอึดใจเสียงปิดฝากล้องดังขึ้น เธอโผล่พ้นถุงผ้าด้วยท่าทางโล่งอกพลางสูดอากาศหายใจ ผมสวมกอดเธอจากด้านหลัง ประกบปากเมื่อเธอหันมาด้วยความตกใจ ร่างกายของเธออุ่นจัดเมื่อผมถ่ายทอดทุกความรู้สึกผ่านสัมผัสทีละส่วน

สองมือของเธอโอบแน่นที่ลำคอกระซิบเสียงสั่น นี่เรากำลังจะร่วมรักกันต่อหน้าบรรพบุรุษของฉันนะ

ผมสะดุ้งก่อนผละจากเธอพลางเอ่ยขอโทษ

เธอยิ้มแล้วเดินออกไป ผมนั่งนิ่งอยู่นานคล้ายทุกการรับรู้ดับลงชั่วขณะ ก่อนลุกตามออกมา ทว่า ไม่พบเธอแล้ว

รออยู่ครู่หนึ่งก่อนติดเครื่องเรือขับกลับบ้านพร้อมความรู้สึกแปลกประหลาดที่ถาโถมไม่หยุดหย่อน

 

หลังจากคืนนั้นเธอหายไปจากชีวิตผมราวกับไม่เคยมีเธออยู่ แม้ผมจะขับเรือผ่านบ้านเธอกี่ครั้งก็พบเพียงความเงียบสงบ

คืนหนึ่งหลังจากผมนั่งอ่านข่าวสารของการอนุรักษ์ลำคลองของชุมชนผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊ก ผมก็พบเธอ ภาพถ่ายขาวดำในกรอบภาพพร้อมคำบรรยายใต้ภาพถึงการทำบุญของลูกหลานที่ทำการบูรณะศาลาท่างานของวัดเพื่ออุทิศแด่เธอ บรรพบุรุษผู้บริจาคที่ดินริมฝั่งคลองแก่สาธารณประโยชน์นานัปการ เธอผู้สืบสายสกุลจากหุ้นส่วนของผู้สร้างทางรถไฟวงเวียนใหญ่-มหาชัย ซึ่งสร้างขนานเส้นทางคลองด่านสายนี้เพียงชั่วอายุคน

ผมปิดคอมพิวเตอร์ คล้ายหมดเรี่ยวแรงเมื่อเคลื่อนตัวเข้าใต้ผ้าห่มด้วยความรู้สึกหนาวสั่น

บ่ายวันรุ่งขึ้นผมตัดสินใจขับเรือไปที่บ้านเธอ หลังผูกเรือที่ท่างานผมเดินเข้าสู่บริเวณบ้านช้าๆ ประตูบ้านเปิดกว้าง รองเท้าคู่หนึ่งถอดวางอยู่หน้าประตู

ผมหยุดยืนอยู่ครู่หนึ่งก็พบบุรุษท่าทางงามสง่าอายุราวห้าสิบปีเดินออกพลางเอ่ย เดาว่าคุณคงเป็นเจ้าของฟิล์ม ILFORD ทั้งหกม้วนนั้น ผมพยักหน้า ก่อนเดินตามเข้ามาในบ้าน

ผมรับฟังเรื่องราวจากการสังเกตเห็นกล่องฟิล์มที่ระบุปีในช่วงปัจจุบันเก็บรวมกับแกนไม้ของม้วนฟิล์มและกล่องจำนวนมากในตู้เก็บของของคุณทวดเล็กเจ้าของบ้านหลังนี้ผู้เป็นน้องสาวของคุณทวด

เขาเล่าต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คุณทวดเล็กชอบถ่ายภาพ น่าจะเป็นสาวเดียวในคลองสายนี้ที่นิยมการถ่ายภาพ อีกทั้งยังมีปัจจัยพร้อมทุกสิ่ง คุณทวดของผมส่งอุปกรณ์ทั้งหลายมาให้น้องสาว แม้ท่านจากไป หน้าที่ในการส่งอุปกรณ์ยังดำเนินต่อมาจนถึงคุณปู่ของผมจนกระทั่งคุณทวดเล็กจากไปก่อนเข้าสู่ปีสองพันห้าร้อยเพียงสามวัน คุณปู่ของผมเดินทางมาจัดการพิธีต่างๆ พร้อมบรรจุกล้องถ่ายภาพ Six-20 Brownie Model C ซึ่งกำลังวางจำหน่ายในช่วงที่ท่านเดินทางกลับมา ไว้ด้านข้างของร่างกายที่สงบนิ่งราวกับคนนอนหลับสนิทในที่พักผ่อนสุดท้ายของคุณทวดเล็ก ภายในตู้ของบ้านหลังนี้จึงมีกล้อง Brownie เพียงรุ่นก่อนหน้าซึ่งคุณทวดเล็กเคยใช้ทุกตัว ผมเป็นคนเดียวในบ้านที่สนใจการถ่ายภาพ จนทุกคนในครอบครัวหยอกว่าผมรับพันธุกรรมนี้มาจากคุณทวดเล็ก

เมื่อมีโอกาสผมแวะเวียนมาบ้านหลังนี้บ่อยครั้ง ไม่นานมานี้ผมพบกล่องฟิล์มระบุปีหมดอายุที่ ค.ศ.2018 ผมได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ กล่องฟิล์มกลุ่มนี้พิมพ์ด้วยกระบวนการของยุคปัจจุบัน แน่นอน แม้สภาพจะดูผ่านกาลเวลามาพร้อมกับกล่องอื่นๆ ผมเคยดูภาพถ่ายของเธอในสมุดบันทึกมีช่วงหนึ่งที่คุณทวดเล็กเขียนถึงมิตรรักคนหนึ่งของเธอ ไม่ปรากฏภาพของบุรุษนั้น มีเพียงภาพถ่ายที่บรรยายว่า บ้านริมคลอง ตรงข้ามวัดไทร ซึ่งดูอย่างไรก็เป็นสถาปัตยกรรมยุคหลังสองพันห้าร้อย แปะติดมุมภาพอยู่ในสมุดบันทึกช่วงนั้น เมื่อผมเห็นคุณในแวบแรก ผมก็รู้ว่าเป็นคุณ

เขาหยุดพูดต่อราวกับเรื่องราวที่ต้องบอกเล่าจบลงเพียงเท่านั้น ยื่นสมุดบันทึกให้ผมพลางบอกลา

ผมยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอบคุณ ก่อนนั่งลงอ่านข้อความในสมุดบันทึกครู่ใหญ่

คิดดูแล้วอดีตก็ซ้อนทับกับปัจจุบันแบบนี้ใช่ไหม การพบกันโดยไม่มีที่มาที่ไปอาจเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาของโลกใบนี้ ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าการพบเธอก็เป็นความสับสนงุนงนที่สุขใจดี

ผมเก็บสมุดบันทึกไว้ที่ชั้นวางหนังสือภายในห้องโถง เปิดอัลบั้มภาพในโทรศัพท์มือถือดูร่องรอยการดื่มด่ำของถ้วยกาแฟที่เธอถ่ายไว้ซ้ำไปซ้ำมาก่อนปิดประตูบ้านด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

เรื่องราวของเราในสมุดบันทึกเล่มนั้นหลังจากเหตุการณ์ในห้องยังดำเนินต่อ แม้ไม่แน่ใจว่าจะได้พบเธออีกหรือไม่ แต่สัญชาตญาณบอกให้ผมเชื่อเช่นนั้น

และในขณะนี้ ผมทำได้เพียงรอ