เรื่องสั้น : ปลาเทราต์แช่แข็ง (1) / เจษฎา กลิ่นยอ

เรื่องสั้น / เจษฎา กลิ่นยอ

 

ปลาเทราต์แช่แข็ง (1)

 

ห้องสีขาวเริ่มสว่างขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ไต่จากเส้นขอบฟ้า ผ้าม่านกักเก็บพลังงานความร้อนเอาไว้คล้ายโซลาร์เซลล์ มันคือดวงอาทิตย์ประดิษฐ์ดวงที่สามพันเจ็ดร้อยห้าสิบหก หลังการศึกษาและค้นคว้าจากกระทรวงวิทยาศาสตร์สากลในการหล่อหลอมพลังงานขึ้นมาในรูปแบบดวงอาทิตย์ แต่มันก็ยังเป็นแค่ดวงอาทิตย์ที่ใกล้เคียง ยังไม่สมบูรณ์ถึงขั้นที่จะใช้ทดแทนของจริงได้ และอายุการใช้งานของมันก็มีช่วงเวลาอันสั้น

เสียงเพลงดังขึ้นจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นล่าสุด ระบบออโต้ถูกตั้งเอาไว้ให้การทำงานเกิดขึ้นเอง เมื่อได้ยินเสียงเพลงเดิมๆ ที่ดังขึ้นแทบจะทุกวันในยามเช้า อนุสรณ์ฮัมเพลงในลำคอตามทำนองที่ดังขึ้นอย่างเหนื่อยล้า สายตายังจับจ้องเพดานสีขาวที่เมื่อคืนเขาใช้มันเป็นภาพความคิดของลูกแกะกำลังกระโดดข้ามรั้วพร้อมจำนวนเลข เขาหลับไปเมื่อนับได้ถึงเลขห้าร้อยสามสิบเก้า แต่ตอนนี้ไม่มีลูกแกะอยู่บนนั้นแล้ว เขาหยิบแว่นตาขึ้นมาสวม ลุกไปยืนอยู่หน้ากระจกบานยาวที่มองเห็นได้ทั้งตัว ผมสีดอกเลาประปรายเป็นหย่อมๆ อยู่บนศีรษะเกือบล้านเลี่ยน ใบหน้าอวบอูมเหี่ยวย่นยับตามกาลเวลา แผงอกเต็มไปด้วยเส้นขนสีเทาหงิกงอ หัวนมสีดำคล้ำและมีเส้นขนอยู่รอบวง พุงป่องย้อยยื่นออกมามากเกินไป มันจึงบดบังองคชาตอันเล็กจิ๋วและเหี่ยวย่นด้วยเช่นกัน ขนขาเริ่มขึ้นอีกแล้วหลังจากที่เขาเพิ่งไปใช้บริการร้านกำจัดเส้นขนด้วยนวัตกรรมรุ่นล่าสุดจากแร่หินอวกาศที่นำเข้ามาจากนอกโลก หลังเลิกงานวันนี้อนุสรณ์บอกตัวเองว่าเขาจะแวะร้านศิรินญาซาลอนเพื่อกำจัดขนอีกครั้ง เขายังคงมองสำรวจเรือนร่างของตัวเองต่อไป ความชราภาพเข้ามาเยือนเขาอย่างช้าๆ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป และเมื่อเขารู้ตัวอีกที ร่างกายของเขาก็กลายเป็นอย่างที่กำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ นิ้วมือสั้นป้อม แหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้ายหายไป เขาไม่ได้ใส่มันมาหลายต่อหลายปีแล้ว ด้วยความที่น้ำหนักเขาขึ้นมาตลอดในช่วงหลายปีหลัง ทำให้ทุกอย่างดูคับแน่น เสื้อผ้า กางเกง ต้องเปลี่ยนใหม่หมด เพลงเปลี่ยนท่วงทำนองสดใสและแพรวพราวขึ้น เขาเดินไปแหวกผ้าม่านออกเพื่อมองไปยังเบื้องล่าง เห็นหญิงสาวกำลังก้าวขึ้นรถแท็กซี่ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป อนุสรณ์เดินเปลือยกายเข้าไปในห้องครัว เขาเปิดน้ำแร่ดื่มจนหมดขวด แล้วบีบขวดพลาสติกให้เรียบแบนก่อนจะนำไปหย่อนลงในเครื่องแปรรูปพลาสติก ขวดจะย่อยสลายแล้วกลายเป็นปุ๋ยที่เอาไปใส่ไว้ในต้นไม้ได้ เขาช่างภูมิใจกับมันเหลือเกินกับเจ้าเครื่องแปรรูปพลาสติก เพราะมันคือสิ่งประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นขึ้นมาได้ งานการหนักหน่วงเลือดตาแทบกระเด็น ตอนนั้นภรรยาเขายังมีชีวิตอยู่แต่เขาก็แทบจะไม่ได้กลับมานอนเคียงข้างภรรยาของเขาเลย เขาทุ่มเทและอุทิศตัวเองหลายต่อหลายปีกับเจ้าเครื่องแปรรูปพลาสติก ในตอนนั้นโลกกำลังเกิดวิกฤตกับขยะพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายแล้ว เขายิ้มให้กับมันอีกครั้ง ก่อนหยิบปุ๋ยที่แปรรูปมาจากขวดพลาสติกเดินไปที่กระถางดอกไม้ “เช้านี้ผมเหลือเวลาอีกเท่าไหร่” อนุสรณ์พูดขึ้นขณะหย่อนปุ๋ยลงไปแล้วค่อยๆ เกลี่ยพรวนดินรอบกระถาง เขาค่อยๆ บรรจงทำอย่างตั้งใจ เขาปลูกมันเองตั้งแต่ยังเป็นเพียงแค่เมล็ด

มันคืองานอดิเรกและการผ่อนคลายของอนุสรณ์ยามเช้า

 

“ผมเหลือเวลาอีกเท่าไหร่”

“สองชั่วโมงกับอีกสิบสี่นาทีค่ะ” เสียงดังออกจากส่วนหนึ่งของลำโพงที่ถูกติดตั้งเอาไว้รอบห้อง

“ช่วยเช็กให้หน่อยว่า เช้านี้ผมต้องเข้าร่วมประชุมเรื่องอะไรบ้าง?”

“มีสามเรื่องค่ะ หนึ่ง การวิจัยการย่นระยะเวลา สอง การสร้างหุ่นยนต์ประดิษฐ์เพื่อช่วยเหลือเหล่าคนไม่มีบ้าน สาม พลังงานทดแทนดวงอาทิตย์ดวงที่สามพันเจ็ดร้อยห้าสิบเจ็ด”

“ขอบคุณมากริสา… อีกเรื่อง คุณช่วยจองคิวแวกซ์ขนขาที่ศิรินญาซาลอนให้ผมด้วยนะหลังเลิกงาน”

“ต้องการช่างคนเดิมหรือไม่คะ?”

“คนนั้นครั้งที่แล้วทำผมเจ็บไปหน่อย คุณช่วยเลือกคนใหม่ให้ผมหน่อยละกัน”

“ริสาประมวลค่าน้ำหนักมือของช่างทั้งร้านให้แล้ว ค้นพบว่า มีสามคนที่ค่ามวลน้ำหนักของมือใกล้เคียงกัน และเหมาะกับมวลกล้ามเนื้อของคุณ”

“ผมขอดูรูปหน่อย” ภาพหญิงสาวสามคนในชุดยูนิฟอร์มของร้านศิรินญาซาลอนปรากฏขึ้นที่แผงหน้าจอทัชสกรีน “ผมขอคนที่สองละกัน ดูเธอจะไม่น่าใจร้ายกับผมนะ” เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดมือเพื่อปัดเศษดินให้ออกไป

“แล้วอาหารเย็นนี้จะรับเหมือนเดิมหรือเปล่าคะ?”

“อื้ม เอาอย่างทุกวันนั่นแหละ” เขาเงียบไปก่อนถามออกมา “วิมลติดต่อกลับมาบ้างหรือเปล่า?”

“ไม่เลยค่ะ”

เขาทอดถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “ขอบใจมาก”

 

อนุสรณ์เดินตัวเปลือยเปล่าเข้าไปในครัว เขาเปิดตู้เย็นจากช่องฟรีซแล้วหยิบปลาเทราต์แช่แข็งออกมา เขาเริ่มลงมือแกะห่อพลาสติก เปิดน้ำใส่อ่าง แช่ปลาให้ความเย็นคลายตัว แล้วจับมันยัดเข้าไปในเครื่องอบปลาระบบพลังงานความร้อน แม้ตอนนี้เทคโนโลยีทางด้านอาหารจะพัฒนาไปไกลมากแล้ว มีทั้งการใช้เอไอในการทำอาหารปรุงสุกรสชาติยอดเยี่ยม หรืออาหารอัดแท่งที่กินเข้าไปก็จะอิ่มได้สามวัน เพื่อลดการฆ่าสัตว์และพื้นที่ในการทำฟาร์มต่างๆ แต่อนุสรณ์ยังคงชื่นชอบในการทำอาหารกินเองอย่างสม่ำเสมอในทุกวัน ระหว่างรอเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ไอริสเจ้าแมวเดินออกมาจากซอกลืบที่มันแอบเข้าไปนอนเป็นประจำ เมื่อปลาเทราต์ส่งกลิ่นอวลอบออกมา มันครางเสียงอยู่ในลำคอ ก่อนจะกระโดดขึ้นมานั่งอยู่บนโต๊ะอาหารจ้องมองเครื่องอบปลา มันรู้ว่าส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของปลาจะเป็นของมันอย่างเช่นทุกวัน

อนุสรณ์ออกจากห้องน้ำ ใส่สูทผูกเนกไท เขานั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วตัดแบ่งปลาออกเป็นสองส่วน ส่วนหัวถึงลำตัวเป็นของเขา อีกส่วนที่เหลือเป็นของไอริส แมววิเชียรมาศที่ภรรยาของเขารักเอ็นดูมันมากมาย

เขาลูบหัวมันแผ่วเบา ไอริสยกขาเกาที่หลังหูเมื่อกินเสร็จ ฟันเฟืองตัวหนึ่งหลุดออกมาจากขา เอาหยิบแล้วไขกลับเข้าไปอย่างเดิม

ไอริสผ่านเข้าสู่กระบวนการที่ถูกเรียกว่า ‘ปลาเทราต์แช่แข็ง’ มันคือการดัดแปลงสิ่งที่เคยมีชีวิตให้กลายเป็นหุ่นยนต์ ภรรยาของเธอทำใจไม่ได้ที่จะเผาร่างของไอริส เธอร้องไห้ฟูมฟายอย่างเสียสติ เธอยอมรับว่าเธอเห็นแก่ตัว มันคือความรัก ความผูกพัน เธอบอกว่าถ้าจะต้องมีใครที่ตายจากขอเป็นเธอแทนไอริสจะดีกว่า

เขาซึ่งเป็นผู้อำนวยการของ ‘ปลาเทราต์แช่แข็ง’ ลำบากใจที่จะยินยอมเซ็นอนุมัติให้เธอ เพราะการจะทำให้สิ่งที่ไม่มีชีวิตได้ฟื้นกลับคืนมามีชีวิตอีกครั้ง จำเป็นต้องแลก สิบปีของความทรงจำ ฉันยินยอม มากกว่าสิบปีฉันก็ให้ได้ เธออ้อนวอนและฟูมฟายไปในคราเดียวกัน

ถ้าฉันจะจำอะไรไม่ได้เร็วขึ้นสิบปี แต่อย่างน้อยก่อนที่จะถึงตอนนั้น ฉันก็อยากจดจำอะไรเกี่ยวกับไอริสเอาไว้ให้มากที่สุด ฉันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาตลอด เพราะคุณไม่เคยที่จะสนใจอะไรฉันเลย

 

หลังภรรยาเสีย เขาตัดสินใจขายบ้าน แล้วมาซื้อคอนโดมิเนียม ชั้นร้อยสิบห้า เธอเป็นหัวหน้าแผนกวิทยาศาสตร์การศัลยกรรมเพื่อความสวยงาม เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น และบอกกับตัวเองว่า เขาจะต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ ในวันแต่งงาน อนุสรณ์ประดิษฐ์หุ่นยนต์แมวให้เธอหนึ่งตัว แต่เธอบอกเขาว่า เธออยากได้แมวที่เป็นแมวจริงๆ มากกว่า เขาขยับฟันเฟืองเข้าล็อก ไอริสก็กลับมาวิ่งกระโดดได้อีกครั้ง

ภรรยาเขาจากไปหลังจากที่ไอริสกลายมาเป็นหุ่นยนต์ได้สามปีหลังจากนั้น

 

อนุสรณ์เดินเข้าแผนก ทุกคนต่างยกมือไหว้ก่อนจะเดินเข้าห้องทำงาน เขาจะเรียกตรวจดูเอกสารเกี่ยวกับเรื่อง ‘ปลาเทราต์แช่แข็ง’ จากริสาก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ ไล่ตรวจดูรายชื่อของผู้ที่จะถูกทำให้กลายเป็นปลาเทราต์แช่แข็ง และรายชื่อของผู้ที่จะถูกลบสิบปีของความทรงจำ แต่ละวันเขาภาวนาอยากให้ชื่อบางชื่อปรากฏขึ้นอยู่บนสไลด์โฮโลแกรมที่เขากำลังดูอยู่ แต่ในใจลึกๆ เขาก็ไม่อยากจะพบชื่อที่เขากำลังมองหาอยู่ และเมื่อเขาไล่เรียงดูแล้วไม่พบชื่อที่มองหา เขาก็จะรู้สึกโล่งใจขึ้นอย่างแปลกประหลาด อนุสรณ์เคาะที่กระเป๋าเสื้อเบาๆ สองครั้ง เสียงขานรับของริสาก็ดังขึ้นในหูข้างซ้ายของเขาที่มีเอียปลั๊กเสียบอยู่ “บอกพวกเขาไปว่าขอเลื่อนประชุมออกไปก่อนทุกการประชุม… เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับ ประโยคหลังนี่ไม่ต้องบอกออกไปนะ”

“แล้วนัดรับประทานข้าวกลางวันกับคุณกมลเนตรแผนกวิทยาศาสตร์การศัลยกรรมเพื่อความสวยงามให้เลื่อนด้วยไหมคะ”

เขาดูลังเลเล็กน้อย “ไม่ต้องเลื่อน… ริสาคุณช่วยปรับไฟให้มันสลัวหน่อยสิ ผมอยากงีบสักหน่อย โรคนอนไม่หลับมันกัดกินผมมากเหลือเกิน แล้วถ้าใครจะเข้ามา บอกให้พวกเขารอก่อน”

“ให้ริสาเปิดเพลงที่ผ่อนคลายเพื่อทำให้คุณหลับดีไหมคะ”

“คุณก็รู้ว่าเพลงพวกนั้นช่วยอะไรผมไม่ได้เลย”

อนุสรณ์หลับตาลง เสียงของผู้คนด้านล่างที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ใส่ใจก็ดังขึ้นอย่างอึงอล กลุ่มคนหลายพันคนกำลังประท้วงเรียกร้องอะไรบางอย่างกันอยู่

 

ไฟสลัวเลือนๆ รางๆ อย่างทีเล่นทีจริง วิสกี้ออนเดอะร็อกของเขาพร่องไปเกินครึ่งแล้ว ส่วนมาร์ตินี่ของกมลเนตรเหลือแต่มะกอก เธอหยิบมันมาขบเล่นด้วยฟันหน้าอย่างเบา ริมฝีปากสีนู้ดเปรอะเปื้อนอยู่บนลูกมะกอก อีกมือคีบบุหรี่เมนทอล อนุสรณ์สาดเหล้าที่เหลือลงคอ แล้วคว้าเธอมาจูบอย่างบดขยี้ เธอเองก็พร้อมรับการจู่โจมนั้นอยู่นานแล้ว ทั้งสองโผเข้าหากัน กอด จูบ จับ ล้วง ดูดดื่ม กลืนกินพยายามจะเป็นของกันและกัน ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ โปรแกรมการจับคู่แมตช์ทั้งคู่ให้ตรงกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใช้บริการของโปรแกรมเหล่านี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่โปรแกรมจับคู่เขาให้กับคนที่ทำงาน เขาชั่งใจอยู่นานว่าจะส่งข้อความไปขอนัดเดตกับกมลเนตรดีหรือไม่ แต่แล้วความเปล่าเปลี่ยวในชีวิตประจำวันก็ลั่นเปรี๊ยะขึ้นในหู ผ่านระบบการคัดกรองสิ่งที่ดีงามและถูกต้องของริสา เปอร์เซ็นไทล์คำนวณผลออกมาเกินกว่าค่าเฉลี่ยก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก อนุสรณ์รู้สึกพึงพอใจกับการหาค่าคำนวณที่ได้ออกมา แล้วเขาก็บอกริสาให้เริ่มติดต่อพูดคุย เขาให้เธอเป็นคนส่งข้อความไปให้กมลเนตร คำพูดทุกคำเขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นหรือรู้สึกอย่างใดออกมาสักคำ ให้เธอเป็นคนจัดการให้หมดทุกอย่าง

เขาถกเสื้อในเธอขึ้น เต้านมงดงามสวยขาว มองเห็นเส้นเลือดสีเขียวเลือนๆ เขาใช้ปลายลิ้นตวัดอย่างบรรจง เธอสั่นครางกระเส่าส่ายออกมาอย่างแผ่วเบา ร่างกายของกมลเนตรร้อนรุ่มไปด้วยความอยากและต้องการ เธอเล่นโปรแกรมนี้เพราะต้องการเรื่องเซ็กซ์เท่านั้น และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแมตช์กับคนที่อยู่ในที่ทำงาน และเมื่อข้อความของอนุสรณ์ส่งมาเธอก็รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ริสาถอดเสื้อผ้าของเขาออก เขาเองก็ถอดกางเกงของเธอ เธออ้าขารอพร้อมให้เขาแหวกฝ่าเข้าไป เธอมององคชาตอันเล็กจิ๋วของเขาแทบจะไม่เห็น แต่ความอยากมากๆ ของเธอก็ทำให้เธอตัดความรำคาญตรงนั้นออกไป เธอกำลังรอคอยให้เขาแหวกมาข้างในตัวเธอ แต่อนุสรณ์ยังไม่สามารถทำได้ เขาพยายามอยู่ และเขาพยายามทุกครั้งเสมอมา เมื่อถึงเวลาที่จะใช้งานมัน มันไม่เคยสำเร็จสักครั้งเลย กมลเนตรเริ่มมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัว อนุสรณ์ยิ่งพยายามปลุกปั้นมันขึ้นมาให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่สำเร็จ

“ฉันน่าจะเชื่อคำเตือนของเพื่อนฉัน” เธอปาหมอนใส่เขา “มันจริงอย่างที่ใครๆ เขาก็ว่าเอาไว้” เธอสะบัดหนีแล้วลุกออกจากเตียง อนุสรณ์ยังนั่งคุกเข่าอยู่บนเตียง มองดูเธอใส่เสื้อผ้าอย่างว่องไว เสมือนว่าถ้าเธออยู่ในห้องนี้กับเขาเกินกว่าหนึ่งวินาที ก็จะทำให้เธอกลายเป็นแบบเขาไปได้ เสียงประตูปิดดังปัง! แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอน มองเพดานอันว่างเปล่า ลมหายใจเขาแผ่วเบา มือยังคงกุมกำอยู่ที่องคชาต

“คุณโอเคไหม” เสียงริสาดังขึ้นแล้วความเงียบก็กลืนหายไป

“มันแย่มากสำหรับผม”

“มีอะไรบ้างที่ฉันพอจะช่วยคุณได้คะ”

“ริสา ถ้าคุณมีร่างกายก็คงดี”

“ให้ฉันทำแบบเดิมอย่างทุกครั้งไหมคะ”

“กรุณาผมด้วย”

โฮโลแกรมฉายภาพปรากฏขึ้นบนกำแพงด้านหน้าของเขา เป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่สวยงาม ผมสั้นประบ่า ดวงตากลมโต ลิปสติกสีเบอร์กันดีขับเน้นริมฝีปากให้ดูงดงามน่าค้นหา เธอกำลังเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างช้าๆ เมื่อชิ้นสุดท้ายหลุดออกไป ภาพร่างอันเปลือยเปล่างดงามก็ยั่วยวนให้อนุสรณ์เคลิบเคลิ้ม กลิ่นหอมผ่อนคลายจากการตั้งค่าลอยออกมาภายในห้องสีขาว ความกำหนัดของอนุสรณ์เริ่มตื่นตัว องคชาตที่ก่อนหน้านี้เหี่ยวย่นปลุกอย่างไรก็ไร้ความหมาย ตอนนี้มันเริ่มที่จะแข็งตัว เส้นเอ็นปูดโปนขึ้นมาบ้าง เขากำมือไว้ที่มัน แล้วค่อยๆ ทำให้มันตื่นตัวมากขึ้นไป

“คุณอยากใส่เข้ามาในร่างของฉันไหมคะ” ริสาถามด้วยสุ้มเสียงอ้อนวอนอย่างยั่วยวน

“ผมอดใจไม่ไหวแล้ว”

“ฉันก็เช่นกัน” ภาพโฮโลแกรมสามมิติเดินออกจากผนังขึ้นไปนั่งอยู่บนตัวของอนุสรณ์ แล้วเริ่มขยับโยกไปในจังหวะของทั้งคู่ที่สอดคล้องกัน เสมือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องอะไรแบบนี้ แต่มันคือเรื่องราวในชีวิตประจำวัน “คุณรู้สึกดีไหมคะ”

“เร็วกว่านี้อีกหน่อย” เขาตอบเสียงกระเส่า