รักคนอ่าน : ปฏิวัติ ‘สะสม’ / ทราย เจริญปุระ

ปฏิวัติ ‘สะสม’

“คู่มือปลุกปั่นเพื่อสร้างสรรค์ : กล่องเครื่องมือเพื่อการปฏิวัติ” (Beautiful Trouble : A Toolbox for Revolution) ฉบับพิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์สำนักนิสิตสามย่าน ภายใต้มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป แปลโดยเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และสรวิสิฐ โตท่าโรง

สร้างสรรค์และปฏิวัติล้วนเริ่มเกิดจากภายในใจคน

มันเริ่มจากการกระตุกเบาๆ หนึบๆ ในหัวพร้อมๆ กับหัวใจ การหรี่ตามองสงสัยถึงสิ่งที่เกิดขึ้น การตั้งคำถามเชิงสมมุติ, ว่าถ้าเพียงแต่ -สมมุติ- ถ้าเพียงแต่เรื่องราวจะหมุนไปอีกทาง ถ้าใครคนหนึ่งจะเดินช้าลงสักนิด ถ้าเพียงพระอาทิตย์จะหลบเงาลงสักหน่อย ถ้าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริงบนสถานการณ์นี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้

แต่บ่อยครั้งก็เกิดจากข้อจำกัดที่มีอยู่ในมือ

นั่นก็ไม่มี นี่ก็ไม่ได้ นู่นก็โดนห้าม โน่นก็มีคนทำไปแล้ว

เพราะมนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อยอมจำนน เราสอดส่ายสายตา มองหาความเป็นไปได้ที่หลงเหลือ วิธีการเพี้ยนๆ คำตอบแบบเอาสนุกในวงเหล้ายามเมามายสิ้นคิด ที่บางทีย้อนกลับก็ยังสรุปไม่ได้ ว่าที่คิดออกมานั้นคือเหล้าหรือเราเอง

ก็นั่นละ, ปฏิวัติ

“หนังสือเล่มนี้คือคู่มือสำหรับพวกตัวปัญหาในสายตาเผด็จการ เป็นคู่มือก่อการปฏิวัติต่อความไม่เป็นธรรมทั้งหลายในสังคม ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเชื้อชาติ สีผิว ความเท่าเทียมทางเพศ ความเหลื่อมล้ำ อำนาจนิยมในระบบการศึกษา ฯลฯ…*”

ในรอบสัปดาห์นี้ เกิดเหตุยิบย่อยปั่นป่วนกวนใจเจ้าหน้าที่รัฐหลายอย่าง

ภายใต้ความขึงขังที่ฉาบหน้าอยู่ ถ้าคุณลองมองใกล้เข้าไป เพ่งให้ลึกขึ้น คุณจะเห็นความกระสับกระส่าย

อาหารหมาเป็นกระสอบถูกโปรยหว่านหน้าสำนักงานตำรวจ ป้ายผ้าที่ยึดมาถูกใช้แทนผ้าบังสุกุลศพส่งวิญญาณเจ้าหน้าที่ แพะเป็นๆ ถูกจูงไปรับข้อหาที่ตั้งขึ้นมาสาดแบบมั่วซั่ว

หลายคนปรามาสว่านี่เป็นเรื่องเล็กน้อยชวนหัว ของเล่นเด็กๆ ที่ทำแบบสิ้นคิด ไม่มีวันส่งผลอะไรได้
แต่ฉันว่าการที่เขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ประมวลผลมันเข้าสมอง และชั่งน้ำหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะอยู่ฝั่งไหนของเรื่องราว

ทันทีที่คุณคิดว่ามันไม่มีผล ไม่มีน้ำหนัก นั่นหมายความว่าอีกฝั่งของสมอง คุณวางหัวข้อมีน้ำหนัก มีผลกระทบเอาไว้

และฉันเชื่อว่า ถ้ามากพอ บ่อยพอ สม่ำเสมอพอ หัวข้อไม่มีน้ำหนักจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนไหลล้นมาฝั่งมีน้ำหนัก

มันคือการสะสม

ทั้งคำถาม ความสงสัย ความขัดข้องคับใจ

และหากยังไม่ได้รับคำตอบที่ดีพอ เป็นเหตุเป็นผลพอ

แรงสะสมนั้นจะมากขึ้น ไม่มีวันลดลง

ฉันเขียนบทความสั้นๆ นี้ที่วังสะพุง จังหวัดเลย แดดเริ่มออกลดความหนาว น้ำค้างระเหยไปทีละน้อย
หลายปีที่ชาวชุมชนสู้กับเหมืองทองคำ นั่งรอเงียบเชียบห่างไกลความสนใจ มีแค่ใจไว้ต่อสู้ ความเปลี่ยนแปลงมาถึงเนิบช้า แต่ไม่มีอะไรช้าเกินไป สิ่งที่ชุมชนนี้ทำจะส่งแรงต่อไปยังหมู่บ้านใกล้ๆ ชุมชนถัดไป ความอดทนจะเป็นเชื้อไฟเติมใจให้ผู้คนที่กำลังต่อสู้ ว่ามันทำได้จริง เห็นผลจริง ขอเพียงคุณรู้ว่าคุณทำอะไรเพื่ออะไร คำตอบรออยู่ข้างหน้า ความรู้ในความจริงข้อนี้จะทำให้คุณมีกำลังจะรอ

ก็นั่นแหละ, มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อยินยอม

และถ้าคุณอยากจะลองทำอะไรสักอย่าง อยากสำรวจว่าหนทางไหนที่จะสะท้อนความไม่พอใจของคุณ
หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ

“ขอให้ ‘นักสร้างปัญหาที่งดงาม’ ทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และต่อสู้เพื่อสังคมที่เราใฝ่ฝันร่วมกัน

Long Live Revolution!”*