เรื่องสั้น | เต็นท์ผ้าใบและอื่นๆ (1)

วันใดเห็นแสงสว่าง ไม่เข้าก็ออก ไม่เราก็เขา

ในห้องมืดทึบนี้ ฉันคงสูงอายุกว่าใครเขา อยู่มาตั้งแต่ห้องว่างโล่ง สะอาด กลิ่นสีและความสดใสยังแจ่มชัดในทรงจำ วันนั้นเป็นวันที่น่ายินดีที่สุด ความทรงจำเก่าๆ มักสดใสกว่าปัจจุบันเสมอ อย่างว่า ทุกอย่างย้อนกลับไม่ได้ มีแต่เรื่องเก่าเท่านั้นปลอบประโลมตัวเอง มีใครไม่อยากฟังเรื่องจากฉันไหม

ไม่มี…!

ถ้าจะฟัง ขอให้เงียบนะ ปล่อยให้กระแสของฉันล่องลอยไปสู่ทุกอย่าง ทั้งของที่มาใหม่ และอยู่เก่านานแล้ว ถ้าไม่อยากรับรู้ก็ปิดมโนทวาร ดีมากทุกอย่าง ขอบใจมากที่ให้เกียรติสูงวัยเช่นฉัน

…มีหลายเสียงที่เห็นแย้ง แต่ยอมตาม คุยกันว่ายังไม่ยอมรับผู้ใหญ่บ้านคนนี้ หัวเท่านิ้วโป้งมือจะเก่งขนาดไหนเชียว ถ้าคะแนนไม่ท่วมท้นจริงๆ เขาคงโดนค่อนขอดไปทั้งสมัยดำรงตำแหน่ง

วันแรกเขาให้ผู้ใหญ่คนเก่านำเงินที่อยู่ในความรับผิดชอบออกมาชี้แจงทั้งหมด

เท่านั้นเอง…จริงๆ

ไฟก็เริ่มไหม้หัวคณะบริหารชุดเก่า

คำชี้แจงของผู้ปกครองใหม่ว่า ไม่ได้จับผิดใคร อยากทราบขอบเขตของความรับผิดชอบก็เท่านั้น เงินคงเหลือเท่าไร จะนำไปสร้างประโยชน์อะไรได้บ้าง ถ้ารู้ที่มาชัดเจน ทุกอย่างก็จะมีที่ไปชัดแจ้ง ดีไม่ดีอาจสร้างดอกผลเบ่งบานได้อีกมหาศาล

เขาไม่ฟังคำเตือนจากคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน เหตุผลที่เขาให้แก่ทุกคนคือโลกหมุนไปข้างหน้าทุกวัน ใช่…ไม่มีอะไรใหม่ อย่าลืมว่าไม่มีอะไรเหมือนเดิมตลอดไป การเปลี่ยนแปลงไง คำเตือนต้องสมเหตุสมผล ไม่ใช่แค่ลมปากของผู้สูงอายุเท่านั้น เขาบ่งชี้ว่านั่นอาจเป็นปัญหาตามมาทีหลัง ถ้าเชื่ออย่างไม่พินิจให้ถ้วนด้าน

ทุกอย่างลงตัว ทั้งผู้ชี้แจงและผู้รับช่วงงานต่อ คนเก่าเคลียร์ตัวเองได้ และได้ตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของผู้ใหญ่บ้านวัยหนุ่ม

ตอนสภาพดี ฉันให้ความร่มเย็นกับผู้คนมากมาย ทุกคนยกยอฉัน พรรณนาคุณงามความดีอยู่สองสามคืนก็ไม่หมด ตัวใหญ่ มั่นคง แข็งแรง โดนลมฝนอย่างหนักก็ไม่ล้มทรุด

ก่อนซื้อฉันมา หลายปากค่อนแคะว่ามันจะดีเหรอ เสียงเอะอะมะเทิ่งตะลึงตึงโป๊ะ สรุปเสียงส่วนใหญ่ยกมือให้ผ่าน บ้านอื่นเมืองอื่นเขามีกันหมดแล้ว ถ้าไม่เชื่อ ไปดูงานก่อนก็ได้ สำรวจราคาก่อนก็ดี จะได้ของดีมีคุณภาพ มีคุณค่าและคุ้มค่า ใช่ว่าสักแต่ลมปาก เสียดายหลายเงินทีหลัง เห็นด้วยหลายคน เพราะเมื่อจัดงานจัดสถานที่ต้องได้ใช้แน่นอน งานแรกเลยคือการฉลองตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ ใช่ๆ หงกหัวทั้งหงอกทั้งดำ

ฉันมากับเพื่อนอีกสี่หลัง แต่ละหลังประกอบด้วยโครงสร้างโครงเหล็กที่ถอดออกเป็นชิ้นส่วนได้ มีขา มีคานและหน้าจั่ว ผ้าใบคลุมเป็นหลังคา ชายผ้าใบมีเชือกมัดยึดติดกับโครงเหล็กทุกด้าน ตั้งเสร็จแล้วมีขนาดห้าคูณหกเมตร ตัวใหญ่ใช้ได้เลย และก็โต๊ะห้าสิบตัว เก้าอี้สามร้อยตัว พร้อมผ้าคลุมโต๊ะ-เก้าอี้ครบชุด

ชาวบ้านมาดูของ เสียงดังขรม เอาเงินจากไหนมากมายไปซื้อ ทำไมไม่เอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นบ้าง หลายหลังคาเรือนเดือดร้อนไม่เห็นหรือไง

ผู้ใหญ่ชี้แจง เอาเงินมาจากนั่นจากนี่ ดอกเบี้ยจากเงินตัวนั้นตัวนี้ เงินคงเหลือเท่านั้นเท่านี้ แจงสี่แจงห้ามาหมดทั้งเพทั้งระยอง

ชาวบ้านรู้ อ๋อ…! อย่างนี้นี่เอง บ้านเรามีเงินเข้ามากมายขนาดนี้เลยเหรอ ไม่มีใครยักกะรู้ ไม่มีใครเคยบอกแจงเบี้ยแจงหอยให้รู้เลย ดีมากเลยผู้ใหญ่

เกิดคำถามอีกเยอะแยะมากคำ แล้วเงินหมดหรือยัง อยากกู้ไปทำนาทำไร่บ้าง ใช้หนี้บ้าง ซื้อของใช้ไม้สอยบ้าง ซื้อที่อยู่ซื้อของกินบ้าง มีอีกไหมผู้ใหญ่ ถ้ามี ปล่อยกู้บ้างสิ

คำตอบคือขอเคลียร์หลายสิ่งหลายอย่างก่อน รวมทั้งของที่นำมาใหม่นี้ด้วย ได้ความคืบหน้าอย่างไรจะประกาศบอกทางหอกระจายข่าว

ทุกคนผงกหัว แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน

ตอนนั้นฉันเนื้อหอมมาก ใครๆ ก็อยากเอาไปใช้งาน เพื่อนกันก็ต่างหน้าชื่นตาบาน อย่างว่า ขี้ใหม่หมาหอม มีงานบ้านไหนต้องมีฉันกับเพื่อน ฝนตกแดดออกไม่เคยหวั่นไม่เคยหยัน ขอให้บอกขออนุญาตผู้ใหญ่ เอารถมารับ-ส่งถึงที่เลย ขนขึ้นขนลง ยกต่อชิ้นส่วน ตั้งตระหง่านร่มครึ้ม มีแต่คนก้มหัวให้ ก้มแล้วมุดหัวเข้าไป ได้มุงบังบ้านน้อยบ้านใหญ่ใกล้ไกลไปหมด

ผลงานชิ้นแรกก็เป็นชิ้นโบแดงแล้ว ทำให้ผู้ใหญ่เริ่มมีเครดิต สายตาของผู้เฒ่าผู้แก่เริ่มเปลี่ยนเป็นพอใจทีละนิด แต่ใช่ว่าไม่มีคลื่นใต้น้ำ ใช่ว่าไม่มีถ่านไฟดวงน้อยๆ ในขี้เถ้าที่หมกอยู่ในใจของใครหลายคน คำพูดจากหลายปากได้ยินซุบซิบเมื่อพวกเขามาเอาฉันไปจัดงาน

เมื่อเต็นท์ผ้าใบเปิดหัวเรื่องเล่าให้แล้ว ฉันก็อยากระบาย นอนเป็นเก้าอี้ขาหักอยู่ใกล้ประตูทางออกมานานแล้ว ฉันเบื่อ

ฉันไม่คิดว่าเหล้าจะทำให้คนเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น ฤทธิ์เดชทำให้คนทำเรื่องบ้าๆ ได้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่รู้ว่าอีตาคนนั้นเป็นขี้เหล้าหรือเปล่านะ คืนก่อนงานแต่งงานนั้น รวมญาติเพื่อนฝูง จัดเตรียมหากับข้าว วัตถุดิบไว้ทำอาหารต้อนรับแขกเหรื่อ ตั้งเต็นท์ จัดโต๊ะ-เก้าอี้เรียบร้อยแล้ว งานทุกอย่างพร้อมเสร็จ ต่อไปเป็นเวลาสันทนาการ

เจ้าภาพหาของกินมาเสิร์ฟให้คนช่วยจัดงานสถานที่ เหล้ายาปลาปิ้งหมูเห็ดเป็ดไก่ บางคนก็ร้องเล่นพอเป็นพิธี แต่บางคนไม่อย่างนั้น ใส่เต็มข้อล่อเต็มขั้น จัดอยู่จัดกินให้ตัวเองเต็มภิกขา

ถ้าเขาเยี่ยวรดฉันจะไม่ว่าอะไรเลย พี่ท่านครึ้มใจเต็มที่ อยากโชว์สเต็ปความเป็นชาวร็อก ประมาณว่าพี่เป็นร็อกเกอร์นะน้อง เขากำลังร้องเพลงอยู่ เพลงนี้คงเข้าหัวจิตหัวใจทั้งดวง กำไมค์กระโดดขึ้นเหยียบฉัน ชูมือ โยกเอวส่ายไหว แหกปากก้องลำโพง ผู้ใหญ่ผู้ช่วยไม่มีใครว่าอะไร สงสัยแอลกอฮอล์คงแล่นซ่านทุกเส้นเลือดทุกคนแล้ว

คนรอบข้างมีอารมณ์ร่วม นักร้องยิ่งได้ใจ ไม่ร้องเปล่า ไม่โยกตัวเปล่าๆ พี่แกกระโดดเหย็งๆ บนตัวฉัน จังหวะดนตรีที่กระแทกกระทั้นหนักๆ ถี่ๆ เท้าย่ำหนัก ขาฉันจะรองรับน้ำหนักไหวได้ไง หักดังโป๊ะใหญ่ พี่เขาคะมำหัวทิ่มดินไม่มีหลักยึด เรียกได้ว่าลงทั้งตัว ได้ยินแค่เสียง “อึก” อยู่ในอกเขาเบาๆ

แตกตื่น ดนตรีบรรเลงต่อไปโดยไร้เนื้อเพลง ทุกคนเข้ามาจับกลุ่มรุมจับเขา ถาม ไร้คำตอบ จับตัวเขย่า หน้าย่นหน้าหด ยังไร้เสียงตอบโต้จากเขา ทุกคนเห็นเพียงดวงตาเริ่มคลอชุ่มไปด้วยน้ำ

จุกอกดอกใหญ่

แก้ไขเขาอยู่นาน กว่าจะคืนสภาพเดิม

วงสันทนาการก็ไม่หยุดทำการแสดง ไมค์เปลี่ยนมือไปเรื่อย

เขาเตะฉันป้าบใหญ่ จับโยนใส่พุ่มไม้ “ไอ้เก้าอี้บ้า กระจอก”

ฉันอยากจะเสียใจอยู่นะ แต่ขอสมน้ำหน้าดีกว่า “ไอ้ขี้เมา ไอ้ขี้หมา ฮ่าฮ่าฮ่า”

ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็เก็บซากฉันมากองสุมไว้ที่นี่ ไม่ได้ออกข้างนอกอีกเลย

ให้ผ้าคลุมโต๊ะสกปรกๆ ระบายบ้างนะ ฉันเคยเป็นผ้าคลุมโต๊ะที่ถูกจัดไว้ต้อนรับแขกผู้หลักผู้ใหญ่ ถูกลดชั้นลงเรื่อยๆ เป็นผ้าเช็ดโต๊ะ เช็ดเท้า ไม่รู้ชาวบ้านคนใดหยิบมาเช็ดเก้าอี้ก่อนขนไปงาน แล้วโยนฉันทิ้งไว้ในห้องนี้

ตอนสะอาด แห้ง หอม ใครก็อยากมาใช้โต๊ะที่ฉันคลุม ใช้งานเรื่อยมา ไปทุกที่ คลุมโต๊ะเครื่องเสียง โต๊ะกินข้าว หรือกระทั่งโต๊ะประชุม อดีตที่สวยงามของฉัน

เมื่อสิ้นเสียงประกาศของผู้ใหญ่ ชาวบ้านหลายคนเริ่มบ่นให้ฉันได้ยิน

ไหนว่ามีเงินเหลือเงินหลาย ทำไมไม่เอามาช่วยเหลือพวกเรา

ทำไมไม่ลดดอกบ้าง

ผู้ใหญ่หาทางช่วยหน่อยไม่ได้หรือไง บางคนก็หาเช้ากินค่ำ

ไหนว่ามาช่วยพัฒนาหมู่บ้าน เรื่องแค่นี้ทำไม่ได้หรือไง

ทำให้ชาวบ้านมีอยู่มีกินก่อน

พักชำระหนี้ไม่ได้หรือไง…

ส่วนใหญ่นำหนี้มาส่งพร้อมต้นพร้อมดอก คนที่ยังไม่นำมาให้ ผู้ใหญ่ก็หาวิธีการช่วยอย่างเต็มที่ นัดหมายมาคุย รับฟังว่าใครติดขัดตรงไหนบ้าง

ทุกคนพอใจวิธีการของผู้ใหญ่ มีแค่สองสามรายที่หาเงินมาคืนยากจริงๆ ยังไงเสีย ผู้ใหญ่ก็ต้องส่งเงินเข้าระบบให้ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใดก็ตาม

สุดท้ายทุกคนก็ยิ้มออก

“ถ้าทุกคนจ่ายต้นจ่ายดอกครบ หมู่บ้านเราจะมีเงินบริหารเพิ่มอีก เชื่อไหมครับ ผมยังไม่พอใจที่พี่น้องเรามีความเป็นอยู่อย่างนี้ จะทำทุกวิถีทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้พวกเราให้ได้ ไม่ยอมให้ดอกที่ทุกท่านจ่ายมาสูญเปล่าแม้แต่สตางค์เดียว บ้านเรายังพัฒนาได้ยิ่งกว่านี้อีกเยอะ อะไรล่ะ ที่พวกเรายังขาดอยู่ ตอนนี้มีเต็นท์มีโต๊ะเก้าอี้ พี่น้องลองคิดดูสิครับ ถ้าพวกเรามีรถไถ รถเกี่ยวข้าว หรือโรงสี อะไรก็ตามที่มันช่วยทำให้เราสะดวก จะเจริญขนาดไหน นี่…! เป็นแค่อย่างแรกเท่านั้นที่ผมจะทำ หมู่บ้านเราต้องมีสิ่งของอุปกรณ์หรือสถานที่สำหรับรองรับพวกเราทุกคนมากกว่านี้ ทุกท่านก็ถือว่าได้ร่วมกันพัฒนาหมู่บ้านเราให้เจริญ แค่พวกเราปฏิบัติตามหน้าที่ของตัวเองให้ดี ต่อไปผมก็จะรวมกลุ่มกัน เพื่อสร้างรายได้ให้ทุกคน ดีไหมครับ ขอบคุณครับ หมดธุระแล้ว กลับบ้านได้ครับ”

คำพูดที่ออกจากปากที่มีรอยยิ้ม พร้อมทั้งเหตุผลที่น่าเชื่อถือทำให้ลูกหนี้ของหมู่บ้านไม่อยากทำให้คนอื่นผิดหวังในตนเอง คิดว่าสิ่งที่ทุกคนในหมู่บ้านได้คือสิ่งที่ตนจะได้เช่นกัน