เรื่องสั้น | ใครจะรู้?

ไม่กี่วันหลังปีใหม่ ราวกับเชื้อเรื้อรังแห่งความสุขและคุกคาม สามสหายโบว์ เจน นุ่น ที่มาพบกัน รวมทั้งสามีของนาง ทั้งสี่ไปร้านอาหารสีน้ำเงิน ตรงแยกซอยหนึ่ง และวนตรงลูปนั้น พอใครคนหนึ่งคร่ำครวญเรื่องสุขภาพของตนเท่านั้น พลันหัวข้อความป่วยก็ปั่นป่วนเสียยิ่งกว่านุ่นที่ป่วยจริง

แต่พออาหารจานแรกมาเสิร์ฟเท่านั้น ทันทีสมองข้างหนึ่งซึ่งยังบันเทิงก็เริ่มทำงาน!

เมื่อแยกย้ายร่ำลา เจนกับโบว์ยังอยากเตร็ดเตร่ ตามสัญชาตญาณเก่า พวกหล่อนมุดเข้าโรงหนัง แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เป็นแรมปีแล้วมั้ย? ที่ใครคนหนึ่งเหินห่างจากชีวิตประจำวันและการดูหนังแบบนั้น

“อะไรก็ได้…” โบว์ประกาศ

พอได้ยินแบบนั้น มันน่าจะหลอนไปอีก

“ฮึ ช่างหยาบคายอะไรแบบนั้น?” จุดอ่อนของโบว์คือคำว่าป้า แต่บางทีหล่อนก็แค่อยากจะเสียดสีตัวเองมั้ง?

“บ้าเหรอ?” โบว์สั่นเทา “ฉันจะไปเป็นพี่สาวแม่ๆ ไอ้เด็กพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ทันทีเหตุการณ์บ่ายวันหนึ่งบนรถไฟฟ้าเมื่อปีกลายก่อน ก็ถูกนำกลับมาเล่าซ้ำ! ราวกับความหมายเชิงคุกคามนั้นได้เกิดขึ้นกับหล่อนตลอดเวลา

“ป้า!” เจนยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก หล่อนนึกปลื้มปริ่มนิดๆ ว่ายังไม่โดนใครเรียกด้วยคำนี้ รอดตัวไปอีกปี! สำหรับความรู้สึกชราที่เหลือทนนั่น!

แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นหรอก ไม่กี่ปีจากนั้น คำว่าป้า! ป้า! และป้า! ก็แพร่กระจายไม่ต่างจากโรค โดยเฉพาะในโลกเสมือนจริง ที่คำว่า มนุษย์ป้า! ดูจะกลาดเกลื่อนและคุกคามยังไงพิกล! จากคนหนึ่งไปสู่คนหนึ่ง จากนั้น ก็ระบาดไปทุกหัวระแหง และคำว่ามนุษย์ป้า! ก็อยู่ในโลกนี้เรื่อยมาแต่นั้น!

ในที่สุด การเดินทางของเพนกวินขั้วโลกใต้ก็เป็นหนังที่พวกหล่อนพากันไปดู ไม่ต่างจากการแวะเวียนไปเยี่ยมชมเผ่าพันธุ์วงศ์วาน บางทีการดูหนังมันก็เป็นเหมือนภารกิจชาวรักษ์โลก ไม่ใช่การเสพความสนุกแบบเมื่อตอนที่พวกหล่อนยังรุ่น แม้จะไม่อาจพิสูจน์ว่า สมองข้างหนึ่งของเจนนุ่นยังมีความบันเทิงคุกรุ่นอยู่เสมอ

ระหว่างรอรอบหนัง สองสตรีจึงชวนกันฆ่าเวลาด้วยกาแฟในห้าง! ห่ะ! อะไรนะ? อย่างงั้นล่ะที่หลุมดำในสมองจะสำแดง มันถึงเวลาจะคิดถึงเขื่อนขนาดใหญ่ที่ไหนสักแห่ง? ในลาวตอนใต้? หรือในไทยก็แล้วแต่ แต่มันจะก็วนไปลูปนั้นสำหรับพวกรักษ์โลกอีกแล้ว!

เจนว่า “หนหนึ่ง ฉันมีนัดเจอกับเนต หมอมาประชุมที่เชียงใหม่แล้วจะมาเปลี่ยนเครื่องที่สุวรรณภูมิ แล้วก็ส่งอีเมลบอกว่า อยากเจอเรา เอาตรงแถวๆ ที่เราทำงาน ทีนี้นะ คนที่ฉิบหายก็คือเรา ไงล่ะ ที่นัดหมายของมันฟังดูง่ายฉิบ! ไม่ห้าง! ไม่แม็ค! ไม่เบอร์เกอร์! ไม่ 7-11! แล้วก็ไม่ตาบั๊ก! ไม่อะไรอีกล่ะ!”

“ฮา ฮา ฮา หนีเขื่อนว่างั้น?”

“ไอ้บ้า! กว่าจะเจอกับมันได้ เหมือนจะแถวๆ ศาลพระภูมินี่ล่ะ!”

มันจะหนีห้างอะไรกันนักหนา? หล่อนบ่น แต่มันก็คงเหมือนกับเทรนด์ป้า! ที่ตามมาหลอกหลอนพวกหล่อนนั่น!

อย่างสม่ำเสมอ เฉกลูปชีวิตประจำ เจนมักจะเป็นคนสุดท้ายที่จะเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็หล่อนมักอยู่บนสันเขื่อนหรือห้างสรรพสินค้าที่ไหนสักแห่ง? แถวย่านนั้น ก่อนเลี้ยวถนนสู่ห้างเก่าแก่อีกแห่ง ต้นคริสต์มาสที่ยังไม่ถูกรื้อทิ้งและไฟกะพริบที่ปิดทำงานแล้ว

น่าแปลกที่การเฉลิมฉลองไม่กี่วันก่อนช่างจบลงและเหลือไว้แต่ความชืดชา เพียงไม่กี่ราตรีที่ปีเก่าผ่านไป

นับวันทางเดินบนฟ้า-สกายวอล์กก็ยิ่งทอดยาวออกไป การพบกันของโบว์และเจนกับอุณหภูมิบนถนนเส้นนั้นที่ดูจะเปลี่ยนไป

สิบปีแล้วที่การกวาดล้างและความตายของผู้คนในวัดใจกลางเมืองยังคงเหมือนกับหลุมดำ หล่อนเองก็ไต่อยู่ปากหลุมนั่น ตรงสันเขื่อนใกล้กับหลุมดำย่านที่หล่อนอาศัยและบังเอิญมีคนกลุ่มหนึ่งถูกสังหารจากชายในชุดพรางและอาวุธส่องไกล ตรงมุมสูงของรางรถไฟ บนถนนเส้นนี้ที่เต็มไปด้วยคำถาม แต่ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนไป เว้นแต่เจนกับโบว์ที่เลิกมุดเข้าโรงหนังแบบสแตนด์อะโลนนั่น! หล่อนมักพบปะกันสั้นๆ แบบหนึ่งถ้วยกาแฟแถวสกายวอล์ก!

“ทำมาจากผ้ามัสลิน มีกลิ่นย้อมฝาดที่จะไม่หายไปจากโลกนี้ เว้นเสียแต่ว่า เราจะตายไปก่อน” นิยามหน้ากากอนามัยผืนใหม่ของหล่อน

“มันคืองานศิลปะ!” โบว์ประกาศ

พลันใบหน้าของหล่อนก็กลายเป็นแกลเลอรีเคลื่อนที่และศิลปะทำมือของหล่อนนั่น มันยังเป็นกระบวนชีวิตของชาวรักษ์โลกที่น่าโอบอุ้มโลกนี้ไว้อีกขั้น และการยกระดับของชีวิต! จิตวิญญาณแห่งการดำรงชีพ! นี่แหละความงดงามของปัจเจกและชุมชน ตั้งแต่ยุคหนังสือทำมือ! หน้ากากอนามัย! ผ้าขี้ริ้ว! สากกะเบือ! หรือแม้แต่สวนเกษตร! มันคือวิถีของพวกรักษ์โลก สันติภาพ และอะไรอีกนะ?

โบว์ให้สัญญาณ หล่อนแชะรูปลายผ้านั่น วางมันในเฟซบุ๊ก พร้อมกับแคปชั่น “โน พลาสติก! โน หลอดดูด! โน โลกร้อน!”

วินาทีนั้น เจนรู้สึกเหมือนตายซากคาเก้าอี้ที่หล่อนนั่ง เหมือนถูกกวาดลงขยะถัง ณ ที่ไหนแห่งหนึ่ง เป็นความจริง หล่อนกลายเป็นนังปลวกแก่ๆ ที่ติดกับซากเก่าๆ

อา โลกเสมือนจริงที่แปลกปลอมนั่น ดูจะไม่มีใครรู้จักหล่อนด้วยซ้ำ น่าประหลาด ทั้งๆ ที่ยังมีลมหายใจ แต่เหมือนไม่มีตัวตน?

แล้วดูโบว์ตอนนี้สิ! หล่อนถูกจดจำด้วยผู้คนใหม่ๆ พวกเขามีตัวตนและรวมกันอยู่ในโลกเสมือนจริง! จู่ๆ โบว์ก็กลายเป็นคนที่มีมูลค่า หล่อนมีสินค้าของตัวเองที่ทำให้หล่อนยิ่งดูมีมูลค่า! และอื่นๆ ที่มากับผู้คนที่ติดตามหล่อนไป โดยที่เหมือนกับว่าไม่มีใครติดตามใคร! ในทางอ้อมและทางตรง! นี่มันคือโลกอะไร?

มันก็เหมือนชีวิตประจำวันเรานั่นแหละ “ง่ายจะตาย” โบว์บอกอย่างมั่นใจ

“พอถึงจุดหนึ่งนะ เธอก็จะรู้เองว่าโลกเสมือนจริงมันไม่มีอะไร?”

ก็ดูหล่อนเป็นตัวอย่าง ก่อนหน้านี้โบว์ยังขยาดคำว่าป้า! อยู่เลย แต่ตอนนี้ มันกลับกลายเป็นโลโก้หนึ่งของหล่อนไปแล้ว โบว์ป้า! ผู้พาเพลิน! โบว์ป้า! คนรักษ์โลก! โบว์ป้า! เรียกยอดไลก์ และอะไรอีกล่ะ?

แต่…มันไม่ง่ายหรอกนะ โลกแบบนั้นสำหรับใครบางคน-เจนนึกคราง

ก่อนหน้านี้ หล่อนเคยมโนจิตไปว่ามีเลือดเนื้อวิญญาณแบบสัจนิยม ถึงจะไม่ใช่แบบจอร์จ ออร์เวล ทอโร มูรติอะไรนั่น แล้วดูตอนนี้สิ หล่อน หล่อนก็ได้แต่วนเวียนอยู่กับฝันเดิมๆ ขณะที่คนอื่นๆ กระโดดขึ้นรถไฟขบวนสายโลกเสมือนจริงไปจนเกือบหมดแล้ว หล่อนก็แค่หลุมดำใบหนึ่ง ตกกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงนั่น แล้วตอนนี้หล่อนก็กำลังกลายเป็นนังดราม่าตัวแม่! ที่คร่ำครวญอยู่กับคำว่า ฉันทำอะไรผิดไป?

โบว์กำลังเฟซไทม์กับนุ่นซึ่งอยู่ห่างไปห้าร้อยกิโลเมตร บางทีพวกหล่อนก็สนุกกันเหมือนอยู่กับโลกนิมิต อา งั้นสิที่เรียกว่าโลกเสมือนจริง! หล่อนยังเรียลไทม์กับเจนด้วย แต่ไม่นาน เจนก็วนมาลูปเดิม

อย่างสม่ำเสมอ สบายใจ หล่อนมักได้ยินคำนี้จากใครต่อใคร ในปาร์ตี้ก๊วนใหญ่ครั้งหลังสุด พวกเราเหมือนกลับไปสู่อดีต แต่เจนกลับไม่อบอุ่น หล่อนรู้สึกเหมือนกับว่า หลุมดำนั้นมีอยู่จริง! มันนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ตัวตนของหล่อนยังมีอยู่ในห้องแห่งปฏิสัมพันธ์ ผู้คนและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ นั่น ช่างน่าทึ่ง! แต่บางที ใครจะรู้? ปฏิกิริยาเร้าใจใหม่ๆ นั่น บางทีก็ทำให้เราอ่อนล้าและว่างโหวงกว่าที่คิด

“ฮูโนว? ใครจะรู้?” ประโยคสุดฮิตที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มของยาน คนที่… หุ หุ หล่อนรับรู้มาบ้างว่า หมอกลายเป็นกูรูสายเกรียนยูทูบเปอร์

“มีโฆษณาแพลมบ้างแล้วนะ” โบว์กระซิบหางเสียงสูง คนหนึ่งฮูโนว? คนหนึ่งก็ป้า! กูจะบ้ามั้ยนี่? เจนถามกับตัวเอง ดูเถอะ แม้แต่โลกเสมือนจริง! มันก็ยังแข่งกันอยู่ดี!

“ก็ใครจะรู้?” ยานกูรูบอกย้ำ “มันเป็นไปได้หมดทุกอย่างแหละ”

โลกเสมือนจริงก็เป็นแบบนี้ พอหล่อนกะพริบตา ยานก็ทิ้งทุ่นมาทันที

“ใช่!” แต่มันจะไม่กลับไปเหมือนเดิมอีก! หล่อนประกาศกร้าว! ราวกับวันสิ้นโลก! อา หรือแค่วันโฉดเขลาเก่าๆ ของหล่อนกับยาน?

แต่ได้ผ่านไปแล้ว นาน…ขนาดในโลกแท้ทรูยังพ่ายแพ้มัน หล่อนรำลึก! ประสาอะไรกับโลกเสมือนจริง เสียงหล่อนมั่น! ฉันจะไม่สังฆกรรมกับมันอีก!

“ฮูโนว? เจนเองเหรอ? ขอกอดที! คิดถึงมาก!”

– บรรลัย! ทำไมกู? โลกที่หมุนไม่เคยเปลี่ยน! เพิ่มเติม กูสิควาย! ปล่อยอดีตที่สุดเรียล! ดูสิ มันช่างกล้า! ยังกับว่า-มันหน้าเดิม! ไม่มีอะไรเพิ่ม! ราวกับโลกไม่เคยจำ! ลืมไปแล้ว ลืมให้หมด! แต่กูเจ็บและยังจำ! ขอโทษกูสักคำ! ในวันเก่าที่มันโกง!

– ของานกูอีกเหรอ? เหอ เหอ มึงนี่ใคร? ในวันที่สบาย ลืมสิ้นใครสร้างมึงเกรียน! กูเหรอ? ก็เคราะห์แคระ และสุดจะเจ็บเดียวดาย! วันที่โลกร้าย มึงไงที่สบายแต่ลำพัง!

– ลืมสิ้นว่าใครสร้าง? ซับพอร์ตงานให้มึงฝัน! หลอกโลกว่ามึงสรร! ยังไม่ด้าน! เท่าหลอกกู! เป็นไง โลกใหม่กวาด ศิโรราบเหมือนโดนทิ้ง! พอเจอเสมือนจริง! กรรมมึงทิ้งกู ตามไง? สิ้นงานก็สิ้นโลก! แหมมาโศกพ่ายแพ้ใคร?

“พอทีเรื่อยเปื่อยด่า หาท่อนฮุก! ให้กูที!”

โลกจำมึงได้แน่! แค่โพสต์เดียวเพื่อการแชร์! แคปชั่นที่พ่ายแพ้! แค่เพียงว่าโลกขานรับ! เรียลมั่ง! ไม่เรียลมั่ง! โถ ไอ้ยาน ไอ้ควายโทน! มึงเอาง่ายแค่แชร์โดน! ตึ้ง!

– เออ สิ! ก็แค่นั้น! แชร์ใส่พลัน! เสมือนจริง! ฮุก!

– ขานเป็นโลกแคปชั่น! เสมือนโลกเสมือนจริง! ฮุก!

– ฮูโนว? ไอ้ฉิบหาย! ซึมเศร้าตาย! กูแช่งมึง! ฮุก!

ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง!