เรื่องสั้น | น้ำหอม (1)

นํ้าหอมขวดแรกในชีวิตของผมและของผู้ชายอีกหลายคนคงหนีไม่พ้น Davidoff Cool Water กลิ่นหอมสะอาดสดชื่น กระจายตัวได้ดี เหมาะแก่วันพักผ่อน สบายๆ เหมือนสีฟ้าครามแห่งท้องทะเลที่บรรจุอยู่ในขวด เติบโตขึ้นมาหน่อยจนเข้าสู่วัยทำงาน ผมกลับมาให้ความสนใจกับน้ำหอมอีกครั้ง หลังจากผมได้ไปทดลองดม Dior Homme Sport กลิ่นหอมสดชื่นเหมือนเพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ ชื่อผลิตภัณฑ์ก็บอกอยู่แล้วว่าสำหรับสายสปอร์ตโดยแท้ หอมกลิ่นผลไม้และกลิ่นไม้หอมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมกับขวดแก้วทรงเหลี่ยมใสสวยหรูน่าสัมผัสต้องตาตั้งแต่แรกเห็น

ผมเริ่มติดใจน้ำหอมมากขึ้น นอกจากจะช่วยทำให้กลิ่นตัวหอมแล้ว ยังช่วยสร้างความสุข ความมั่นใจ และความประทับใจแรกสำหรับคนที่เข้ามาติดต่อพูดคุย กลิ่นของน้ำหอมที่ทรงพลัง ต้องติดทน กระจายตัวได้ดี ไม่ฉุนกลิ่นแอลกอฮอล์และชวนเวียนหัวจนเกินไป เพียงสองสามสเปรย์ก็ร่ายมนต์สะกดให้ติดตรึงได้เป็นอย่างดี ส่วนเทคนิคในการฉีดน้ำหอมของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล บางคนถนัดฉีดใส่เสื้อ บางคนชอบฉีดใส่ตัว บางคนฉีดใส่ผมก็ยังมี แต่สำหรับผมแล้ว ซอกคอ ข้อมือ ข้อพับ 3 จุดนี้ก็เพียงพอแล้ว

ของสะสมส่วนตัวสำหรับผม นอกจากเสื้อผ้าเรียบหรูใส่สบายแล้ว ยังต้องเป็นแบรนด์ของ MUJI หรือไม่ก็เป็นแบรนด์ UNIQLO และต้องเป็นผ้าฝ้ายแท้ 100% การเลือกซื้อเสื้อผ้าในแต่ละครั้ง ผมจึงไม่ต้องตัดสินใจนานเวลาเข้าห้างสรรพสินค้าและตรงไปยังร้านเป้าหมายได้ทันที เช่นเดียวกับน้ำหอม หากไม่ซื้อเคาน์เตอร์ในห้าง ผมมักจะช้อปตามร้านเครื่องสำอางจำพวก EVEANDBOY, SEPHORA ไม่ก็ DUTY FREE ในสนามบิน

หากมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศสุดสัปดาห์ทีไร ผมจึงชอบไปลองดมกลิ่นน้ำหอมอยู่เป็นประจำ

ไอ้แว่น เพื่อนสายหนอนของผม เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จบมาทำงานที่เดียวกัน มันยังคงเป็นนักอ่านตัวยง วนเวียนอยู่กับการลูบคลำ ดมกลิ่นหนังสือใหม่ คลั่งไคล้การซื้อหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อนแว่นเป็นคนธรรมดา เป็นเด็กเนิร์ดๆ ของทุกคน สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่งตัวง่ายๆ ราคาไม่ต้องแพงมาก เสื้อยืดตามตลาดนัด 3 ตัว 100 ยิ่งชอบ เพื่อนเป็นคนไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก ไปไหนไปกัน กินได้หมด แต่ทั้งหมดก็เป็นความชอบส่วนตัวที่สวนทางกันในความเป็นเพื่อนสนิทของเรา

เวลาไปเดินห้างด้วยกัน เรามักจะรู้นิสัยของกันและกันเป็นอย่างดี ผมชอบเข้าไปซื้อเสื้อร้านไหน น้ำหอมช็อปไหน ร้านอาหารร้านไหนที่ผมชอบเข้าไปกิน แว่นจึงมักเดินตามผมได้ตลอด รอผมได้เสมอ เช่นเดียวกับที่ผมก็จะรู้ว่าเพื่อนต้องไม่พลาดเข้าร้านหนังสือ KINOKUNIYA เพราะชอบการจัดวางชั้นหนังสือ การแบ่งหมวดหมู่ การห่อปกใสและหนังสือใหม่ลด 10% หนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยที่แว่นจะขลุกตัวอยู่ในนั้น อบร่ำจนเต็มคราบ เลือกหนังสือได้ตามที่ต้องการแล้วจึงนำไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์

ราคาหนังสือที่เพื่อนซื้อในแต่ละครั้งจะอยู่หลัก 1,000 ไม่เกิน 2,000 บาท ถ้าเทียบกับราคาเสื้อผ้าและน้ำหอมที่ผมเลือกซื้อในแต่ละครั้ง อย่างน้อยๆ จะอยู่ราว 5,000 บาทขึ้นไป เพื่อนไม่เคยมองสิ่งที่ผมซื้อ ความชอบของผมว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เพื่อนเคารพสิทธิของคนอื่น ไม่ก้าวล่วงเข้าไปในอาณาเขตแดนดินที่ตนไม่รู้จักดี และผมก็ไม่เคยถามเพื่อนสักครั้งว่าขนซื้อหนังสือไปทำไมทีละตั้งเยอะ อ่านจบแล้วก็ตั้งวางเก็บไว้เฉยๆ จะมีก็เพียงครั้งเดียว ที่ผมพูดขึ้นมาเหมือนนึกได้ว่า ข้างบนมี TK PARK ให้บริการ “นายน่าสมัครสมาชิก” แว่นส่ายหัวแล้วว่า “อุดหนุนคนทำหนังสือดีกว่า” หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเสนอความเห็นใดอีก

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นความสนใจของเพื่อน ซึ่งก็ไม่พ้นเรื่องหนังสืออีกอยู่ดี แต่เป็นเรื่องของสถานที่ แว่นมักชอบไปเดินซื้อหนังสือลด 50% แถวสะพานควายและเดินเลยเข้าไปหาหนังสือเก่าราคาย่อมเยาในสวนจตุจักร ขยันหน่อยก็นั่งรถเมล์ต่อเลยไปตลาดคลองถม เดินแดดร้อนเปรี้ยงๆ ช่วงบ่ายของวันเสาร์รื้อค้นตามแผงหนังสือเก่าราวกับจะขุดหาขุมทรัพย์อะไรสักอย่าง

ครั้งหนึ่งผมเคยใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว LACOSTE SPORT ไปเดินกับเพื่อนที่ใส่แตะลากหูหนีบ เพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงที่เดินตามอยู่ในจตุจักร ร้อนจนหลังเปียก แข้งขาเกิดอาการล้าไปหมด แต่เพื่อนยังเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร หน้าตามันยังตื่นเต้นเวลาเจอหนังสือวางเป็นตั้งตามร้านต่างๆ

ความเป็นคนง่ายๆ และธรรมดาของเพื่อนนี่เอง บ่อยครั้งผมเองก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ผมได้เข้ามาเห็นโลกของอีกคน โลกที่ผมไม่เคยเข้าไปสัมผัส และเห็นว่ามันเป็นเรื่องสนุก

ผมตื่นเต้นกับน้ำหอมกลิ่นพิเศษๆ อย่าง DOLCE & GABBANA The Only One พอๆ กับ VERSACE Eros Flame Eau De Parfum กลิ่นมีเสน่ห์น่าค้นหามากกว่า แม้ตอนนี้ Dior SAUVAGE ที่มีนักแสดงมาดเซอร์อย่างจอห์นนี่ เดปป์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ จะเป็นกลิ่นนิยมก็ตาม หรือ BLEU DE CHANEL จะเป็นน้ำหอมคลาสสิคที่ผู้หลงรักน้ำหอมจะต้องมีประดับห้องกันอย่างน้อยคนละขวดสองขวด แต่สำหรับคนใช้น้ำหอมจริงๆ แล้ว “กลิ่น” ก็ยังคงเป็นมนต์เสน่ห์ เป็นความชอบเฉพาะส่วนบุคคล ที่กระแสความนิยมจะนับเป็นเรื่องรองไปทันที

เพื่อนแว่นไม่เคยพูดถึงเรื่องกลิ่นน้ำหอมที่โชยฟุ้ง จะมีก็แต่เวลาที่ผมออกไปพบลูกค้าแล้วถูกถามว่าใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรหอมดี ไว้จะซื้อมาใช้บ้าง เพื่อนคนอื่นๆ ในสำนักงานแรกเจอกันใหม่ๆ ก็จะทักทำนองนี้หมด แต่แว่นไม่มี ไม่เลยสักครั้งที่จะทักถึงน้ำหอมที่ผมฉีดมาในแต่ละครั้ง หลายครั้งที่มันไปเดินซื้อน้ำหอมเป็นเพื่อน ผมฉีดใส่กระดาษเทสต์น้ำหอม (Scent Strip) แล้วลองให้มันดม คำตอบเดียวในทุกครั้งที่มันดมน้ำหอมในแต่ละยี่ห้อ เพื่อนตอบเพียงว่า “หอมดีๆ” แม้บางกลิ่นผมดมแล้วฉุนกลิ่นแอลกอฮอล์ หรือกลิ่น Top Note (กลิ่นของหัวน้ำหอมที่ระเหยออกมาตัวแรกสุด) ของเครื่องเทศแรงไป เลยเข้าใจได้ว่ามันคงไม่มีความสนใจเท่าผม หรืออีกอย่างมันคงจะตอบแบบขอไปทีมากกว่า

ผมเคยยกลูกรักของผม Dior Homme Sport ให้เพื่อนไปใช้ เนื่องจากที่ทยอยซื้อเก็บก็มีมากพอประมาณ อีกอย่างอยากให้เพื่อนได้รับความรู้สึกเฟรช หอมสดชื่นดูบ้าง แต่จมูกของผมก็ไม่เคยได้กลิ่นสัมผัสของ Dior Homme Sport จากเพื่อนที่หน้าตาสะโหลสะเหลเข้ามาทำงาน

ความที่ชอบอ่านหนังสือจนดึกดื่น ข้าวเช้าไม่ชอบกิน หน้าตาเหมือนคนอิดโรยและอ่อนแรง แต่แว่นก็ดูแข็งแรงดีเมื่อเทียบกับผมที่เดินระยะนานๆ ไม่ได้เท่า แว่นเป็นเด็กเรียนดี บ้าจดเล็กเชอร์ และเพื่อนๆ ก็มักมาขอถ่ายจากมันเสมอๆ ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้มันคอยช่วยเหลือในวันใกล้สอบแต่ละครั้ง พูดได้เต็มปากว่าไม่มีมัน ผมก็อาจเรียนไม่จบเหมือนกัน ผมไม่เคยรู้จักใครย่อยเก่งได้เหมือนมัน หนังสือสักเล่มที่แว่นอ่านจบ หน้าสเตตัสเฟซบุ๊กของมันก็จะเขียนรีวิวไม่เกิน 3 ย่อหน้าพร้อมรูปประกอบหนังสือเก็บไว้เป็นคอลเล็กชั่น ในปีหนึ่งๆ เพื่อนน่าจะอ่านหนังสือได้ถึงร้อยเล่ม

มันไม่เคยเล่าถึงหนังสือที่อ่านให้ผมฟังเลยสักครั้ง ผมจะรู้จักหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ได้ก็ต่อเมื่อมันเขียนลงแล้วเท่านั้น

คราวหนึ่งเราไปนั่งกิน SHABU SHI กันที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เราพูดคุยแลกเปลี่ยนงานประจำที่ทำอยู่ คิดเขียนคอนเทนต์ใหม่ๆ อัพเดตเทรนด์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องลงเว็บไซต์ มีบ้างที่ต้องออกไปหาสปอนเซอร์ จัดงานอีเวนต์ต่างๆ ตัดต่องานเพื่อประชาสัมพันธ์ลงยูทูบ ช่วยงานจิปาถะอื่นๆ ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ ไม่ค่อยเหนื่อยกาย แต่ชวนปวดหัวอยู่บ่อยๆ เวลาคิดงานไม่ออก แว่นว่าได้คิดสนุกดี คิดไม่ออกก็เดินไปกดกาแฟร้อนมาชงกิน ส่วนผมนี่ต้องพึ่ง BLACKMORES EXEC B”S กับ BIO C 1000 ก่อนมาทำงานทุกเช้า และที่ขาดไม่ได้คือกลิ่นของน้ำหอมที่ช่วยสร้างเช้าอันสดใสในแต่ละวัน

ระหว่างที่ผมสาธยาย เพื่อนแว่นคีบหมูสไลด์ที่สุกแล้วจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วคีบใส่ปาก บดเคี้ยวได้ที่แล้วกลืนลงคอ ก่อนจะพูดชักชวนผมให้ไปวิ่งออกกำลังกายด้วยกัน เพื่อนโยนคำถามง่ายๆ ว่าสนใจไหม ตกเย็นส่วนใหญ่ผมชอบมานั่งกินอาหารอร่อยๆ ก่อนกลับเข้าบ้านมากกว่า เรื่องวิ่งออกกำลังกายไม่เคยอยู่ในหัวของผมเลย แม้ผมจะเห็นกระแสการวิ่งและสารพัดอาหารคลีนนี้อยู่รายล้อมรอบตัว แต่ก็คงจะเหมือนเรื่องกลิ่นของน้ำหอมนี่แหละ เราไม่เอาเกณฑ์ความรักความชอบของเราไปตัดสินคนอื่น ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมเลยบอกแว่นไปว่าขอบใจที่ชวน และไม่ลืมที่จะต่อท้ายว่า “ขอคิดดูก่อนแล้วกัน” แว่นเพียงหงึกหน้ารับขณะที่ปากยังเคี้ยวตุ้ยไม่ยอมหยุด

ว่าไปแล้ว เงินเดือนเราก็เท่าๆ กัน ทำงานก็พร้อมกัน ปรับเพิ่มก็พร้อมกัน แต่ความสุขกลับมีไม่เท่ากัน ผมยังคงโหยหาความหอมกลิ่นใหม่ๆ สะสมเพิ่มเข้ามาจากที่มีเพียงหนึ่งขวด เป็นสอง สาม และตอนนี้ขาดอีกสองก็จะมีครบสิบขวดแล้ว แต่ผมก็ยังชื่นชอบเข้าไปทดลองดมน้ำหอมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพียงแต่ผมไม่ชอบซื้อตามใคร เจอกลิ่นถูกใจเมื่อไหร่จะหมายตาไว้ สิ้นเดือนแล้วเจอกัน จากนั้นผมจะเลือกร้านอาหารนั่งทานสักร้าน ก่อนกลับบ้าน ไม่อาหารญี่ปุ่นก็เกาหลี หรือไม่ก็สเต๊กอย่าง Sizzler, Eat Am Are, JEFFER, SANTA FE ส่วนชาไข่มุกเจ้าไหนใครว่าดีว่าอร่อย ผมก็ตระเวนกินมาจนหมดแล้ว กลับถึงคอนโดฯ ก็ไม่มีอะไรทำ นอกจากเล่นโทรศัพท์ ไม่ก็เปิดทีวีดูหนังช่อง MONO ส่วนคนรักไม่ต้องไปพูดถึง ตอนนี้ผมยังไม่ได้คบหาใครสักคน

ถ้าแว่นไม่ชวนผมวิ่ง ผมก็ไม่มีทางรู้ว่าแว่นมีกิจกรรมอื่นนอกจากอ่านหนังสือ ซ้ำผมยังมองร่างผอมๆ ของเพื่อนราวกับคนขาดสารอาหารเสียด้วยซ้ำ วิ่งเหรอ ผมเห็นคู่รักข้างห้องผมไปวิ่งกันทุกเย็น เราเดินสวนกัน เจอกันในลิฟต์บ้าง แต่ไม่เคยพูดคุยกัน เพียงแต่ส่งยิ้ม ผงกหัวให้กันบ้างเท่านั้น

ผมอยู่คอนโดฯ แห่งนี้เข้าปีที่หกแล้ว แต่ก็เป็นหกปีที่ผู้พักอาศัยร่วมคอนโดฯ เดียวกัน ไม่เคยวิสาสะกัน ต่างคนต่างอยู่ เช้ามาก็ออกไปทำงาน ตกเย็นก็กลับเข้าห้อง ห้องใครห้องมัน เรามีสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เหมือนต้นไม้ใหญ่สูงชะลูด แบ่งสัดส่วนรังใครรังมัน เช้ามาแยกย้ายออกไปหากิน ดีที่ครอบครัวผมพอมีทุนทรัพย์ ผ่อนคอนโดฯ ให้ตอนสมัยเรียน

และผมได้ใช้เป็นรังนอนมาจนบัดนี้