เรื่องสั้น | แม่กับลูก (3)

มันอยู่ที่นั่นนานชั่วนิรันดร์ (หากจะมีใครถามนางแม่วัวว่ามันและลูกของมันถูกกักขังอยู่ที่นั่นนานเพียงใด มันก็จะตอบว่านานชั่วนิรันดร์) ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ตกครั้งแล้วครั้งเล่า ฟ้ามืดและฟ้าสว่างครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงอาทิตย์ในขุมนรก แม้แต่แสงดาวและแสงจันทร์ก็ยังเป็นแสงดาวและแสงจันทร์ในขุมนรกไปด้วย ความมืดความสว่างของที่นั่นคือความมืดและความสว่างในขุมนรก มันและลูกรอดมาได้นานถึงปานนั้นเพราะโชคช่วย กลางดึกสงัดเกือบทุกๆ คืนจะมีคนเข้ามาจูงสายตะพายของวัวตัวใดตัวหนึ่งออกไปจากคอก หรือไม่ก็สองตัว วัวที่ถูกจูงออกไปจากคอกจะถูกจูงเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ที่วัวจะถูกจูงเข้าไปโดยเฉพาะเท่านั้น กลางดึกสงัดเกือบทุกๆ คืน ควายตัวหนึ่งหรือสองตัวก็จะถูกจูงออกจากคอกควายเข้าไปในอาคารอีกหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ที่ควายจะถูกจูงเข้าไปเท่านั้น กลางดึกสงัดเกือบๆ ทุกคืน หมูสามตัวหรือสี่หรือห้าตัวก็จะถูกจูงจากคอกหมูเข้าไปในอาคารอีกหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ที่หมูจะถูกจูงเข้าไปเท่านั้น และต่อจากนั้นก็จะมีแต่เสียงของวัว ควายและหมูกรีดก้องระเบ็งระงม เสียงกีบตีนของสัตว์ชะตาขาดที่ลากกระทบพื้นดังแกรกกราก ไอ้เจ้าพวกนั้นมันเข่าอ่อน เสียงร้องของมันเหล่านั้นดังโหยหวนอย่างว้าเหว่ มันวิงวอนร้องขอชีวิต แต่คนที่จูงมันไปเขาไม่ยอมฟังหรอก เขาไม่ยินดียินร้ายโดยสิ้นเชิง เขาเคยได้ยินเสียงเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วนจนจิตใจของเขามันด้านชา เขามีกิจธุระของเขา เขามีหน้าที่ของเขา กิจธุระซ้ำซาก หน้าที่ซ้ำซาก มันเป็นอาชีพของเขา เขาแต่ละคนนุ่งผ้าเตี่ยวทะมัดทะแมงและไม่มีเสื้อผ้าอื่นใดอีกเลย เขาแต่ละคนมีรูปร่างกำยำล่ำสัน มีความปราดเปรียว มีความแข็งแรง เขาแต่ละคนเสียงดัง มีกังวานดุดันเด็ดขาด พวกคนฆ่าวัวแต่ละคนนั้นเขารู้วิธีเปล่งเสียงตะคอกวัวด้วยเสียงที่เขาเลียนแบบมาจากการตะคอกคำรามของเสือ “โฮก!” ซึ่งผลของมันทำให้วัวทุกตัวตัวสั่นและเข่าไม่มีแรง เขาแต่ละคนรู้วิธีการจับสายตะพายของวัวอย่างมั่นคงและดึงให้หัวของวัวแหงนหงายขึ้น สายตะพายนั้นมันทำจากเชือกป่านศรนารายณ์อันเหนียวแน่นสอดร้อยผ่านรูจมูกของวัว เนื้อตรงจมูกของวัวนั้นมันอ่อน เมื่อเชือกสายตะพายถูกดึง วัวจะเจ็บ เมื่อเขาดึงไปทางซ้าย วัวก็จะเบนหัวไปทางซ้าย เมื่อเขาดึงไปทางขวา วัวก็จะเบนหัวไปทางขวา เมื่อเขาดึงลงต่ำ วัวก็จะเบนหัวลงต่ำ เมื่อเขาดึงขึ้นสูง วัวก็จะเบนหัวขึ้นสูง เบนหัวขึ้นสูงเพื่ออะไร เพื่อว่าเขาอีกคนหนึ่งซึ่งถือมีดปลายแหลมอันคมกริบจะได้แทงมีดในมือของเขาออกไปที่ลำคอของวัวตัวนั้นได้โดยถนัดถนี่น่ะซี ที่นั่นเป็นที่ตั้งของหลอดลม นั่นเป็นวิธีการที่คนเหล่านั้น (เสือที่มีสองขาเหล่านั้น) ใช้จัดการกับลูกวัวตัวเล็กๆ หรือวัวตัวเมียที่มีขนาดปานกลาง แต่กับวัวตัวใหญ่ๆ เขาจะต้องใช้วิธีการอีกอย่างหนึ่งเสียก่อน เขาสองคนจะเข้าประกบซ้ายขวา ดึงสายตะพายเต็มแรงไปในทิศทางตรงกันข้าม พาวัวตัวนั้นไปยังเสาเหล็กคู่หนึ่ง สอดหัววัวเข้าไปในช่องระหว่างเสาคู่นั้นเพื่อตรึงหัวของวัวใหญ่ตัวนั้นให้อยู่กับที่ และนายเพชฌฆาตอีกคนหนึ่งก็จะก้าวเข้ามาพร้อมกับค้อนเหล็กอันใหญ่ในมือ ร่างที่นุ่งผ้าเตี่ยวอยู่เพียงผืนเดียวของเขาดูราวกับยักษ์ปักหลั่น เขาจะยกค้อนใหญ่ของเขาขึ้นสุดล้าและฟาดลงไปเต็มแรงบนหน้าผากระหว่างเขาทั้งสองข้างของวัว ต้องผ่านวิธีการขั้นนี้เสียก่อนหรอก นายมือมีดเขาถึงจะกรากเข้าแทงที่คอของวัวตัวนั้นเสียด้วยมีดยาวของเขา ต่อจากนั้นนางแม่วัวจะไม่ได้เห็นวัวตัวนั้นซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคอกของมันอีกต่อไป หรือถ้าได้เห็น มันก็ต้องใช้ความพยายามอยู่นานเพื่อที่จะนึกให้ออกและจดจำ ร่างของวัวตัวนั้นได้ถูกแยกออกเป็นชิ้นส่วนต่างๆ กันเสียแล้ว หนังไปทางหนึ่ง หัวไปทางหนึ่ง หางไปทางหนึ่ง ขาหน้าทั้งสองไปทางหนึ่ง ขาหลังทั้งสองไปทางหนึ่ง กระดูกซี่โครงไปทางหนึ่ง อวัยวะภายในไปอีกทางหนึ่ง แม้แต่เลือดจากลำคอก็จะมีกระป๋องเหล็กใบใหญ่ถูกเสือกเข้ามารองรับและแยกไว้ต่างหาก! นางแม่วัวตัวนั้นหยั่งรู้ได้ว่านั่นคือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นกับมันและลูกของมันอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว มันร้องออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนเสียงของมันแหบแห้ง วัวตัวอื่นๆ ในคอกก็ร้อง ควายก็ร้อง หมูก็ร้อง ลูกของมันเองก็ร้อง อยู่ใกล้แม่ไว้ลูกเอ๋ย อยู่ใกล้แม่ไว้ตลอดเวลา มันพูดกับลูกของมัน แล้วมันก็เลียหัวหูหน้าตาให้ลูกของมัน น้ำตาของมันไหลรินไม่ขาดสายออกมาเป็นทางยาวสีดำลงมาจนถึงปลายจมูกของมัน ฉันกลัวจ้ะแม่ กลัวเสียจนพูดไม่ถูกว่ากลัวอย่างไร ลูกวัวพูด แม่เองก็กลัว แม่คิดว่าแม่กำลังจะเป็นบ้า นางแม่วัวตอบ หรือว่าแม่เป็นบ้าไปเสียแล้วก็ไม่รู้

ทะเลอยู่ที่นั่น ทางทิศที่ดวงตะวันขึ้น ทะเลที่มีความทมิฬหินชาติอันยากเกินความเข้าใจ มันกว้างขวางไร้ขอบเขต น้ำของมันเค็มจนขม ดื่มกินเข้าไปไม่ได้ น้ำของมันสีขุ่นเหมือนโคลน ฟองอันเกิดจากคลื่นของมันก็มีสีขาวขุ่นมัว ทะเลยังคงอาลัยอาวรณ์ทุ่งแห่งนี้อยู่ไม่รู้วาย มันเคยครองทุ่งแห่งนี้มาก่อน มีอยู่หลายครั้งที่มันพยายามเอ่อท่วมถนนดินอันเป็นแนวกั้นน้ำเค็มเข้ามา พาปู ปลา แมงกะพรุนและสาหร่ายของมันเข้ามาด้วย แต่ผืนแผ่นดินในทุ่งมันค่อยๆ สูงขึ้นอยู่ชั่วตาปีตาชาติ ทางทิศที่ดวงตะวันตกโน้นมีทิวเขาสีเขียวขรึมสลับซับซ้อนเป็นพืดพงยาวเหยียดและมีผืนป่าดิบมหึมามหาศาลเป็นต้นน้ำของลำธารและห้วยหนองคลองบึงต่างๆ และน้ำจากแหล่งน้ำเหล่านั้นก็ประสะประสมกันขึ้นเป็นแม่น้ำสายหนึ่ง ในฤดูกาลที่มีฝนตกหนักและยาวนาน น้ำในแม่น้ำก็เอ่อท้นฝั่งพัดพาเอาตะกอนดินให้ค่อยๆ ถะถั่งหลั่งเทมาทางทิศตะวันออก ผืนแผ่นดินทั้งหมดทางทิศตะวันออกของแม่น้ำสายนี้มันจึงได้เขยิบขยับสูงขึ้นอย่างช้าเชือน ผู้คนที่เขาเข้ามาตั้งหลักแหล่งอยู่ตามทุ่งชายทะเลนี้เล่า เขาก็ขุดคลองสายเล็กสายน้อยแยกย่อยออกไปและขุดบ่อขุดสระเก็บกักน้ำจืด เขาเหล่านั้นเป็นผู้คนที่ดื้อดึงทรหด เขาพยายามที่จะทำนาและเลี้ยงวัว เขาก่นด่าทะเลแต่เขาก็ยังคงพึ่งพาทะเล เขาหาหอยหาปูบนหาดโคลนอันกว้างใหญ่และยาวเหยียด เขาจับปูแสมจากป่าแสม เขาล้างป่าชายเลนเสียจนมันบางตาลงทุกทีด้วยการตัดไม้มาเผาถ่าน เขาต่อยหอยนางรมเอาตามซอกหิน เขาฝากท้องของเขาไว้กับนาข้าวอันน่าสังเวชของเขาและไว้กับทะเล ในทุ่งที่นางแม่วัวได้ถือกำเนิดและเติบโตขึ้นมานี้ ไม้ที่เติบโตได้ก็มีแต่ไม้ฝาด แสม ตะบูน โกงกางและโพทะเลเท่านั้น หลายต่อหลายแห่งมีแต่ดงผักเบี้ยและชะคราม เป็นพื้นที่ซึ่ง (จะเนื่องมาจากสาเหตุอันใดก็ไม่รู้ได้) มียุงและแมลงวันชุกชุมเป็นอย่างยิ่ง นาข้าวของผู้คนที่นี่ได้ข้าวเฉลี่ย ไร่ละไม่เกินสามสิบถัง ตลอดทั่วทั้งทุ่งอันกว้างใหญ่ยังมีที่เนินที่ดอนอยู่ยาวเหยียดและระเกะระกะไป เป็นที่ “ตะกาด” คือเป็นแหล่งรวมของเปลือกหอยอายุนับล้านปีซึ่งท่วมทับกันอยู่เป็นภูเขาเลากา ลึกเข้ามาในท้องทุ่ง (ซึ่งจะว่าไปแล้วอยู่ไกลจากทะเลมาก) ก็ยังมีสัญลักษณ์แห่งความลึกลับของทะเลในอดีตกาล มันคือศาลเจ้าเก่าแก่สี่แห่งซึ่งเป็นที่ประดิษฐานซากของสัตว์ทะเลแปลกประหลาดที่ผู้คนในยุคต่อมาไม่มีโอกาสได้พบเห็นอีกแล้ว ซากปูทะเลตัวใหญ่เท่าถังใส่ข้าวสาร ซากหัวของฉลามตัวหนึ่งซึ่งขากรรไกรของมันกว้างพอที่จะงับลูกวัวสักตัวหนึ่งได้ ซากหัวของปลาฉนากตัวหนึ่งพร้อมกับฟันอันคมกริบของมัน ซากร่างของวาฬแกลบตัวหนึ่งซึ่งมีสภาพเกือบๆ สมบูรณ์ นางแม่วัวตัวนี้มันเคยไปเที่ยวเล่นซุกซนอยู่ในท้องทุ่งแห่งนี้และมันก็จดจำสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด

นางแม่วัวเห็นตัวของมันเองและลูกของมันในทุ่งแห่งนั้นอีกในยามตะวันรอน เป็นยามต้นฤดูร้อนและมันไม่มีการงานอันใดที่จะต้องทำอีกเลยจนกว่าฝนจะตกลงมาอีกสักห่าใหญ่ๆ (ซึ่งนั่นก็ยังอีกนานเหลือเกิน) มันและลูกของมันได้เตร็ดเตร่เรื่อยเฉื่อยหายอดไม้อ่อนและหญ้าสดที่ขึ้นอยู่ตามกอซังข้าวกินและได้เดินห่างออกจากคอกของมันและบ้านหลังนั้นมาเสียไกล แต่จะเป็นเพราะอะไรมันก็คิดไม่ออกว่าทำไมขณะนี้ทุ่งที่มันคุ้นเคยแห่งนี้ถึงได้แปลกออกไปแม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะยังคงเดิมก็ตามที ตัวของมันเองและลูกของมันเล่าก็แปลกออกไปเช่นกัน ตัวของมันเองมีรอยแผลร้าวแยกตรงหว่างเขาและมีรอยถูกแทงที่คอเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ลูกของมันเองก็มีรอยถูกแทงที่คอเป็นบาดแผลฉกรรจ์ เลือดไหลออกมาจากบาดแผลของมันไม่หยุด เลือดไหลออกมาจากบาดแผลของลูกมันไม่หยุด มันไม่กล้าที่จะนึกทบทวนต่อไปอีกว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นกับมันและลูกของมันนั้นเนื่องมาจากสาเหตุอันใด มันกลัวที่จะนึกคิดถึงที่มาของบาดแผลนั้น มันรู้สึกว่าเนื้อตัวของมันนั้นเบา โปร่งใสและปราศจากน้ำหนัก และเนื้อตัวของลูกของมันนั้นเล่าก็เบา โปร่งใสและปราศจากน้ำหนักเช่นกัน และเมื่อมันกลับมาถึงคอกของมันในยามใกล้ค่ำนั้น เจ้าของของมันทั้งสามคนเขาก็ได้แต่มองดูมันและลูกของมันด้วยสีหน้าอันเรียบสนิท เม้มริมฝีปากแน่นและกะพริบตาปริบๆ ในที่สุดคนทั้งสามก็ขู่ตะคอกและเงือดเงื้อท่อนไม้ไล่มันและลูกของมันออกมาจากคอก นางแม่วัวไม่เข้าใจ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ มันลังเลและขัดขืน เมื่อมันรู้ว่ามันถูกไล่แล้วจริงๆ มันก็จึงเดินเตร่เข้าไปใต้ถุนเรือนหลังนั้นและไปหลบซ่อนอยู่ที่หลังฉางข้าว มันและลูกถูกไล่ออกมาอีก มันพาลูกไปซ่อนตัวอยู่ในดงไผ่ริมสระน้ำ แต่ก็ยังไม่วายถูกติดตามและถูกไล่ออกมา แปลกที่การขู่ตะคอกของเขาทั้งสามนั้นปราศจากเสียง แปลกที่เจ้าหมาดุตัวนั้น (ซึ่งออกมาช่วยเจ้าของของมันไล่วัว) เห่ากระโชกโดยปราศจากเสียง แปลกที่พ่อแม่ของเด็กชายคนนั้นดูกลับยิ่งมีท่าทางเหงาๆ และมีนัยน์ตาเศร้าๆ เหมือนลูกชายของตนราวกับว่าเขาทั้งสามคนนั้นเป็นคนคนเดียวกัน หากแต่มีร่างถึงสามร่าง มืดค่ำแล้ว ดวงจันทร์ดวงกลมโตลอยขึ้นมาจากทะเลแล้ว ทุ่งกันดารนี้ดูยิ่งรกร้างจนวังเวง ไร้ชีวิตจิตใจและขาวโพลนราวกับผ้าห่อศพ มันจึงได้แต่เดินวนเวียนอยู่รอบๆ บ้านหลังนั้นอยู่เนิ่นนาน ลูกของมันเฝ้าแต่รบเร้าถามว่าทำไมนอนในคอกไม่ได้ล่ะแม่ มันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร และมันก็ร้องไห้ ลูกของมันขวิดมัน พูดว่าแม่ร้องไห้ทำไม พูดว่าไปกันเถอะแม่ ไปนอนในคอกของเรา แล้วพอได้เห็นว่าแม่ของมันร้องไห้ มันก็ร้องไห้ออกมาบ้าง สายลมแห่งความวิปโยคที่พัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้นี้ยิ่งมืดค่ำดึกดื่นเข้าก็ยิ่งมีกำลังแรงและส่งเสียงราวกับปิศาจร่ำไห้ กลิ่นอายของทะเลและกลิ่นของท้องทุ่งอันเป็นถิ่นกำเนิดของมันเล่าก็ยิ่งแจ่มชัด เลือดยังคงไหลออกมาจากบาดแผลของมันไม่หยุด เลือดจากบาดแผลของลูกของมันก็ยังคงไหลไม่หยุดเช่นกัน ในแสงสีเงินยวงจากดวงจันทร์ เลือดของมันและเลือดของลูกของมันช่างดูแดงสดและมีกลิ่นคาวราวกับเลือดจริงๆ

กลางดึกของคืนฟ้าแจ่มสว่างไสวคืนนั้นนั่นเอง ชายฉกรรจ์สองคนก็ปรี่เข้ามาดึงสายตะพายฉุดให้นางแม่วัวลุกขึ้นยืนและลากมันออกไป นางแม่วัวสะดุ้งตื่นจากความฝัน มันตกใจจนตัวชา ขาแข็งก้าวเดินไม่ออก มันรู้ได้ในทันทีว่าเหตุการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว มันกำลังจะถูกจูงไปฆ่า มันจึงเอาขาทั้งสี่ยันพื้นเข้าไว้ ชายฉกรรจ์สองคนนั้นต้องออกแรงฉุดกระชาก ลูกวัวเห็นนางแม่ถูกบังคับให้ออกเดินไปเช่นนั้นมันก็ลุกขึ้นบ้างและงัวเงียเดินเบียดคลอติดตามแม่ของมันไป มันเพิ่งตื่น มันไม่ได้ฝันอะไร มันหิว มันงุดหัวลงใต้ท้องแม่ของมัน มันจะกินนม มันไม่รู้หรอกว่าแม่ของมันกำลังจะถูกจูงไปฆ่า และตัวมันเองนั้นก็กำลังตามเขาไปเพื่อที่จะถูกฆ่าเสียแต่โดยดี “นางแม่นี่ตัวโตเอาเรื่อง จะต้องทุบหัวเสียก่อนหรือว่าจะแทงคอได้เลย” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งพูด มีความเมามายอยู่ในน้ำเสียงของเขา “เห็นจะต้องทุบหัวก่อน” ชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งตอบ มีความเมามายอยู่ในน้ำเสียงของเขาเช่นกัน “แล้วไอ้ลูกแหง่นี่ล่ะ” “แทงคอเบาๆ ก็พอ” แล้วคนที่พูดประโยคหลังเขาก็เอามือข้างหนึ่งของเขาดึงเชือกที่ผูกรอบคอลูกวัวอยู่ให้มันเดินห่างตัวนางแม่ของมันออกไปสักหน่อย นางแม่วัวบัดนี้ตื่นตัวดีแล้ว มันสะบัดหัวครั้งหนึ่ง รู้สึกเจ็บแปลบปลาบในโพรงจมูก ความเจ็บแปลบปลาบนั้นไหลพล่านไปทั่วสรรพางค์ มันสะบัดหัวอีกครั้งหนึ่ง แรงกว่าครั้งแรก ในชีวิตของมันมันไม่เคยทุ่มเทเรี่ยวแรงมากมายถึงปานฉะนี้มาก่อนเลย ในชีวิตของมันมันไม่เคยเจ็บแปลบปลาบมากมายถึงปานฉะนี้มาก่อนเลย ถ้าหากว่ามันไม่มีลูกติดมาด้วย มันอาจยอมจำนน มันอาจยินยอมให้เขาจูงไปฆ่าเสียแต่โดยดี แต่เนื่องจากลูกของมันได้ติดตามมันมาด้วย นางแม่วัวมันก็จึงฮึดฮัดกระทำการในสิ่งที่มันเองก็คาดไม่ถึง มันผกโผน ดีดขาคู่หน้าและขาคู่หลัง ดิ้นรนเพื่อเป็นอิสระ ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนเซซวนผงะหงายไปคนละทาง ต่างคนต่างส่งเสียงสบถลั่น คนทางขวาตั้งหลักได้ก่อน นางแม่วัวจึงพุ่งเข้าใส่เขาก่อน หัวของมันงุดลงต่ำ และมันก็ขวิดเขาเต็มแรงเข้าตรงบริเวณหว่างซอกขาของเขา ร่างของเขาทรุดลง ลำตัวโค้งงอลงมาทางข้างหน้าด้วยความจุกเสียด นางแม่วัวขวิดซ้ำอีกครั้งหนึ่งตรงบริเวณใต้คางของเขาซึ่งทำให้เขาล้มทั้งยืนและหัวของเขาฟาดเข้ากับพื้นซีเมนต์ดังสนั่นราวกับเสียงทุบมะพร้าวห้าว มันพุ่งเข้าใส่ชายคนที่สองซึ่งรี่เข้ามาหมายจะคว้าจับสายตะพายของมัน มันโถมตัวเข้าขวิดเต็มแรง พลาด ร่างของมันไถลพรืดไปบนลานซีเมนต์ มันแว้งตัวกลับในทันทีและมันขวิดเขาอย่างถนัดเข้าที่ช่องท้อง มันได้ยินเสียงซี่โครงอ่อนของเขาหักดังกรึบ มันตวัดเขาอีกครั้งหนึ่งขวิดเข้าตรงที่เดิมเสียบเสยร่างของเขาผู้นั้นให้ลอยขึ้นไปในอากาศ พอร่างของเขาตกลงมากระแทกพื้นมันก็เข้าไปยืนคร่อมร่างของเขา และขวิดซ้ำอีกไม่เลือกที่ แต่มันขวิดไม่ถนัดเท่าไหร่ ตลอดเวลาลูกของมันเอาแต่ร้องออกมาอยู่ซ้ำๆ ว่านั่นแม่ทำอะไร ฉันกลัว ประตูรั้วด้านหน้าของสถานที่แห่งนั้นเปิดโล่งโถงอยู่ พวกพ่อค้าเนื้อสัตว์ แม่ค้าเนื้อสัตว์เขาได้ทยอยกันมาแล้วพร้อมกับรถเข็นของเขา บ้างรถจักรยานคันใหญ่มีแกนเหล็กตรงกลางมีตะแกรงใหญ่พ่วงท้ายของเขา บ้างรถมอเตอร์ไซค์มีตะแกรงใหญ่พ่วงท้ายของเขา บ้างรถกระบะน้อยของเขา บ้างตามปรกติวิสัย เขาบางคนวิ่งมาดักหน้านางแม่วัวพร้อมกับส่งเสียงตะเพิดไล่ บางคนพยายามผลักบานประตูเหล็กให้มันหับปิดไว้เสียเพื่อป้องกันไม่ให้นางแม่วัวหนีออกไป นางแม่วัววิ่งไล่ขวิดเขาเหล่านั้นอย่างบ้าคลั่ง จนเขาเหล่านั้นล้มระเนระนาดและครวญครางโอดโอย ในบริเวณโรงเชือดมีเสียงชายฉกรรจ์คนอื่นๆ ส่งเสียงเอะอะโหวกเหวก มีเสียงวัวร้อง เสียงควายร้อง เสียงหมูร้อง นางแม่วัววิ่งออกไปถึงประตูหน้า มันตื่นตกใจกับถนนลาดยางมะตอยอันปลอดเปลี่ยวภายใต้แสงไฟฟ้าหม่นมอมมัวซัวซึ่งมีแมลงมากหลายบินไต่ตอมเวี่ยเวียนอยู่ ทางด้านซ้ายมีแต่ถนนสีดำและแสงไฟมัวซัว ทางด้านขวาก็เช่นเดียวกัน แม้แต่ถนนสายนั้นก็ยังแปลกประหลาดและน่าพรั่นพรึง มันส่งเสียงร้องเรียกลูกของมันอยู่ริมถนนสายนั้น หนึ่งครั้ง สองครั้ง ไม่มีเสียงตอบ มันวิ่งกลับเข้ามาในลานซีเมนต์ของโรงฆ่าสัตว์อีกท่ามกลางเสียงร้องของวัวควายและหมู และเสียงตะโกนเอะอะโหวกเหวกและเสียงครวญครางของคนที่ได้รับบาดเจ็บ มันร้องเรียกสุดเสียงยาวนาน เสียงร้องของมันดังก้องและโหยหวนไปตลอดทั่วทั้งตัวเมืองชนบทอันโบร่ำโบราณเมืองนั้น ลูกของมันเดินอย่างไม่แน่ใจออกมาจากใต้เงามืดของต้นหูกวางริมลานซีเมนต์ ตัวของมันสั่นริกๆ นางแม่วัวยืนเบิกเบิ่งมองไปทางนั้นทีทางนี้ที สูดจมูกสองสามครั้ง แล้วมันก็เลี้ยวซ้ายวิ่งไปบนถนน มันวิ่งไปพลางก็ส่งเสียงร้องเรียกให้ลูกของมันเร่งฝีตีนติดตามมันมา

ทิ้งสรรพสำเนียงแห่งความตื่นตระหนกและความโกลาหลไว้ทางเบื้องหลัง