ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 เมษายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ฉบับนี้ยังขอเอี่ยวกับงาน “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 44 อีกสักครา เพราะเป็นปีที่มีรถใหม่เข้มมาเปิดตัวกันจ้าละหวั่นจริงๆ
เริ่มจากรุ่นแรกเป็นรถเอ็มพีวีหรู “MG MAXUS 9” รถยนต์ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง เป็นพวงมาลัยขวาคันแรกของประเทศไทยและอาเซียน
แม้คนไทยจะคุ้นเคยกับค่ายเอ็มจี ในลักษณะรถเก๋งและเอสยูวี แต่เอ็มจีเคยนำรถเอ็มพีวีเข้ามาทำตลาดเช่นกันในชื่อรุ่น “วี80” แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก
ล่าสุดนี้ เอ็มจีหวนเข้าตลาดนี้อีกครั้ง แต่ปรับความหรูหรามากขึ้น และมาในกลุ่มรถยนต์อีวี
หน้าตาดูอวกาศมากขึ้น ไฟหน้าเรียวเล็กแบบ LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
เช่นเดียวกับไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 เป็น LED เช่นกัน
มีไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
หลังคา Dual Panoramic Sunroof
ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
ล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางแบบ Run Flat
ภายในถือเป็นจุดเด่นเพราะตกแต่งได้หรูหรา และกว้างขวาง
มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 2,000 x 5,270 x 1,840 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ 3,200 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดจากพื้น 140 มิลลิเมตร
คอนโซลหน้าแบบ Double Layer พร้อมที่วางแก้ว และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger)
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว
ตรงกลางเป็นหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ตโฟนระบบ Android รวมถึงเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมิติ แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
กระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror
เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ พร้อมการตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ SOFT TOUCH
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เบาะนั่งแถวที่สองในรุ่น V แบบ VIP Captain Seat พร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats) ระบบนวด เบาะอุ่นและระบายความร้อน
ควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen พร้อมช่องวางโทรศัพท์ โต๊ะพับและที่วางแก้ว
ไฟห้องโดยสาร Ambient Light ปรับได้ 64 เฉดสี
ช่องเชื่อมต่อ USB 9 จุด และช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V
ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุดที่ 180 กิโลวัตต์ หรือ 245 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion จัดวางแบบ Cell To Pack ขนาดความจุ 90 kWh มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
ชาร์จเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้พิสัยสูงสุด 540 กม. ตามมาตรฐาน NEDC
ชาร์จแบบเร็ว DC Quick Charge จาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ที่ความเร็วสูงสุด 120 kWh
ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 5-100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์
ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
ความปลอดภัยและออปชั่นเพิ่มความสะวดกในการขับขี่อัดมาเต็มแมกซ์
อาทิ ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง ระบบป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรก
ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ฯลฯ
NEW MG MAXUS 9 มี 2 รุ่นย่อย
รุ่น X – LUXURY
และรุ่น V – SUPER LUXURY
ส่วนราคาต้องรอลุ้นอีกทีเพราะจะเปิดอย่างเป็นทางการเดือนพฤษภาคมนี้
ถ้าตั้งราคาได้โดนใจเหมือนหลายรุ่นที่ผ่านมา งานนี้รถเอ็มพีวีหรูค่ายอื่นมีหนาว
ส่วนค่ายรถจากแดนน้ำหอมเปอโยต์ ภายใต้การบริหารโดยบริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด ก็กระโดดเข้าร่วมวงรถพบลังงานทางเลือก อวดโฉม 2 รุ่นใหม่
The New Peugeot 408 PHEV แบบปลั๊กอินไฮบลริด และรถยนต์ไฟฟ้า Peugeot e-2008
Peugeot 408 PHEV ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Language of Attraction” รูปลักษณ์สไตล์ฟาสแบ็ก (Fastback)
เดย์ไทม์รันนิ่งไลต์ทรงเขี้ยวสิงห์ พร้อมกระจังหน้าแบบไร้กรอบ ด้านหลังติดตั้งไฟท้ายกรงเล็บสิงห์ 3 ขีด พร้อมล้อแม็กขอบ 19 นิ้ว
ห้องโดยสาร “Peugeot i-Cockpit” เจเนอเรชั่นล่าสุด โดยรวมเป็นรถที่ดูสวยแบบแฮตช์แบ็ก แต่ให้ความสะดวกสบายแบบเอสยูวี
ติดตั้งมาตรวัด 3 มิติ ขนาด 10 นิ้ว บริเวณด้านหน้าผู้ขับ ขณะที่กลางแดชบอร์ดติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว เอียงเข้าหาผู้ขับ
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ความจุ 12.4 kWh ชาร์จไฟบ้านเต็มในเวลา 3.4 ชั่วโมง
ให้กำลังรวม 225 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ “e-EAT8” 8 จังหวะ
ขับเคลื่อนด้วยด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางสูงสุด 63 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Peugeot 408 PHEV ราคา 2,790,000 บาท
ขณะที่รุ่น e-2008 เอสยูวีขนาดเล็ก ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบฟูลแอลอีดี พร้อมเดย์ไทม์รันนิ่งไลต์แนวตั้ง คล้ายเขี้ยวสิงโต กระจังหน้าไร้กรอบ พร้อมเพิ่มไฟตัดหมอกด้านหน้า
ตัวถังด้านข้างเน้นเหลี่ยมสัน เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยลูกเล่นบริเวณเส้นข้างประตู
ไฟท้ายสะท้อนกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) ตัดกับคิ้วสีดำเงา ล้อแม็กขอบ 18 นิ้ว
ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ความจุแบตเตอรี่ 50kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 340 กิโลเมตร (WLTP)
ชาร์จไฟบ้านเต็มในเวลา 7.5 ชั่วโมง หรือ DC charge 80% ใน 30 นาที
Peugeot e-2008 ราคา 2,490,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022