กับชื่อ Elac นับเป็นแบรนด์ลำโพงจากเยอรมนีที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรานานพอประมาณแล้ว ดูเหมือนจะเปลี่ยนมือผู้นำเข้ามาสักสองสามรายเห็นจะได้

ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของขาใหญ่ในวงการรายหนึ่ง ซึ่งมีแบรนด์สินค้านำเข้ามาทำตลาดบ้านเราอยู่ในความรับผิดชอบมากพอควร เพราะครอบคลุมตลาดแบบครบวงจรก็ว่าได้ ด้วยมีทั้งเครื่องเสียงบ้าน, เครื่องเสียงติดรถยนต์, เครื่องเล่นที่เป็นความบันเทิงส่วนตัว รวมทั้งระบบเสียงผ่านเครือข่ายหรือ Audio on IP Network

โดยทั้งหมดนั้นมีให้เลือกทุกระดับตั้งแต่ Entry Level, Mid-Fi ไปยัน Hi-End เรียกว่ามีครบแบบมาแล้วจบในที่เดียวได้เลย

เช่นกันกับลำโพง Elac ที่มีสินค้าให้เลือกสำหรับนักเล่นทุกกลุ่ม ว่ากันตั้งแต่มือใหม่ไปยันกลุ่มเงินไม่ใช่ปัญหานั่นแหละครับ

แต่เท่าที่สังเกตดูแฟนานุแฟนของแบรนด์นี้ในบ้านเราจะอยู่ในกลุ่ม Mid-Fi เป็นส่วนใหญ่ และเป็นกลุ่มก้อนที่ค่อนข้างจะเหนียวแน่นกับแบรนด์อยู่ไม่น้อย

Elac นั้นแม้ว่าจะเป็นแบรนด์ของลำโพงที่มีอายุอานามไม่มากนัก เนื่องเพราะเพิ่งเกิดเมื่อช่วงกลางทศวรรษที่ 80s แต่กล่าวสำหรับบริษัทแม่ คือ Electroacoustic GmbH นั้น มีอายุเก่าแก่แบบอีกสองสามปีก็ครบร้อยละ เพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 ด้วยการผลิตอุปกรณ์อิเล็กโทรอะคูสติกด้วยเทคโนโลยีโซนาร์ ที่อาศัยการสะท้อนของคลื่นเสียงเป็นสำคัญ พร้อมๆ กับการวิจัยและพัฒนาด้านช่องสัญญาณเสียงทั้งในน้ำและในอากาศ โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้นบริษัทมีจำนวนพนักงานมากสุดสูงถึง 5,000 คน

หลังสงครามบริษัทได้เปลี่ยนไปผลิตสินค้าอุปโภคเป็นหลัก รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย โดยได้ย่างก้าวเข้าสู่ยุทธจักรเครื่องเสียงเมื่อปี ค.ศ.1948 เมื่อได้นำเสนอเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นแรก Model PW1 ออกสู่ตลาด และได้รับความนิยมจากนักเล่นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งได้มีพัฒนาการทางด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นต้นทางของแหล่งกำเนิดเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งยังคงมีผลิตออกมาตราบจนทุกวันนี้

ขณะเดียวกันในวลานั้นนอกจากมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงเป็นของตัวเองแล้ว ยังได้นำสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แบรนด์อื่นๆ จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในเยอรมนีด้วย อาทิ Sony, Fisher และ Nakamichi

Elac ได้เริ่มออกแบบและทำลำโพงออกมาครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1984 (หลังจากนั้นไม่นานปีก็เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา) โดยร่วมมือกับ Axiom Electroacoustic Speaker Specialists และใช้เวลาประมาณหนึ่งปีก็มีชื่อเสียงอย่างมากเมื่อออกแบบ 4Pi Tweeter ที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ให้สามารถกระจายเสียงได้กว้างรอบตัว หรือรอบทิศทางแบบ Omnidirectional ซึ่งเป็นที่กล่าวขานและว่ากันว่าเป็นการเปลี่ยนโลกการฟังเพลงของผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง

ในปี ค.ศ.1993 ได้สร้างชื่อให้แบรนด์อีกครั้งด้วยการนำเสนอทวีตเตอร์แบบใหม่ที่เรียกว่า JET Tweeter ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นริบบิ้นพับ ที่สามารถให้การตอบสนองความถี่เสียงอย่างราบรื่นไปได้ถึง 33kHz

ซึ่งกับเรื่องราวทำนองนี้ในเว็บไซต์หลักของแบรนด์ระบุว่า กว่า 90 ปี แห่งนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ของเขาได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมระดับ 5 ดาว ถึงกว่า 1,000 รายการ

ครับ, ก็นำมาเล่าสู่ให้รู้จักกันพอเป็นสังเขป

สําหรับที่นำมาให้รู้จักกันเที่ยวนี้ซึ่งก็คือที่จ่าหัวเอาไว้นั้น เป็นรุ่นล่าสุดที่เพิ่งนำมาเปิดตัวในบ้านไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา

เป็นลำโพงมอนิเตอร์แบบผนวกภาคขยายเสียงหรือมีแอมป์ในตัว แค่นำแหล่งโปรแกรมมาต่อเข้าก็ฟังเพลงได้ทันที หรือจะเล่นไฟล์เพลงจากอุปกรณ์พกพาจำพวก Media Player, สมาร์ตโฟน ด้วยเครือข่ายไร้สายก็ทำได้สะดวกผ่านทาง Bluetooth aptX ซึ่งดูจากกายภาพแล้วถูกออกแบบมาสำรับวางบนโต๊ะทำงาน แบบ Desktop Speaker เพื่อยกระดับคุณภาพเสียงสำหรับชุดคอมพิวเตอร์ หรือจะว่าไปก็คือเหมาะกับคอเกมนั่นเอง

คนเล่นเกมคอมพิวเตอร์ทราบดีครับ ว่าเดี๋ยวนี้คุณภาพเสียงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะในแง่ของการให้ตำแหน่งหรือทิศทางเสียงนี่ หากสามารถกะที่หรือจับทางได้ถูกแล้วชิงลงมือก่อน, ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะครับ

Elac Debut ConneX มีชื่อรหัสอย่างเป็นทางการว่า Model DCB41 ประกอบไปด้วยลำโพงสองตู้ โดยตู้หนึ่งเป็นลำโพงหลักแบบ Active เพราะได้ผนวกภาคการทำงานของแอมปลิไฟเออร์ในตัว ทั้งภาครับสัญญาณและภาคขยายสัญญาณ ขณะที่อีกตู้มีลักษณะเป็นลำโพง Passive ทั้งคู่เชื่อมต่อกันด้วยสายลำโพง L/R ตามปกติ ในการใช้งานจะให้ลำโพงตู้ใดเป็นแชนเนลซ้ายหรือขวาก็ได้

ที่แผงหลังของลำโพงตู้หลักมีอินพุตให้เชื่อมต่อทั้งอุปกรณ์ดิจิทัลและอะนาล็อกได้อย่างหลากหลาย กอปรไปด้วยพอร์ต HDMI แบบ ARC : Audio Return Channel สำหรับต่อกับทีวี และใช้รีโมต คอนโทรล ของทีวีควบคุมระดับความดังเสียงของลำโพงซ้าย/ขวาได้, พอร์ต USB สำหรับเชื่อมต่อกับชุดคอมพิวเตอร์ผ่านสายได้ทั้ง PC และ Mac ซึ่งสามารถรองรับไฟล์เสียงความละเอียดสูงได้ถึงระดับ Hi-Res 24-bit/96kHz โดยปรับความดังเสียงได้ผ่านปุ่มควบคุมของคอมพิวเตอร์ ทั้งยังมีช่องเสียบ Optical สำหรับดิจิทัล ซอร์ซต่างๆ อาทิ เครื่องเล่นเกม เป็นต้น

ในส่วนของอะนาล็อก อินพุต มีให้ชุดเดียวสำหรับเครื่องเล่นแผ่นเสียงโดยเฉพาะ รองรับการทำงานกับหัวเข็ม MM : Moving Magnet โดยมีขั้วต่อสายกราวด์มาให้พร้อมสรรพ พร้อมสวิตช์เปิด/ปิด โดยขณะใช้งานลำโพงกับแหล่งเสียงอื่นๆ ต้องปิดสวิตช์โฟโนเอาไว้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ยังมีขั้วสัญญาณขาออก Sub-Out สำหรับไปต่อเข้ากับ Powered Sub-Woofer เพื่อการทำงานในระบบ 2.1 แชนเนล

ภาคขยายเสียงนั้นเป็นแบบ Class-D ให้กำลังขับ 50Wrms โดยมีลูกบิดโวลูม คอนโทรล อยู่ที่ด้านหลังตู้

Elac DCB41 ทำงานในระบบ Bass Reflex แบบ 2 ทาง วูฟเฟอร์ขนาด 4-1/2 นิ้ว ขึ้นรูปกรวยด้วยโพลีโพรไพลีน ทวีตเตอร์ขนาด 3/4 นิ้ว เป็นแบบ Soft Dome ให้การทำงานตอบสนองความถี่ 66Hz-25,000Hz เมื่อวัดในห้องไร้เสียงสะท้อน (Anechoic Chamber) ในห้องปกติทั่วๆ ไป วัดได้ 50Hz-25,000Hz โดยวัดระดับความดังเสียงสูงสุดได้ 102dB@1m

มิติโครงสร้างตู้ (กว้าง x สูง x ลึก) 5-1/2 x 9-5/8 x 8 นิ้ว ตัวแอ็กทีฟหนัก 7.6 ปอนด์ ตู้พาสสีฟหนัก 6.3 ปอนด์

เสียดายวันเปิดตัวไม่ได้ไป ทั้งๆ ที่นัดแนะกับน้องนุ่งที่ดูแลด้านประชาสัมพันธ์เอาไว้ดิบดีแล้ว แต่งานถูกเลื่อนออกไปอีกสัปดาห์ซึ่งตรงกับช่วงที่ผมเดินทางพอดี เลยมีอันต้องคลาดกัน เพราะอยากไปฟังดูด้วยก่อนมาถึงบ้านเราเห็นสื่อทางเมืองนอกชื่นชมเอาไว้มาก ทั้งในแง่ความชาญฉลาดในการออกแบบ ประสิทธิภาพการทำงาน น้ำเสียงมีความเป็นธรรมชาติสูงและให้สมดุลเสียงที่ดี มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่หลากหลาย ใช้งานสะดวก มีความคุ้มค่าสูง

ไว้มีโอกาสเจอกันตัวเป็นๆ เรียบร้อยแบบได้ความเมื่อไร จะมาเล่าสู่กันฟังครับ

อ้อ, เปิดราคาที่บ้านเรานี่ อยู่ที่สองหมื่นกลางๆ แต่เดินดูตามดีลเลอร์หรือร้านค้าย่อยบางแห่ง จ่ายสองหมื่นมีเหลือทอนเป็นค่ารถกลับบ้านพอได้อยู่ล่ะครับ •

 

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022