ลัมโบร์กินี ‘Urus Performante’ ‘เอสยูวี’ ซูเปอร์สปอร์ต-มาดเข้ม

สันติ จิรพรพนิต

ยังอยู่ในโหมดนำรถใหม่มาแนะนำกัน แม้บางรุ่นอาจเปิดตัวเมื่อปี 2565 แต่เป็นช่วงท้ายๆ ปีแล้ว

เริ่มด้วยสุดยอดรถเอสยูวีซูเปอร์สปอร์ตสุดหรู ลัมโบร์กินี “Urus Performante”

นำเข้าโดย เรนาสโซ มอเตอร์ (Renazzo Motor)

แม้รถในกลุ่มเอสยูวีของค่ายซูเปอร์คาร์อาจไม่โด่งดังเท่ารถ 2 ประตู แต่เรื่องยอดขายต้องถือว่าเทียบกันแล้วนำโด่งพอสมควร

ภายนอกชูความล้ำสมัย เน้นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ มีคุณสมบัติเบาแต่แข็งแกร่ง โดยเป็นรถที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์มากที่สุดในเซ็กเมนต์

ฝากระโปรงและแผงกันชนขนาดใหญ่ ออกแบบเส้นสายบนฝากระโปรงให้ยาวต่อเนื่องลงมาถึงแผงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และมาพร้อมช่องระบายลมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีเดียวกับตัวรถ

หากใครไม่ชอบลายมาตรฐานที่ให้มายังมีให้เลือกเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

ทั้งยังสามารถเลือกหลังคาเป็นลายคาร์บอนไฟเบอร์ให้เหมือนกับซูเปอร์สปอร์ตคาร์ของลัมโบร์กินีอย่าง Huracan Performante และ Super Trofeo ได้

แผงกันชนหน้าและสปลิตเตอร์ ออกแบบให้มีเส้นสายดุดันกว่าเดิม ช่องดักอากาศสีดำ ม่านดักลมแบบใหม่ทำให้อากาศไหลเข้าทางล้อหน้าได้มากขึ้น

ผสานกับการออกแบบตรงช่องระบายลมบนฝากระโปรง เพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ พร้อมทำให้เครื่องยนต์เย็นลง

สปอยเลอร์ด้านหลังดีไซน์ใหม่ช่วยเพิ่มแรงกดด้านหลังได้อีก 38%

กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ ท่อไอเสียแบบ Akrapovic ผลิตจากไทเทเนียม ส่งเสียงคำรามสะใจและเปลี่ยนไปตามโหมดการขับขี่ด้วย

ซุ้มล้อทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน

รองเท้าขนาดใหญ่ 22-23 นิ้ว นอตไทเทเนียม รัดด้วยยาง Pirelli ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ

ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังกลับ Alcantara สีดำ Nero Cosmus เดินด้ายสีเหลือง เย็บเบาะนั่งหกเหลี่ยมในสไตล์ “Performante Trim”

สามารถเลือกออปชั่นเสริมจากธีมการตกแต่งด้วยหนังทั้งคัน

สีสันภายในสามารถเลือกสไตล์ “Performante Trim” ทั้งในส่วนประตู เส้นแนวหลังคา พนักพิง และด้านหลังเบาะคู่หน้า

รวมถึงการตกแต่งเฉพาะแบบ Ad Personam มีตัวเลือกวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้าน

สำหรับออปชั่น “Dark Package” จะสามารถเลือกการตกแต่งโทนสีดำด้านให้ครอบคลุมรายละเอียดของห้องโดยสารส่วนอื่น ซึ่งรวมถึงส่วนก้านของแผงควบคุมกลาง

พวงมาลัย 3 ก้านแบบท้ายตัดเพิ่มพื้นที่บริเวญหน้าขามากขึ้น

เบาะนั่งทรงรถแข่งมีสัญลักษณ์ลัมโบกินีที่บริเวณพนักพิงศีรษะ และตัวอักษรชื่อรุ่น “Urus” บริเวณพนักพิง

ช่องแอร์ทรง 6 เหลี่ยม

แผงคอนโซลตกแต่งด้วยลายเคฟล่า ที่เปิดประตูสีแดงสดตัดกันดีกับภาพรวมที่เน้นโทนดำ

ขุมพลังสุดโหดเครื่องยนต์ V8 Twin Turbo กำลังสูงสุด 666 แรงม้า เพิ่มขึ้น 16 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 306 กิโลเมตร/ชั่วโมง

มีให้เลือก 4 โหมดขับขี่ ประกอบด้วย

STRADA เน้นความสะดวกสบาย ได้ความนุ่มนวลเป็นพิเศษ

SPORT ตอบสนองได้ดุดันมากขึ้น เติมความสมดุลด้วยระบบเลี้ยวล้อหลังเพิ่มความคล่องตัวในความเร็วต่ำ และมั่นใจในความเร็วสูง

CORSA ให้อารมณ์คล้ายๆ SPORT+ คือสนุกและเร้าใจกว่าโหมด SPORT ขึ้นไปอีก และแน่นอนว่าระบบต่างๆ จะปรับอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมขั้นสูงสุด พร้อมพลังเสียงสุดกระหึ่มของท่อไอเสียแบบสปอร์ต

สุดท้าย RALLY ที่เพิ่มเข้ามาใหม่เพื่อความสนุกในการขับขี่แบบออฟโรด เสริมสมรรถนะด้วยเหล็กกันโคลงและตัวซับแรง ซึ่งปรับปรุงให้สอดรับกับการทำงานของสปริงแม้วิ่งบนพื้นผิวขรุขระหรือทุรกันดาน

สปริงออกแบบใหม่ช่วยให้โครงแชสซีของ Performante ต่ำลงอีก 20 ม.ม. เพิ่มความกว้างฐานล้อขึ้นอีก 16 ม.ม. เพิ่มความยาวตัวรถ 25 ม.ม.

ลัมโบร์กินี “Urus Performante” ราคาเริ่มต้น 25,490,000 บาท

ปิดท้ายเอาใจไบเกอร์ สาย 2 ล้อตัวลุยชื่อยาวเหยียด ฮอนด้า “New Rebel 500 special edition” รุ่น 80’s The Revolution

ปลุกตำนานบิ๊กไบก์สาย Custom สไตล์ Retro ยุค 80’s โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายใต้แนวคิด Express Yourself เท่ให้ถึงแก่น เผยตัวตนความดิบ ดุดัน

ผสานความเป็นคลาสสิคย้อนไปในยุค 80’s ด้วยลวดลายเส้นสายสะท้อนเอกลักษณ์ของยุค 80’s บนตัวถังน้ำมันสีดำ

ชุดอุปกรณ์แต่งแท้รอบคันด้วยคู่สีเงินและดำจาก H2C ไม่ว่าจะเป็นแฮนด์บาร์ ฝาปิดกระปุกน้ำมัน

ชุดล็อกหมวกกันน็อกสำหรับแฮนด์ของคิตาโกะ ขนาด 25.4 mm ครอบหม้อน้ำ โครงป้องกันเครื่อง

ชุดครอบเครื่องยนต์ด้านขวา ฝาปิดน้ำมันเครื่อง

พักเท้าแบบบอร์ด และหมวกปิดจุกลม

ไฟหน้าทรงกลมแบบ LED เช่นเดียวกับไฟท้ายและไฟเลี้ยว

ถังน้ำมัน 11.2 ลิตร ดีไซน์ใหม่

เบาะนั่งสีน้ำตาลให้ความรู้สึกคลาสสิคมากขึ้น

ล้อแม็กขอบ 16 นิ้ว รัดด้วยยาง Fat Bobber Tires ขนาดใหญ่ เอกลักษณ์เฉพาะของ Rebel

ยางหน้าขนาด 190/90 และด้านหลัง 150/80

ดิสก์เบรกหน้า-หลัง โดยด้านหน้าแบบเอบีเอส หรือป้องกันล้อล็อกด้วย

ความสูงจากพื้นถึงเบาะเพียง 690 มิลลิเมตร เหมาะกับสรีระคนไทยอย่างมาก

เครื่องยนต์ 500 ซีซี PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ

Rebel 500 special edition รุ่น 80’s The Revolution ราคาแนะนำ 249,900 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]