บทสรุป การขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์คนเดียว

สิ่งที่ผมไม่รู้มาก่อน เกี่ยวกับการขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์คนเดียว (จบ)

ในอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น เราบินกลับไปที่เมืองยะโฮร์บาห์รู แล้วเราก็ขี่เจ้าสองสูบจากยะโฮร์บาห์รูมาหาดใหญ่ โดยแวะที่กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ซึ่งเราชอบโรงแรมฮาร์ดร็อกที่ปีนังมาก

แล้วก็มาติดพายุอยู่ที่เมืองเก่าสงขลาอีกสองสามวัน ซึ่งก็ทำให้เราพบว่าเมืองเก่าสงขลามีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง

แล้วเราก็กลับบ้านอีกครั้ง โดยฝากเจ้าสองสูบไว้ที่ไทรอัมพ์หาดใหญ่ ที่ร้านของพี่จ๊อป แล้วก็บินกลับมาเชียงใหม่อีกครั้ง

สองสัปดาห์หลังจากนั้นเราก็บินกลับไปหาดใหญ่ ขี่เจ้าสองสูบสัมผัสสายลมจากหาดใหญ่ไปพัทลุง ตรัง กระบี่ แล้วจึงตัดสินใจจบทริปที่เมืองท้องทะเลชวนฝัน… ภูเก็ต

โดยส่งเจ้าสองสูบเสียงเพราะขึ้นรถกลับ ส่วนเราก็บินกลับ

โดยไม่รวมวันที่กลับมาพักที่บ้าน ทั้งทริปใช้เวลา 26 วัน กับระยะทาง 5,262.6 กิโลเมตร

ในอีกมุม อาจเป็นไปได้ที่ธุรกิจครอบครัวมาไกลมากแล้ว แค่คงเหมือนการเดินทางจากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์ 36.5 ก.ม. สุดท้าย จากระยะทาง 2,866.8 ก.ม. ถือเป็นระยะทางน้อยนิดที่ได้มายากที่สุด แต่ด้วยความอดทนบวกความพยายาม มันก็สำเร็จ

ความสมบูรณ์แบบของทริปการเดินทางจากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์ด้วยเจ้าสองสูบเสียงเพราะกับเจ้านายของมัน…มันมีอยู่จริงในโลกใบนี้หรือ?

ความสมบูรณ์แบบของธุรกิจครอบครัว… มันมีอยู่จริงในโลกใบนี้หรือ?

หากมันมีอยู่จริง เป็นหน้าที่ของพระเจ้าที่ต้องสร้างขึ้นมา หรือเป็นหน้าที่ของเราที่สร้างขึ้นมา หรือเป็นหน้าที่ของความขัดแย้ง…

หรือในความขัดแย้งเป็นวิถีแห่งธรรมชาติ ขณะที่เรากำลังมองหาความสมบูรณ์แบบ?

ด้วยความขัดแย้ง มันทำให้เราได้มาอยู่บนถนนที่งดงามที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด น่าจดจำที่สุดสายหนึ่งในทริปเหลือเชื่อทริปหนึ่ง

หรือบางที… มันคือความขัดแย้งที่เป็นความสมบูรณ์แบบของธุรกิจครอบครัว… ขัดแย้งเพราะทุกคนต่างก็หวังดี ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความรัก ทุกคนต่างก็พยายามออกแบบ พยายามคิดคำนวณ พยายามทำให้มันสมบูรณ์แบบ?

ความขัดแย้งเป็นเครื่องมือ ความรักเป็นเครื่องมือ ความพยายามเป็นเครื่องมือ

ทั้งหมดเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

พระเจ้ามีแผนของท่าน และท่านยังคงสนุกกับแผนของท่าน

ความขัดแย้งคงเป็นหนึ่งในความสนุกสนานของท่าน และถึงแม้ผมมั่นใจว่าแผนของท่านเปี่ยมด้วยความปรารถนาดี เป็นแผนที่วางไว้ด้วยสิ่งที่ดีที่สุด

เพียงบางครั้ง หลายครั้ง แผนของท่านนั้นลึกซึ้งเกินเข้าใจ

“ลูกเอ๋ย หนทางของเจ้านั้นข้าดูแลอยู่ เจ้าเพียงไม่เข้าใจ ดูสิ ชีวิตของเจ้านั้นมหัศจรรย์แค่ไหน…”

แต่บางที นี่กระมังที่เป็นความหมายของคำอวยพรจากภาพยนตร์อมตะ สตาร์วอร์ส

“May The Force Be With You”

“ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน”

ไม่ใช่ขัดแย้ง ทะเลาะกับพลัง แต่มั่นใจและศรัทธาในพลัง ดำเนินชีวิตลื่นไหลไปกับพลัง

พลังบางอย่างทำให้เราไปพบเจอคนไม่ธรรมดา และสร้างแรงบันดาลใจให้ทริปความฝันตั้งแต่วัยเด็กเป็นจริง

อันที่จริงตลอดทริปนั้นเป็นครั้งเดียวที่ฝรั่งท่านนั้นกลับรถเพื่อเข้าร้านกาแฟ ผมเป็นคนเดียวที่เขาทักทายก่อน ตลอดทั้งทริปของเขา มันเป็นพลังบางอย่างที่ทำให้เขาทำเช่นนั้น

พลังบางอย่างนำพาเรามาให้ผลักดัน รับผิดชอบธุรกิจครอบครัว

พลังบางอย่างนำพาให้เราได้ทำสิ่งที่ก่อนหน้านี้เพียงสองปียังคงเป็นเพียงฝันเฟื่อง

…พลังนั้นมีอยู่จริง…

ชีวิตถูกกำหนดไว้แล้วด้วยพลัง ด้วยพระประสงค์ของพระเจ้า หรือเราเป็นผู้กำหนดมันขึ้นมาเอง

แต่ไม่ว่ามันคือพลัง หรือมันคือความสนุกสนานของพระเจ้า หรือมันคือความขัดแย้ง มันก็ทำให้อีกความฝันหนึ่งสำเร็จ

ความฝันจะเขียนหนังสือดีๆ สักเล่ม

“ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน”

“May The Force Be with You”