‘หมอวาโย’ บอก ‘อนุทิน’ อยากทำตัวเป็นหมอ ก็ไปเรียนแพทย์ คนไทยซื้อกัญชาง่ายกว่าสุรา-บุหรี่อีก

‘หมอวาโย’ ตะเพิด ‘อนุทิน’ ถ้าอยากทำตัวเป็นหมอ ให้ไปเรียนแพทย์มาก่อน ยันสถานการณ์กัญชาในประเทศไทยตอนนี้ถือว่ามีความเสรีมากที่สุดในโลก ประชาชนหาซื้อกัญชาได้ง่ายกว่าสุรา-บุหรี่

เมื่อวันที่ 28 กันยายน นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปวิดีโอเด็กนักเรียนสูบกัญชาในห้องเรียนเผยแพร่เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า นี่เป็นภาพสะท้อนที่เห็นได้อย่างชัดเจน ต่อนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นไปเพื่อการแพทย์ หรือสันทนาการกันแน่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข กลับกล่าวอ้างอยู่ตลอดเวลาว่าที่ทำไปก็เพื่อผลประโยชน์ทางการแพทย์ อันดับแรกเลยที่ต้องพิจารณาคือตอนนี้กัญชามีผลประโยชน์อะไรต่อวงการแพทย์ไทยบ้าง เห็นมีแต่รายงานเคสจากกัญชาเพิ่มขึ้น คุณหมอออกมาบ่นกันรายวัน จนถึงขนาดลงชื่อกันเป็นพัน คนต่อต้านนโยบายดังกล่าว

นพ.วาโยกล่าวว่า ก่อนที่จะอ้างว่าจะเอากัญชามาใช้เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ จะต้องรู้ก่อนกว่าวงการแพทย์ต้องการอะไร ขาดแคลนยา หรือวิธีการรักษาอะไร และกัญชาสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้จริงหรือไม่ หรือรักษาโรคอะไรได้บ้าง การจะตอบคำถามนี้ได้ คนตอบควรจะต้องเป็นหมอ และการจะเป็นหมอได้ก็ต้องไปเรียนหมอให้จบและสอบใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้ผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนก่อน

นพ.วาโยกล่าวอีกว่า สถานการณ์กัญชาในประเทศไทยตอนนี้ถือว่ามีความเสรีมากที่สุดในโลก ประชาชนหาซื้อกัญชาได้ง่ายกว่าสุราและบุหรี่ สุรายังมีช่วงเวลาที่ถูกจำกัดการขาย ส่วนบุหรี่ไม่สามารถวางแสดงผลิตภัณฑ์ได้ ณ จุดจำหน่าย แต่ที่น่าอนาถจิตอนาถใจที่สุดคือเหล้ากับบุหรี่นี่คนขายไม่สามารถโฆษณาได้เลย แต่ประเทศไทยตอนนี้นี่ รมว.สาธารณสุขนำกระทรวงออกมาโปรโมตกัญชา นี่มันหนักกว่าเหล้าและบุหรี่อีก

“ถ้าจะขายกัญชากันจริงๆ อย่างน้อยมาตรฐานในการจำหน่ายมันต้องไม่ต่ำกว่าบุหรี่ และถ้าจะบอกว่าเอาไปใช้ในทางการแพทย์จริงๆ ก็ไม่ควรต่ำกว่ามาตรฐานของการควบคุมมอร์ฟีนที่ใช้ในทางการแพทย์ไหม มอร์ฟีนเนี่ยเวลานำเข้าก็ต้องผ่านกระทรวงสาธารณสุขหมด และโรงพยาบาลไหนจะซื้อก็ต้องขออนุญาตกระทรวงด้วย จะซื้อเท่าไหร่ จะเก็บไว้ในโรงพยาบาลเท่าไหร่ ต้องบอกกระทรวงและกระทรวงต้องรู้ ควบคุมได้ทั้งหมด

“เวลาหมอจะจ่ายยามอร์ฟีนให้คนไข้ หมอต้องเขียนบันทึกและรายงานโรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาลเก็บไปรายงานกระทรวงอีกทีด้วยว่าใช้ไปเท่าไหร่ กับใคร และเหลือคงค้างอยู่เท่าไหร่ อย่างน้อยก็ต้องแบบนี้

“อยากฝากไปถึงนายอนุทิน หรือที่เรียกตัวเองว่า หมอหนู และชอบมาให้ข้อมูลกัญชาทางการแพทย์แบบผิดๆ ว่าถ้าอยากทำตัวเป็นหมอให้ไปเรียนแพทย์มาก่อนออกนโยบายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน” นพ.วาโยกล่าว