จดหมาย

จดหมาย

 

• นโยบาย

ผมมองดูการเมืองปี 2566

เห็นน้ำเน่ายังมีเหมือนเดิม

น้ำดีก็มี

มองเห็นนักการเมืองเหมือนพระพุทธองค์ แบ่งคนไว้เป็นบัว 4 เหล่า

1) บัวใต้โคลนตม 2) บัวใต้น้ำ 3) บัวปริ่มน้ำ 4) บัวเหนือน้ำ

ผมเห็นด้วยกับนโยบายใหม่สุด (ที่ถูกโจมตีอย่างหนัก)

ฉลาดมาก คิดได้ยังไง สมแล้วกับที่กิจการสำเร็จ

คนเราต้องนึกเสมอ ถ้าไม่รู้ ไม่เข้าใจ ต้องศึกษาที่มาของภูมิปัญญา 4 อย่างคือ

ข้อมูล-DATA ข่าวสาร-INFORMATION ความรู้-KNOWLEDGE ตลกผลึกเป็นภูมิปัญญา WISDOM

อย่าโจมตีเพราะอคติ

ประชาชนเขารู้

ตะวันรอน

อ.ลอง จ.แพร่

 

ไม่ได้บอกมาว่าเป็น “นโยบาย” อะไร พรรคไหน

แต่ก็พอเดาออก

ว่า “ตะวันรอน” ต้องการจะสื่อถึงเรื่องไหน

แต่เรื่องใหม่ๆ บางทีก็ต้องอธิบายให้กระจ่าง

เพราะถ้าไม่กระจ่าง

ก็มีสิทธิที่จะถูกนำพาเข้ารกเข้าป่าได้

จากเรื่องที่ดูดี กลายเป็นอื่นได้ง่ายๆ

• ภาษีที่ดิน

ทุกวันนี้เราเห็นที่ดินใจกลางเมืองถูกนำมาใช้เพื่อการเกษตรอย่างมีเลศนัยมากมายเพื่อการหลีกเลี่ยงภาษี

ในความเป็นจริง จะแก้ปัญหานี้อย่างไร

มาดูกรณีศึกษาที่ดินของแกนนำสำคัญคนหนึ่งในรัฐบาลคนหนึ่ง

ว่าเขาเสียภาษีกันมากน้อยแค่ไหน

สมควรหรือไม่

แกนนำสำคัญในรัฐบาลผู้นี้ นำที่ดินของคุณพ่อ ขนาด 50 ไร่ 3 งาน 8 ตารางวา ได้ขายไปในราคา 600 ล้านบาท เมื่อปี 2557

คิดเป็นตารางวาละ 29,545 บาท หรือไร่ละ 11,818,003 บาท

แต่ราคาประเมินในปี 2557 เป็นเงินประมาณ 550 ล้านบาท (ราคาซื้อขายจริงกับราคาประเมินตามราคาตลาดไม่แตกต่างกันมากคือเพียง 9%)

ณ ปี 2566 ตามราคาประเมินใหม่ ราคาที่ดินตามราคาของกรมธนารักษ์ เป็นเงินรวม 340.4 ล้านบาท หรือไร่ละเพียง 6,704,160 บาท หรือตารางวาละ 16,760 บาทเท่านั้น

ซึ่งถือว่าต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายเมื่อ 9 ปีก่อนเป็นอย่างมาก

ในกรณีนี้ที่ดินแปลงดังกล่าวนี้ได้ทำการเกษตรโดยปลูกต้นไม้ ซึ่งเสียภาษี ณ อัตรา 0.01% ของราคาประเมินราชการ หรือเป็นเงินปีละ 34,037 บาท หรือเดือนละเพียง 2,836.4 บาท หรือเท่ากับเสียภาษีตารางวาละ 0.14 บาทต่อเดือน

ทั้งที่ในกรณีที่ดินจัดสรรในโครงการจัดสรร อาจเสียค่าส่วนกลางประมาณ 30 บาทต่อตารางวา

จึงนับว่าภาระภาษีในกรณีนี้น้อยมาก

อย่างไรก็ตาม หากที่ดินแปลงนี้ที่มีมูลค่าตามราคาประเมินราชการที่ 340.4 ล้านบาทนั้น หากเสียภาษีที่ดินว่างเปล่าที่ 0.3% ก็จะเป็นเงิน 102,111 บาท เท่ากับสามารถประหยัดภาษีไปได้ถึงเกือบ 1 แสนบาท (102,111 บาท – 34,037 บาท)

การนี้แสดงว่าการหลีกเลี่ยงภาษีด้วยการแสร้งทำการเกษตร

ทำให้ท้องถิ่นสูญเสียรายได้เพื่อนำมาพัฒนาท้องถิ่นเป็นอย่างมาก

บริษัทเจ้าของที่ดินควรเสียภาษีตามจริงเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่า

การที่กฎหมายเอื้อเจ้าของที่ดินนี้ ควรได้รับการแก้ไข

ยิ่งกว่านั้น ราคาที่ดินตามราคาตลาด ณ สิ้นปี 2565 ควรจะเป็นเงินประมาณ 800 ล้านบาท หรือ 39,393 บาทต่อตารางวา

ถ้ารัฐบาลจัดเก็บภาษีตามราคาตลาด ณ อัตรา 0.3% ก็จะเป็นเงิน 2.4 ล้านบาทต่อปี

แต่รัฐบาลไม่เก็บภาษีตามราคาตลาด แต่มุ่งเก็บภาษีตามราคาประเมินราชการ

ซึ่งถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเจ้าของที่ดินโดยเฉพาะผู้ที่มีที่ดินแปลงใหญ่ๆ

อาจมีความเป็นไปได้ที่มีชาวบ้านธรรมดาที่เป็นเกษตรกรดั้งเดิมที่บังเอิญครองที่ดิน 50 ไร่เศษ เป็นเงิน 800 ล้านบาท และหากต้องเสียภาษีนับล้านบาท อาจจะอ้างว่าตนเองไม่มีเงินเพียงพอที่จะเสียภาษี

ในกรณีเช่นนี้ แนะนำว่าเจ้าของที่ดินควรขายที่ดินของตนเองบางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งจะได้เงินมหาศาล เก็บกินใช้ตลอดชาติก็ไม่หมด

รัฐบาลควรให้การศึกษาแก่ประชาชนว่าการเสียภาษีเป็นหน้าที่พลเมืองที่สมควรจ่ายมากกว่าการบริจาคเงิน (เอาหน้า) เสียอีก

ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ การที่ราคาที่ดินเพิ่มจาก 550 ล้านบาทในปี 2557 เป็น 800 ล้านบาทในปี 2565 หรือ 8 ปีต่อมา หรือเฉลี่ยปีละ 4.8% นั้น

นับว่าที่ดินมีมูลค่าเพิ่มขึ้นพอสมควร

การที่จะต้องเสียภาษีปีละไม่ถึง 1% จึงนับว่าน้อยมาก

ยิ่งเสียภาษีมากขึ้นท้องถิ่นก็ยิ่งมีเงินเพียงพอที่จะพัฒนาสาธารณูปโภคให้ดีขึ้น ทำให้ราคาที่ดินกลับเพิ่มขึ้นไปอีก

ดังนั้น การเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจึงไม่ได้เป็นภาระ แต่กลับเป็น “การลงทุน” ที่ดีของเจ้าของที่ดินเองเสียอีก

จึงเสนอทางออกว่ารัฐบาลควรจัดเก็บภาษีตามราคาตลาดมากกว่าราคาประเมินราชการที่ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงโดยไม่นำพาต่อการ (แสร้ง) ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมหรือไม่

ทั้งนี้ ในกรณีที่ดินแปลงนี้ ราคาตลาดเป็นเงิน 800 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินราชการเป็นเงินเพียง 340.4 ล้านบาท หรือเพียง 42.55% ของราคาตลาดเท่านั้น และที่ดินในแต่ละแปลง ก็ไม่ได้มีสัดส่วนของราคาประเมินราชการกับราคาตลาดที่ใกล้เคียงกันแต่ประการใด

ดร.โสภณ พรโชคชัย

ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย

บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th)

 

เรื่องเอาที่ดินกลางเมือง

ไปปลูกกล้วย ปลูกมะนาว

อ้างทำเกษตร เพื่อเลี่ยงภาษี

เป็นสิ่งที่รู้และหยวนๆ กัน

กลายเป็นกรณีปัญหาแบบไทย-ไทย

ที่อือๆ อาๆ รอรัฐบาลใหม่มาแก้

อีกตามเคย •