ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 กรกฎาคม 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | จดหมาย |
เผยแพร่ |
จีที 200
เรื่องเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT 200 / สารเสพติดที่หน่วยงานรัฐจัดซื้อโดยเฉพาะกองทัพบก
น่าจะจบลงแบบนุ่มนวล
เหมือนกรณีอุทยานราชภักดิ์
หากคดี GT 200 นี้มีผิดก็คงไม่ใช่ฐานทุจริต
เพียงรู้เท่าไม่ถึงการณ์กระมัง?
คดีนี้มาเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อศาลอังกฤษพิจารณาตัดสินจำคุกผู้ผลิต และสั่งจ่ายชดเชยเงินแก่ผู้เสียหาย
ผมได้ฟังรายการวิทยุคลื่นหนึ่ง พูดเรื่องนี้น่าสนใจ
ผู้ดำเนินรายการให้ข้อมูลว่ากองทัพบกจัดซื้อเครื่องนี้โดยวิธีพิเศษ
ไม่ต้องเปิดประมูล
สังคมรับรู้มาว่าการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ คือช่องทางเปิดให้มีการทุจริตได้ง่าย
ยากต่อการตรวจสอบ การจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ของหน่วยงานภาครัฐ จึงถูกมองไปในทางทุจริต
เราคงต้องตั้งต้นข้อสงสัย
เริ่มจากเจ้ากระทรวง นักการเมือง หรือตัวแทนกับบริษัทพ่อค้า ร่วมสมคบกันหรือเปล่า?
ผู้มีอำนาจหรือใครสั่งการให้หน่วยงาน (ที่ประสงค์ใช้) ตั้งงบประมาณขึ้นมา
บริษัทผู้ค้าก็วิ่งเข้าหากระทรวง นำเสนอสเป๊ก คุยกับหัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ผมไม่รู้ว่ามีการอ้างชื่อผู้ใหญ่ หรือใคร ผู้มีอำนาจยุคนั้น เรื่องนี้ล็อบบี้กันเรียบร้อยแล้วครับ
เมื่อทุกอย่างราบรื่น งบประมาณประจำปีผ่าน การดำเนินการจัดซื้อเริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่จัดซื้อจะต้อง (ชง) เรื่องให้หัวหน้าหน่วยงานเพื่อขออนุมัติการจัดซื้อเครื่อง GT 200 โดยวิธีพิเศษ
การจัดซื้อตามระเบียบราชการนั้น มีผู้เกี่ยวข้องหลักๆ อยู่ 2 คณะ คือ คณะกรรมการจัดซื้อ กับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
เมื่อเรื่องนี้ชงกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าหน่วยงานไหนจะเอายี่ห้อ GT 200 ดังนั้น คณะกรรมการจัดซื้อก็ทำเรื่องขออนุมัติทำสัญญากับผู้ขาย
ส่วนคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ บางท่านย่อมรู้ดีว่าเครื่อง GT 200 ไม่มีประสิทธิภาพ แต่ทำไงได้ ในเมื่อทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่เซ็นรับงานก็คงอยู่ลำบาก
อนาคตราชการฝันถึง “นายพล” ก็ดับวูบ
เรื่องนี้ ใครคือผู้กำหนดที่จะเอา GT 200 ต่างหาก
ผู้อยู่เหนือขึ้นไปคือใคร ซึ่งสังคมคงแตะไม่ถึง
เรื่องนี้คงลงเอยด้วยคำว่า จบเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ผมเชื่อเช่นนี้กับสังคมไทยกับกระบวนการตรวจสอบผู้มีอำนาจและคนมีสี
พงษ์เทพ
อย่าเพิ่งไปสบประมาท ป.ป.ช. ถึงแม้การสอบสวนจะ “ยืด” และ “ยาว” แต่ก็รับปากแล้วว่าจะเสร็จในเดือนกันยายนนี้ รอดูผลสอบกันก่อนดีไหม “พงษ์เทพ” อาจผิดก็ได้นะ
บ.ก. ฝันกลางฤดูฝน รึเปล่าเนี่ย (ฮา)
จุดยืน
มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพเตือนผมด้วยความหวังดีว่า ผมมักพูดตีประยุทธ์ เลือกข้างทักษิณ ดูขาดความเป็นกลาง
เกรงผมจะได้รับผลร้าย
ผมจึงขออนุญาตแถลงให้กระจ่าง
จริงครับ ผมตีนโยบายของรัฐบาลประยุทธ์หลายเรื่อง
เช่น บ้านประชารัฐที่แก้ไม่ถูกจุด (http://bit.ly/299kZNj) การท่องเที่ยวที่สร้างภาพ (bit.ly/1XVVFwt) บ้านพักนายทหารที่แพงเกิน (4.25 ล้าน/หน่วย http://bit.ly/28SLzag) ถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาที่แสนสิ้นเปลือง (http://bit.ly/1VXvEO8) ฯลฯ
เพราะเป็นนโยบายที่ผิดพลาด จะสร้างความเสียหายต่อชาติ
แต่ผมไม่ได้สักแต่ค้าน ยังเสนอทางออกของปัญหาด้วยเสมอ
ในทางตรงกันข้าม ผมก็ยังค้านนโยบายของฝั่งเพื่อไทย เช่น
1. คัดค้านนโยบายบ้านเอื้ออาทรมาตั้งแต่ปี 2546 (http://bit.ly/29tOBTF) และคัดค้านมาตลอด
2. คัดค้านการให้ต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์ (http://bit.ly/29ioEr5)
3. คัดค้านการทำ Thailand Plaza ที่ถนน Fifth Avenue นิวยอร์ก (http://bit.ly/29cOYoT)
4. คัดค้านนโยบายบ้านหลังแรกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (http://bit.ly/296jHjx)
5. คัดค้านการที่เพื่อไทยคัดค้านการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (http://bit.ly/1LkP2MR) ฯลฯ
ยิ่งกว่านั้นในระหว่างที่มีผู้โจมตีประยุทธ์เรื่องขายที่ดินแพงเกินจริง
ผมในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สินยังไปประเมินค่าที่ดินแปลงดังกล่าวว่าขายได้สอดคล้องกับมูลค่าตลาดแล้ว (http://bit.ly/1RQgJzj) โดยไม่มีใครจ้าง
จะสังเกตได้ว่าผมค้านเฉพาะเรื่องที่กระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชน
ไม่ได้ค้านไปทุกเรื่อง
และแสดงความเห็นในฐานะนักวิชาการที่มีความรู้และกล้าแสดงออกโดยไม่กลัวภัย
เพราะผมไม่มีกองกำลัง
ไม่มีลับลมคมในกับฝ่ายใด
ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมือง
ไม่เคยไปร่วมชุมนุมกับฝ่ายใดทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
ผมประกาศชัดว่าผมไม่ยอมรับรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร
ผมยึดหลักการนี้มาตั้งแต่เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ขณะนั้นประยุทธ์ยังเป็นแค่นายร้อย
ผมไม่ยินดีรับลาภยศจากการแต่งตั้งโดยรัฐบาลแบบนี้อย่างแน่นอน
แต่ผมก็ยินดีเสนอแนะแนวทางที่สมควรโดยไม่ต้องจ้าง ผู้มีอำนาจอย่าได้ฟังคำใส่ร้ายของพวก Mr.Yes ที่เสพติดลาภยศ
ท่านจะไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับคนพวกนี้ที่รังแต่จะนำความเสื่อมมาให้
คนมีใจเป็นธรรม คงเห็นนะครับว่าผมกล้าแสดงออกในฐานะนักวิชาการที่เป็นกลางจริงๆ
ความน่าเชื่อถือของผมเกิดจากการแสดงออกนี้ ไม่ใช่เกิดจากการเชลียร์เพื่อหวังลาภยศ
ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th)
แยกแยะพร้อมแสดงจุดยืนมาหนักแน่นดังภูผา เช่นนี้ ไม่มีอะไรจะเพิ่มเติม นอกจาก “อำนวยอวยชัย”…โชคดีครับ