สุชาติ ชมกลิ่น… “ผมเป็นห่วงลุงตู่” | ปราปต์ บุนปาน

สัปดาห์ก่อน อ้างอิงถึงคำสัมภาษณ์ของ “วีระกร คำประกอบ” ส.ส.อาวุโสจากจังหวัดนครสวรรค์ ในฐานะนักการเมืองพรรคพลังประชารัฐ ที่ยืนยันชัดเจนว่าจะอยู่ข้าง “ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และจะไม่ย้ายตาม “ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไปพรรคการเมืองอื่น

สัปดาห์นี้ ขออนุญาตอ้างอิงคำสัมภาษณ์จากรายการ “The Politics ข่าวบ้านการเมือง” ทางช่องยูทูบมติชนทีวีอีกหน

ทว่า เป็นปากคำของ “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ที่เพิ่งยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารและ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ ผู้ประกาศหนักแน่นว่าตนเองจำเป็นต้องย้ายพรรคตาม “ลุงตู่”

“ผมมีภารกิจหรือความจำเป็นของผม ที่ผมจะต้องไปทำงานให้ผู้ใหญ่… ใจผมก็คือผมอยู่กับท่านนายกฯ เพราะผมก็ต้องเป็นห่วงท่าน ด้วยความรักและเคารพทั้งสองท่าน (พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร) มันก็เป็นอะไรที่ผมก็อึดอัดเหมือนกัน ไม่ใช่ผมจะตอบอะไรง่ายๆ”

นักการเมืองใหญ่แห่งจังหวัดชลบุรียอมรับว่าเขาลำบากใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ แต่ก็ยังยืนหยัดในแนวทางดังกล่าว

“ถ้าเกิดท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) ไปทำการเมืองตรงไหน ผมก็ต้องตามท่านไป ผมไม่ได้มองปลายทางคือพรรคไหน คือผมมองที่ตัวบุคคล”

สุชาติบอกว่า จริงๆ แล้ว เขารักทั้ง “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม” แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เขารู้สึก “เป็นห่วง” นายกรัฐมนตรีมากกว่า

“ผมก็รักลุงตู่ลุงป้อมถูกไหมครับ แต่ความเป็นห่วงเนี่ย ผมต้องยอมรับ ผมเป็นห่วงลุงตู่มาก แต่ลุงป้อม ไม่ใช่ผมไม่ได้ห่วงท่าน ท่านอยู่ในทางการเมือง ท่านก็อยู่ในระดับต้นๆ ระดับบนๆ อยู่แล้ว ท่านรู้การเมืองหมดแล้ว นักการเมืองที่อยู่รอบตัวท่านก็ระดับประเทศทั้งนั้น ตรงนี้ความห่วงมันก็ไม่ค่อยได้มี แต่รักน่ะรักเท่ากันอยู่แล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่น่ะ รักคนที่มีบุญคุณ

“แต่ถ้าให้เราเลือก ความรักมันเท่ากัน มันต้องเลือกความห่วง… สมมุติลุงตู่ต้องเดินไปข้างหน้าอีกทางหนึ่ง ผมก็ต้องเป็นห่วงลุงตู่ ถูกไหมครับ

“เพราะว่าที่ผ่านมา ท่านก็ไม่ได้ลงมาดูเรื่อง ส.ส.มาก ท่านไม่ได้มาจากพื้นฐานของนักการเมืองนักเลือกตั้ง ท่านมาทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมือง ท่านก็เป็นผู้ที่ทำงาน ก็ไม่ได้มีจุดด่างพร้อยอะไร แต่เรื่องการเมืองมันคนละหมวด หมวดบริหารประเทศชาติบ้านเมืองก็หมวดหนึ่ง แต่หมวดเลือกตั้งมันหมวดของการชุลมุนของนักเลือกตั้ง ผมก็เป็นห่วงตรงนั้นมากกว่า”

อย่างไรก็ดี รมว.แรงงาน เป็นอีกคนที่อธิบายความว่าพรรคพลังประชารัฐและ “พรรคของลุงตู่” นั้นคงมิได้เป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน

“ในทางประชาธิปไตยหรือทางการเมือง ผมจะพูดไม่ได้หรอกครับว่า มันเป็นพรรค ‘แยกกันเดินรวมกันตี’ แต่เป็นพรรคที่ไม่ได้ทะเลาะกัน นึกออกไหมครับ เป็นพี่กับน้อง ผมเชื่อ ลุงตู่-ลุงป้อมเขารักกันมาก แต่ทางวิถีทางการเมือง มันก็มีบริบท-สถานการณ์บางอย่าง มันก็มีเหตุมีความจำเป็น (ที่ต้องแยกพรรคกัน)”

เช่นเดียวกับสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐมนตรีสุชาติกับบรรดา “เพื่อน ส.ส.” ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะ “ย้าย” หรือ “ไม่ย้าย” พรรคตามเขามาก็ตาม

“ผมเรียนตรงๆ ผมไม่ชวนใครมาทั้งสิ้น นอกจากเขาเป็นห่วงผมต่อ ผมก็มีเพื่อนที่ร่วมอุดมการณ์กันมา เขาก็เป็นห่วงผมไม่ใช่น้อย ถ้าผมออกมาช่วยผู้หลักผู้ใหญ่หรือคนที่ผมให้ความรักและความห่วงใย เพื่อนผมก็ห่วงผมเหมือนกันหลายคน

“แต่ผมก็บอกเพื่อนว่าผมก็ห่วงเพื่อนเหมือนกัน เอา (พรรค) ที่ว่าเพื่อนอยู่แล้วเป็นผู้แทนฯ ได้ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ไอ้ตัวผมเนี่ยไม่เป็นไร ถ้าใครคิดว่าสามารถที่จะผ่านด่านได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แล้วเป็นห่วงผม ผมก็ยินดีรับน้ำใจเพื่อนอันนี้ แต่เพื่อนคนไหนที่คิดว่าพื้นที่มันเหนื่อยอึดอัด ไม่เป็นไรเราอยู่คนละพรรคได้ เราเพื่อนกัน…

“มีเพื่อนหลายคนที่อยู่ด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้มาหรือจะมาช่วยผม ก็มี เมื่อคืนก็โทร.คุยกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ก็บอกว่าตามสบายเลยนะเพื่อน เรามันพวกกัน พี่น้องกัน อยู่ตรงไหนก็เพื่อนกัน ขอให้เพื่อนผ่านมาให้ได้แล้วกันรอบหน้า เราก็ยังไง ก็มาเจอกันในสภา”

(Photo by Jack TAYLOR / AFP)

ท้ายสุด อดีต ผอ.พรรคพลังประชารัฐ ยืนกรานว่ายิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ “เหลือเวลาน้อย” ในทางการเมือง คนอย่างเขาก็ยิ่งต้องติดตามไปช่วยดูแล “ลุงตู่” ให้ถึงที่สุด

“ในทางการเมืองมีคนถามผมว่า ถ้าออกมา ถ้าเกิดลุงตู่อยู่แค่สองปี แล้วผมจะมาทำไม? เวลาลุงตู่เหลือน้อยแล้ว ผมขอตอบเลยนะครับว่า ยิ่งเวลาเหลือน้อย เรายิ่งต้องออกไปช่วยคนที่เรารักและห่วงใยเขา ถ้าเราไม่ตามไปช่วยในเวลาเหลือน้อย เราจะแสดงความรักตอนไหน? แล้วเราจะเป็นคนยังไง? คนที่ไหนจะมาคบกับเรา?…

“ผมถามคุณว่า (ถ้า) มีคนที่รักและห่วงเหลือเวลาน้อย คุณจะทิ้งเขาหรือคุณจะไปดูแลเขาให้ดีที่สุด?… ถ้าเราไปทิ้งเขา เขาจะมองคุณเป็นคนยังไง? เขาดูแลคุณ รักคุณ แล้วก็มีบุญคุณกับคุณ แล้วอยู่ๆ คุณมาบอกว่าผมไม่ไปนะท่าน ท่านเหลือเวลาน้อย โอ้โห! อย่างนี้ในทางวิถีชีวิต นี่ไม่มีใครคบด้วยแล้วนะ”