ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 สิงหาคม - 2 กันยายน 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
ของดีมีอยู่
ปราปต์ บุนปาน
“เศรษฐา ทวีสิน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เพิ่งมาร่วมสนทนาในหัวข้อ “สู่วันใหม่ปลายอุโมงค์ กับเศรษฐา ทวีสิน” อันเป็นกิจกรรมหนึ่งของงาน “Healthcare 2021 วัคซีนฉีดประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยเครือมติชน
ผู้สนใจรับชมคลิปบันทึกการสนทนาฉบับเต็ม สามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง “มติชนทีวี”
ขณะที่ในพื้นที่นี้ จะขออนุญาตนำข้อสังเกต-ทัศนะบางส่วนของเศรษฐามาเผยแพร่ให้ได้อ่านกันในฉบับตัวอักษร เป็นการเรียกน้ำย่อย
ดังนี้
“ต้องยอมรับว่าเหนื่อยนะครับ ถ้าเกิดจะพูดตรงไปตรงมาก็มีความรู้สึกว่าท้อกับสถานการณ์ปัจจุบันพอสมควร…
“(ปีครึ่งที่ผ่านมา) หนักกันทุกกลุ่ม ถ้าเกิดลองไปถามหลายคนว่าย้อนเวลาไป 18 เดือนที่แล้วที่เรามีโควิดเกิดขึ้นใหม่ๆ แล้วเราก็หมุนเร็วกลับมา 18 เดือนตรงนี้ แล้วมานั่งอยู่ตรงนี้ เราจะคิดเหรอว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้อีก 18 เดือนให้หลังจากที่มีโรคระบาด?
“ผมว่าต่อให้คนที่มองโลกในแง่ร้ายที่สุด ก็ไม่คิดว่าเราจะอยู่ในสภาพที่เลวร้ายขนาดนี้ มีคนป่วยเป็นโควิดวันละสองหมื่น แล้วก็เสียชีวิตสองร้อย แล้วก็สภาพเศรษฐกิจ สภาพการจ้างงานอะไรหลายๆ อย่าง มันเหนือความคาดหมายในแง่ลบ
“ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์การเมืองที่เลวร้ายลงทุกวัน…”
“ก่อนอื่นเราต้องมีความชัดเจนในเรื่องของวัคซีนที่จะได้รับ ผมก็ยังเห็นด้วยกับทางรัฐบาลที่บอกว่าวัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เร็วที่สุด วัคซีนแต่ละชนิดก็มีสมรรถภาพต่างกันไป เข้าใจครับ แต่ถ้าเกิดได้ซิโนแวคมา ซิโนฟาร์มมาก็ต้องเอา เพราะถ้าฉีดไปแล้วก็บรรเทาการติดเชื้อได้ บรรเทาความรุนแรงได้ บรรเทาการเสียชีวิตได้…
“เรื่องของ 100 วันอันตราย มันก็อยู่ที่สิ้นเดือนพฤศจิกายน ปลายระยะทางผมเชื่อว่าอาจจะมีเชื้อโรคสายพันธุ์อื่นอีกเยอะแยะเต็มไปหมด เรื่องของการซื้อ (วัคซีน) เข็มสามของรัฐบาลก็สำคัญ วันนี้อย่ามัวแต่พะวงว่าเราจะได้เข็มหนึ่งเข็มสองเมื่อไหร่ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ต้องจัดหา ‘บูสเตอร์ช็อต’ มาให้เราเตรียมพร้อมไว้ก่อนเลย
“ไม่งั้นเราก็จะอยู่ในวงเวียนอย่างนี้ คือจะตามหลัง (สถานการณ์) ตลอดเวลา ถ้าเกิดได้มาสองช็อตแล้ว สายพันธุ์ใหม่มาก็ไม่มีวัคซีนอีก ก็กลับไปเรื่องเดิมอีก ต่อให้เยียวยาเศรษฐกิจมากขนาดไหนอย่างไรก็ตามที
“ก็ไม่สามารถหลุดพ้นออกมาจากวงจรอุบาทว์นี้ได้”
“วันนี้เราก็ต้องมองควบคู่กันไป ในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศ ถ้าเกิดท่านนายกฯ มัวแต่พะวงเรื่องวัคซีนอย่างเดียว ผมเชื่อว่ามันก็อาจไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ท่านต้องดูเรื่องเศรษฐกิจด้วย ต้องมองข้ามช็อตไปด้วยว่าถ้าเกิดเดือนมกราคม เราฉีดวัคซีนร้อยล้านโดสแล้ว 65-75 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร การท่องเที่ยวเปิดกลับมาได้ มีสายการบินบินเข้ามาไหม?
“นกแอร์เป็นยังไง แอร์เอเชียเป็นยังไง การบินไทยเป็นยังไง บางกอกแอร์เวย์สเป็นยังไง แข็งแรงพอที่จะเป็นสายการบินที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาได้หรือเปล่า? คนที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องของวงการท่องเที่ยวจะอยู่ไปได้ถึงวันนั้นหรือเปล่า? วันนี้เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผมว่าถือเป็นเรื่องสำคัญเท่าๆ กับเรื่องของวัคซีนเลย
“เมื่อวานนี้เห็นว่าสัมภาษณ์ท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีกำลังใจขึ้นมาว่าน่าจะกู้เงินอีกสักล้านล้าน (บาท) ไปเยียวยา ท่านก็ถูกถามบอกว่าอย่างนี้จะทำให้อัตราหนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงขึ้นไปหรือเปล่า มันจะนำประเทศไปสู่หายนะหรือเปล่า ท่านก็ตอบดีว่าถ้าเกิดไม่กู้มันจะแย่กว่านี้อีก แต่กู้มาก็ต้องใช้ให้ถูกทางด้วย
“แต่วันนี้ก็หมดหวังไปอีกหน่อยนึง ก็เศร้าไปอีกหน่อยนึง เพราะท่านรัฐมนตรีคลัง ท่านอาคมบอกว่าไม่จำเป็นต้องกู้ ผมว่ามันก็เป็นอะไรที่ ผู้นำต้องเด็ดเดี่ยวครับ ต้องเด็ดขาด เป็นหน้าที่ท่านนายกฯ ต้องออกมาสั่ง จะทำไม่ทำ จะกู้ไม่กู้
“จะปล่อยให้ลูกหาบมาเล่นละครรายวันไม่ได้หรอก”