ฐากูร บุนปาน | เป็นเรื่องควรโกรธและต้องโกรธ

เป็นเรื่องควรโกรธและต้องโกรธ

กับ “ท่าที” ของรัฐบาลในการรับมือไข้หวัดอู่ฮั่นครั้งนี้

ที่ออกทีวีรวมการเฉพาะกิจ (พูดคนเดียว) ก็พอใช้ได้อยู่หรอก

ระบบคัดกรองและรักษาผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุขก็ยังอยู่ในระดับที่น่าชมเชย (แต่ก็อยู่แค่กระทรวงเดียว และเป็นปลายทางคอยตั้งรับด้วย ส่วนอื่นๆ เช่นกัน จำกัดนักท่องเที่ยวจากแหล่งต้นตอยังไม่ทำ อาจจะเพราะเสียดายเงิน)

แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตและความเป็นความตาย

มันย่อมต้องมีข้อวิตกกังวล มีความสงสัย มีความไม่มั่นใจ ไม่เชื่อใจ เป็นปกติตามธรรมชาติอยู่แล้ว

คนเป็นรัฐบาลนอกจากจะต้องจัดการกับตัวปัญหา

แล้วยังต้องสร้างความเชื่อมั่น ขจัดปัดเป่าข้อสงสัยหรือความไม่เข้าใจของคนส่วนใหญ่ (ที่ไม่ได้เข้าถึงข้อมูลวงใน ซึ่งอาจจะกลวงโบ๋) แบบพวกท่าน

นี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบนะครับ

แค่รัฐมนตรีเล่นโซเชียลแล้วทำให้คนวิตกกังวล เกิดความเครียดมากขึ้น

นี่ก็ผิดแล้ว

ยังดีที่กลับตัวไว ไม่ทำอะไรที่เหมือนราดน้ำมันใส่กองไฟอีก

ส่วนเรื่อง”เตรียมการมาตั้งเดือน”อะไรนั่น

เข้าใจได้

ว่าเป็นเรื่องของความปากไว เป็นอีโก้ของคนที่เชื่อมั่นตัวเองว่าฉลาดเก่งกาจไปหมดทุกเรื่อง

แต่เมื่อไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน

ก็หยวนๆ กันไป

เอาไว้อำกันขำๆ เล่นก็พอ

แต่สองกรณีหลังนี่เป็นเรื่องรับไม่ได้

และถ้าไม่จัดการแก้ไขอะไรก็จะเป็น “ตราบาป” ติดตัวต่อไปอีกนาน

เรื่องแรกคือกรณีที่มีนักข่าวถามนายกรัฐมนตรีว่า จะสามารถไปรับคนไทยที่ตกค้างในอู่ฮั่นและในประเทศจีนได้เมื่อไหร่-อย่างไร

แทนที่จะตอบอย่างมีสติแบบที่ทำในตอนหลัง

ว่าการจะเอาเครื่องบินรับคนข้ามประเทศ จะต้องมีการติดต่อประสานงาน จะต้องได้รับอนุญาตจากประเทศปลายทางก่อน

ผ่าโพล่งตอบในทันใดว่า ไม่เห็นมีใครอยากกลับ ไม่เห็นมีใครติดต่อสถานทูตมา

???

ตอบเหมือนไม่เคยมีใครไปกระซิบหรือรายงานว่า

คนไทยที่ติดอยู่ที่อู่ฮั่นจำนวนไม่น้อย พยายามดิ้นรนหาทางจะกลับบ้านให้ได้

แต่กลับไม่ได้

ถึงขนาดมีคลิปของคนที่ติดต่อไปสถานกงสุล

แล้วได้รับคำตอบว่าช่วยอะไรไม่ได้

ให้พยายามไปหาเครื่องบินกลับเอาเอง!!

ยังไม่นับข่าวของคนอื่นกลุ่มอื่นที่สื่อในไทยนี่แหละรายงานกันอย่างอื้ออึง

โดยเฉพาะที่มีรายงานมาก่อนหน้าว่าสถานกงสุลระบุเองว่า ยังไม่มีคำสั่งใดๆ จากรัฐบาลมาถึง

เข้าใจว่าคงรู้ว่าพลาดอยู่เหมือนกัน

อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โฆษกรัฐบาลถึงต้องออกมาแก้ตัวให้

ว่าพร้อมไปรับคนที่อยากกลับบ้าน รอแค่ทางการจีนอนุมัติเท่านั้น

แต่ก็ช้าไปแล้ว

เท่านั้นยังไม่พอ

อีกวันหนึ่งยังมีข่าวว่าคณะนายทหารเรือที่ไปดูการต่อเรือดำน้ำจีนที่อู่ฮั่น กลับถึงประเทศไทยแล้วโดยปลอดภัย

ด้านหนึ่ง คนก็ดีใจที่คนไทยด้วยกันไม่เป็นอะไร

แต่อีกด้าน คนก็ตั้งข้อสงสัยว่าถ้ากลุ่มนี้ที่อยู่ถึงขนาดใจกลางของต้นตอโรคระบาดยังกลับมาได้

คนอื่นทำไมยังกลับไม่ได้

จะบอกว่าคณะนี้กลับมาโดยเครื่องบินพาณิชย์

แต่ถามจริงๆ เถอะว่า ถ้าไม่มีกลไก เส้นสายของราชการช่วยเหลือติดต่อ

จะสามารถเดินทางออกมาได้เร็วอย่างนี้หรือไม่

และถ้าช่วยพวกหนึ่งได้ ทำไมไม่ช่วยที่เหลือ

หรืออย่างน้อยก็ต้องแสดงให้เห็น “ความพยายาม” ว่า ได้ลงมือทำงานเต็มที่เต็มกำลังแล้ว

อย่างที่บอกละครับ ว่านี่เรื่องของชีวิตและความเป็นความตาย

ผิดพลาดบกพร่องไม่ได้

เสียหายเรื่องหนึ่งก็พาลจะทำให้เรื่องที่อุตส่าห์ทำดีอื่นๆ ทั้งหลายเสียหายไปด้วยหมด

รัฐบาลเสียหายน่ะไม่เท่าไหร่

แต่ทำให้สังคมระส่ำระสายในยามที่ต้องการความมั่นใจ

มันเสียหายเสียยิ่งกว่า