ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2562 - 2 มกราคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
โลกนี้ (และประเทศนี้) ในปีหน้า
ร้อยละ 80 ของข้อมูลที่เอามาเขียนนี้ สรุปรวมๆ มาจากหนังสือ The World in 2020 ของ The Economist
ใครสนใจหารายละเอียด (ที่สนุกกว่าสรุป) มาอ่าน ไปตามซื้อในร้านหนังสือได้ครับ
ส่วนอีกร้อยละ 20 โดยประมาณนั้นด้นเอาเอง
เชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง อ่านแล้วคิดค้าน-ตั้งคำถามในใจเอาไว้ด้วย
เขาสรุปแนวโน้มของโลกในปีหน้าเอาไว้สิบกว่าข้อ
ดังนี้ครับ
#ปีของการชี้ชะตา
เลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาจะมาถึงปลายปี Economist บอกว่าโดยการคำนวณของ AI โดนัลด์ ทรัมป์ จะแพ้
เบร็กซิทจะทำให้อังกฤษแตกแยก เละเทะ ถึงขั้นหลุดจากแผนที่โลกได้
#งัดข้อกับเศรษฐกิจติดลบ
สถาบันการเงิน-โดยเฉพาะในยุโรป ต้องหาทางรับมือกับ “ดอกเบี้ยติดลบ” ให้ได้
เศรษฐกิจสหรัฐไต่ลวดอยู่บนปากเหว
แต่โลกยังไม่ถึงจุดหายนะ
#จีนยิ่งทะยาน
ประเทศอื่นๆ พึงเตรียมตัวว่าจะ “ส่งส่วยสองฝั่งฟ้า”-ทั้งเรื่องการค้าและเทคโนโลยี ระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างไร
#ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ยิ่งหนักข้อ
ความกังวลในเรื่องการแข่งขันด้านแสนยานุภาพทางทหารขยายตัว
และยังไม่มีแนวโน้มเรื่องข้อตกลงเรื่องการควบคุมอาวุธ
# “ความยั่งยืน” ยังอยู่ห่างไกล
การประชุมและเจรจาทั้งหลาย มีผลสรุปว่า-ได้พูด
ธุรกิจใหญ่น้อยยังชูธงเรื่องความยั่งยืน-ตราบเท่าที่ผู้ถือหุ้นไม่ขวาง
#กลุ่มประเทศอ่าวเปิดตัวสู่โลก
ดูไบจะเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป
ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอด G20
#แข่งกันไปดาวอังคาร
มีสหรัฐ ยุโรป จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (?) อยู่ในลู่
(ส่วนบางประเทศไปถึงดาวอังคารแล้ว โดยใช้น้ำลายเป็นพาหนะ-555)
#ด้านบวกและลบของเทคโนโลยี
บวกได้แก่ แท็กซี่ลอยฟ้า รถไฟฟ้าระดับซูเปอร์คาร์ และการแพทย์ชนิดเจาะจงรายบุคคล
ลบก็ได้แก่ บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีจะถูกตรวจสอบเข้มข้นขึ้น เสียภาษีมากขึ้น และถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น
#ปีแห่งการครบรอบสำคัญๆ
ครบรอบ 500 ปี การเสียชีวิตของราฟาเอล จิตรกรลือชื่อ
ครบรอบ 400 ปี เรือเมย์ฟลาวเวอร์เทียบท่าอเมริกา
ครบรอบ 300 ปี กรณีเซาท์ ซี บับเบิล (ในปี 1720 เพื่อใช้หนี้ที่ทำสงครามกับฝรั่งเศสจำนวน 7 ล้านปอนด์ รัฐสภาอังกฤษผ่านกฎหมายยอมให้บริษัทเซาท์ ซี ผูกขาดการค้าทั้งหมดของอังกฤษในแอฟริกาใต้ อันเป็นกรณีที่ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง)
ครบรอบ 250 ปี บีโธเฟ่น (นัยว่าจะมีการฉลอง-รำลึกกันในหลายประเทศ)
ครบรอบ 200 ปี ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (สหประชาชาติประกาศให้ 2020 เป็นปีแห่งนางพยาบาล)
ครบรอบ 100 ปี กฎหมายควบคุมเหล้าในสหรัฐ (ที่ทำให้เกิดยุคมาเฟียครองเมืองเพราะการค้าเหล้าเถื่อน)
ครบรอบ 75 ปี การทิ้งระเบิดปรมาณูฮิโรชิมา-นางาซากิ และการก่อตั้งสหประชาชาติ
และครบรอบ 50 ปี ของการแยกวง “บีตเทิลส์”
#สตรีมมิ่งครองตลาดบันเทิง
สตรีมมิ่งในอินเตอร์เน็ตขึ้นมาเบียดรายการบันเทิงในทีวีชัดเจน
ธุรกิจสตรีมมิ่งก็แข่งกันดุเดือด เมื่อดิสนีย์ลงตลาดชนเน็ตฟลิกซ์
#เริ่มต้นทศวรรษของ Yold
หรือเหล่า young old
เพราะจะเป็นปีที่เด็กในยุค Baby Boomer จะอายุ 65
และอายุเฉลี่ยของประชากรโลกจะมากกว่า 30 ปีเป็นครั้งแรก
World in 2020 พูดถึงไทยไว้ติ่งเดียว ในพยากรณ์เศรษฐกิจประเทศต่างๆ ในโลกปีหน้า
โดยคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีหน้าของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.1 เท่านั้น
เพราะ
รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังใช้หลังพิงกองทัพและวุฒิสมาชิกที่ตัวเองแต่งตั้งเข้ามา ผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
แต่เศรษฐกิจจะยังชะลอตัว เพราะการส่งออกและการบริโภคในประเทศยังทรุด
การเผชิญหน้าทางการเมืองจะดุเดือดขึ้น
จีนจะมีบทบาททั้งเรื่องเศรษฐกิจและการทูตในไทยมากขึ้น
คราวนี้ก็ถึงรอบของหมอเดา
ที่ขอเสริมสั้นๆ แค่ไม่กี่ประเด็นว่า
#เศรษฐกิจปีหน้าทรุดหนักกว่าปีนี้
เพราะความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวของรัฐบาล ทำให้นโยบายกระจัดกระจาย
นโยบายบาทแข็งของแบงก์ชาติร้ายกาจยิ่งกว่า 3 สารพิษ เพราะฆ่าหมดทั้งส่งออก ท่องเที่ยว และการเกษตร
#ความเหลื่อมล้ำที่สูงขึ้นบ่มความเกลียดชังหมั่นไส้กันในสังคมมากขึ้น
ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมครับ เขียนมาหลายหนแล้ว
#การเผชิญหน้าทางการเมืองจะดุเดือดขึ้น
ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเช่นกัน ทุกท่านรู้อยู่แก่ใจ
มีหมายเหตุนิดเดียวว่า ตัวเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งลุกโชนขึ้น คือ “ภาวะสองมาตรฐานทางกฎหมาย”
สุดท้าย-ไม่เชื่อก็ฟังไว้ติดหูเป็นเรื่องสนุกนะครับ
#ดวงเมือง
ปลายปีหน้า ดาวทั้งหลายจะมาทำมุมกันเหมือนปี 2325 และ 2475
เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกันไว้เนิ่นๆ
ขออนุญาตสวัสดีปีใหม่ตรงนี้ครับ