ฐากูร บุนปาน | โลกนี้ (และประเทศนี้) ในปีหน้า

โลกนี้ (และประเทศนี้) ในปีหน้า

ร้อยละ 80 ของข้อมูลที่เอามาเขียนนี้ สรุปรวมๆ มาจากหนังสือ The World in 2020 ของ The Economist

ใครสนใจหารายละเอียด (ที่สนุกกว่าสรุป) มาอ่าน ไปตามซื้อในร้านหนังสือได้ครับ

ส่วนอีกร้อยละ 20 โดยประมาณนั้นด้นเอาเอง

เชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง อ่านแล้วคิดค้าน-ตั้งคำถามในใจเอาไว้ด้วย

เขาสรุปแนวโน้มของโลกในปีหน้าเอาไว้สิบกว่าข้อ

ดังนี้ครับ

#ปีของการชี้ชะตา

เลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาจะมาถึงปลายปี Economist บอกว่าโดยการคำนวณของ AI โดนัลด์ ทรัมป์ จะแพ้

เบร็กซิทจะทำให้อังกฤษแตกแยก เละเทะ ถึงขั้นหลุดจากแผนที่โลกได้

#งัดข้อกับเศรษฐกิจติดลบ

สถาบันการเงิน-โดยเฉพาะในยุโรป ต้องหาทางรับมือกับ “ดอกเบี้ยติดลบ” ให้ได้

เศรษฐกิจสหรัฐไต่ลวดอยู่บนปากเหว

แต่โลกยังไม่ถึงจุดหายนะ

#จีนยิ่งทะยาน

ประเทศอื่นๆ พึงเตรียมตัวว่าจะ “ส่งส่วยสองฝั่งฟ้า”-ทั้งเรื่องการค้าและเทคโนโลยี ระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างไร

#ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ยิ่งหนักข้อ

ความกังวลในเรื่องการแข่งขันด้านแสนยานุภาพทางทหารขยายตัว

และยังไม่มีแนวโน้มเรื่องข้อตกลงเรื่องการควบคุมอาวุธ

# “ความยั่งยืน” ยังอยู่ห่างไกล

การประชุมและเจรจาทั้งหลาย มีผลสรุปว่า-ได้พูด

ธุรกิจใหญ่น้อยยังชูธงเรื่องความยั่งยืน-ตราบเท่าที่ผู้ถือหุ้นไม่ขวาง

#กลุ่มประเทศอ่าวเปิดตัวสู่โลก

ดูไบจะเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป

ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอด G20

#แข่งกันไปดาวอังคาร

มีสหรัฐ ยุโรป จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (?) อยู่ในลู่

(ส่วนบางประเทศไปถึงดาวอังคารแล้ว โดยใช้น้ำลายเป็นพาหนะ-555)

#ด้านบวกและลบของเทคโนโลยี

บวกได้แก่ แท็กซี่ลอยฟ้า รถไฟฟ้าระดับซูเปอร์คาร์ และการแพทย์ชนิดเจาะจงรายบุคคล

ลบก็ได้แก่ บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีจะถูกตรวจสอบเข้มข้นขึ้น เสียภาษีมากขึ้น และถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น

#ปีแห่งการครบรอบสำคัญๆ

ครบรอบ 500 ปี การเสียชีวิตของราฟาเอล จิตรกรลือชื่อ

ครบรอบ 400 ปี เรือเมย์ฟลาวเวอร์เทียบท่าอเมริกา

ครบรอบ 300 ปี กรณีเซาท์ ซี บับเบิล (ในปี 1720 เพื่อใช้หนี้ที่ทำสงครามกับฝรั่งเศสจำนวน 7 ล้านปอนด์ รัฐสภาอังกฤษผ่านกฎหมายยอมให้บริษัทเซาท์ ซี ผูกขาดการค้าทั้งหมดของอังกฤษในแอฟริกาใต้ อันเป็นกรณีที่ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง)

ครบรอบ 250 ปี บีโธเฟ่น (นัยว่าจะมีการฉลอง-รำลึกกันในหลายประเทศ)

ครบรอบ 200 ปี ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (สหประชาชาติประกาศให้ 2020 เป็นปีแห่งนางพยาบาล)

ครบรอบ 100 ปี กฎหมายควบคุมเหล้าในสหรัฐ (ที่ทำให้เกิดยุคมาเฟียครองเมืองเพราะการค้าเหล้าเถื่อน)

ครบรอบ 75 ปี การทิ้งระเบิดปรมาณูฮิโรชิมา-นางาซากิ และการก่อตั้งสหประชาชาติ

และครบรอบ 50 ปี ของการแยกวง “บีตเทิลส์”

#สตรีมมิ่งครองตลาดบันเทิง

สตรีมมิ่งในอินเตอร์เน็ตขึ้นมาเบียดรายการบันเทิงในทีวีชัดเจน

ธุรกิจสตรีมมิ่งก็แข่งกันดุเดือด เมื่อดิสนีย์ลงตลาดชนเน็ตฟลิกซ์

#เริ่มต้นทศวรรษของ Yold

หรือเหล่า young old

เพราะจะเป็นปีที่เด็กในยุค Baby Boomer จะอายุ 65

และอายุเฉลี่ยของประชากรโลกจะมากกว่า 30 ปีเป็นครั้งแรก

World in 2020 พูดถึงไทยไว้ติ่งเดียว ในพยากรณ์เศรษฐกิจประเทศต่างๆ ในโลกปีหน้า

โดยคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีหน้าของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.1 เท่านั้น

เพราะ

รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังใช้หลังพิงกองทัพและวุฒิสมาชิกที่ตัวเองแต่งตั้งเข้ามา ผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

แต่เศรษฐกิจจะยังชะลอตัว เพราะการส่งออกและการบริโภคในประเทศยังทรุด

การเผชิญหน้าทางการเมืองจะดุเดือดขึ้น

จีนจะมีบทบาททั้งเรื่องเศรษฐกิจและการทูตในไทยมากขึ้น

คราวนี้ก็ถึงรอบของหมอเดา

ที่ขอเสริมสั้นๆ แค่ไม่กี่ประเด็นว่า

#เศรษฐกิจปีหน้าทรุดหนักกว่าปีนี้

เพราะความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวของรัฐบาล ทำให้นโยบายกระจัดกระจาย

นโยบายบาทแข็งของแบงก์ชาติร้ายกาจยิ่งกว่า 3 สารพิษ เพราะฆ่าหมดทั้งส่งออก ท่องเที่ยว และการเกษตร

#ความเหลื่อมล้ำที่สูงขึ้นบ่มความเกลียดชังหมั่นไส้กันในสังคมมากขึ้น

ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมครับ เขียนมาหลายหนแล้ว

#การเผชิญหน้าทางการเมืองจะดุเดือดขึ้น

ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเช่นกัน ทุกท่านรู้อยู่แก่ใจ

มีหมายเหตุนิดเดียวว่า ตัวเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งลุกโชนขึ้น คือ “ภาวะสองมาตรฐานทางกฎหมาย”

สุดท้าย-ไม่เชื่อก็ฟังไว้ติดหูเป็นเรื่องสนุกนะครับ

#ดวงเมือง

ปลายปีหน้า ดาวทั้งหลายจะมาทำมุมกันเหมือนปี 2325 และ 2475

เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกันไว้เนิ่นๆ

ขออนุญาตสวัสดีปีใหม่ตรงนี้ครับ