โลกนี้อยู่ยากครับสำหรับคน “อยู่ไม่เป็น”

เพราะฉะนั้น ไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมขณะที่มีคนนิยมชื่นชมพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะอย่างล้นหลาม

ก็จะมีปฏิกิริยาต่อต้าน กราดเกรี้ยว ไปจนกระทั่งถึงเกลียดชัง ออกมาจากอีกฝั่งหนึ่ง

ฝั่ง “อยู่เป็น”

ไม่รู้หรอกครับและไม่ได้ติดตามข่าวด้วยว่า วันที่ 16 พฤศจิกายน พรรคอนาคตใหม่เขาจะแถลงเรื่องอะไรบ้างที่ยืนยันความ “อยู่ไม่เป็น”

แต่เอาเข้าจริงแล้วก็เดาได้ไม่ยาก

ก็ถ้าไม่แถลงจุดยืนอย่างที่เคยเป็นมา แล้วจะให้แถลงอะไร

มีวันนี้ได้ก็เพราะจุดยืนแบบนี้ ถึงวันที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเป็น “ของแท้-ของเทียม” จะให้เปลี่ยนเป็นจุดอื่นไปได้ไง

เปลี่ยนไปก็เสียคน

เสียมวลชนที่เคยสนับสนุน

พลอยให้อีกฝั่งที่ตั้งท่าจะลงมือลงไม้ และเหยียดหยามถากถางอยู่แล้ว ได้ใจได้ทีมากขึ้นไปอีก

เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้เดาก็คือ “อยู่ไม่เป็น” นี่จะเป็นการแถลงตอกย้ำจุดยืนที่เคยเป็นมา และจะเป็นต่อไป

ว่าคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

แต่ทีนี้แถลงแล้วจะเกิดผลหรือปฏิกิริยาอะไรตามมา

อันนี้สิน่าสนใจ

ข่าวลือที่ปิดกันให้แซด-โดยเฉพาะจากฝ่ายผู้มีอำนาจก็คือ พรรคอนาคตใหม่นั้นจะถูกยุบแน่ๆ

ไม่ว่าจะอยู่เป็นหรืออยู่ไม่เป็นก็ตามที

ก็ลองมีธงมาชัดเจนเสียขนาดนี้ ถ้าอนาคตใหม่-ธนาธร-ปิยบุตรและสหายจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น

ไม่ยึดไม่กุมหลักที่เป็นธงนำ (และมีคนเดินตามจำนวนมาก จนกระทั่งคนที่ไม่ชอบหน้าออกอาการกลัวความอยู่ไม่เป็น)

ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

ถ้าอยู่ไม่เป็นแล้วจะต้องถูกยุบพรรค จะต้องไปจัดตั้งองค์กรอะไรขึ้นมาใหม่

เพื่อแลกกับหลักการที่ยึดถือ และศรัทธาของคนที่มีให้ (ซึ่งพอประเมินได้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงรุ่นใหม่)

อยู่ไม่เป็นก็ดูน่าจะ “คุ้ม” กว่า

เพราะต่อให้กลับมาอยู่เป็น ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะไม่กุดหัวอย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

มันเป็นเช่นนั้นเอง

และโดยสัตย์จริงนะครับ ก็อยากจะเห็นอยู่เหมือนกันว่า กระบวนการทางการเมืองที่อาศัยเงื้อมมือกฎหมาย จะยุบพรรคอนาคตใหม่ให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

เพราะอยากจะรู้อยู่เหมือนกันว่า อะไรจะเกิดขึ้นตามมา

จะทำให้เกิดสภาพโยนระเบิดลงชามโจ๊ก ให้มันเละยิ่งกว่าเละขึ้นไปอีกหรือไม่

หรือฝ่ายที่ยึดกุมอำนาจมั่นใจว่า พลังของคนรุ่นใหม่นั้น อย่างมากก็ดีแต่ระบายออกในทวิตเตอร์ ในโซเชียลมีเดียอื่นๆ

ไม่มีทางจะลงถนนหรือออกมาก่อความไม่สงบที่กระทบต่อเสถียรภาพของผู้ปกครอง

ไปเสี่ยงเอาว่า เลือกตั้งหนหน้าหรือหนต่อๆ ไป จะเกิดแรงอัดที่ระอุคุกรุ่นและระเบิดตูมออกมาอย่างเลือกตั้งครั้งที่แล้วหรือไม่

หรืออนาคตใหม่จะเครื่องดับไปเอง เพราะจากนี้ยังจะโดนเตะตัดขาไปตลอดทาง

ไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ

เดาๆ ประเมินๆ เอากันทั้งนั้น

แต่บางเรื่องบางอย่างระหว่างเดาไป ก็สวดมนต์ภาวนาไปด้วย ว่าอย่าให้เป็นจริงขึ้นมาได้เลย

เพราะเท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ สังคมนี้ก็เสื่อมทรามทรุดโทรมลงไปมากแล้ว

ถ้ามีอะไรสุมเติมเพิ่มขึ้นมาอีก

ใครจะบอกได้ว่าฟางเส้นไหนจะเป็นเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐ

เพราะความอึดอัดคับข้องนี่ไม่ได้มีแค่เรื่องอนาคตใหม่ ธนาธร-ปิยบุตร นะครับ

แต่ยังมีปัญหาความไม่เป็นธรรมอื่นๆ ปัญหาปากท้อง ประเด็นว่าด้วยความเหลื่อมล้ำซึ่งจุดอารมณ์ให้ “ขึ้น” ได้ง่าย

สิบกว่าปีที่ผ่านมา แทนที่จะชักฟืนออกจากเตาไฟ

ท่านทั้งหลายกลับคอยสาดน้ำมันเข้าไปให้มันโหมขึ้นเรื่อยๆ

ไม่อึดอัดคับข้องกัน จะมีอนาคตใหม่ขึ้นมาได้หรือ

ถ้าพึงใจในสภาพที่เป็นอยู่ จำนวนผู้ “อยู่ไม่เป็น” จะเพิ่มขึ้นถึงระดับนี้หรือ

ลองตรองดูเถิด