ฐากูร บุนปาน : “วันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ”

นอกจากนครปฐม ราชบุรี อ่างทอง ที่เป็นจังหวัดรกรากดั้งเดิมของบรรพบุรุษแล้ว

อีกหนึ่งจังหวัดที่มีวาสนาต่อกัน เพราะต้องแวะเวียนไปปีละครั้งเป็นอย่างน้อยในรอบ 5 ปีหลังนี้ก็คือบึงกาฬครับ

มิตรรักแฟนประจำก็คงรู้ว่าไปเพื่อจัดงาน “วันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ” ซึ่งปีนี้เขากำหนดเอาไว้วันที่ 16-22 กุมภาพันธ์

ทำติดต่อกันมาเป็นปีที่ 5

ผ่านมาทุกยุคตั้งแต่ราคายางทะลุฟ้า จนกระทั่งลงไปต่ำเตี้ยติดดิน

ก่อนจะเริ่มผงกหัวขึ้นมาอีกครั้งในปัจจุบัน

 

เหมือนทุกอย่างในโลก งานมหกรรมยางที่บึงกาฬนั้นมีทั้งส่วนที่ไม่เปลี่ยนแปลงและส่วนที่ปรับปรุงเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ

ที่ไม่เปลี่ยนคือแก่นแกนของงานว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเนื้องานนั้นเกิดประโยชน์แก่พี่น้องชาวบึงกาฬหรือจังหวัดใกล้เคียง

เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรผู้ทำสวนยาง ไปจนกระทั่งถึงชีวิตและธุรกิจอื่นๆ ที่ต่อเนื่อง

ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดก็คือ จากงานระดับเฉพาะในจังหวัด ขยับขึ้นมาขยายไปถึงท้องถิ่นใกล้เคียง

จนกระทั่งพองตัวเป็นงานระดับนานาชาติในปีสองปีที่ผ่านมา

เนื้อหาก็ขยับขยายจากการเพาะปลูก การจัดการสวน ไปเป็นเรื่องของการค้าการขาย การผลิตสินค้าปลายน้ำเพิ่มขึ้น

เมื่อปีที่แล้ว วันที่เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานให้

ท่านรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ตั้งข้อสังเกตว่า

งานยางพาราบึงกาฬนี่แหละคือประชารัฐของแท้

เพราะเป็นการจับมือกันเดินไปข้างหน้า ระหว่างประชาชน เอกชน และรัฐบาล

อะไรทำได้-ทำ ไม่งอมืองอเท้ารอขอความช่วยเหลือ

ทำสำเร็จแล้วก็เจือจานพี่น้องเพื่อนฝูงในแวดวงเดียวกัน

หรือที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงด้วย

ปีนี้ก็น่าจะยิ่งสนุกใหญ่

ใครอยากฟังว่ารองนายกฯ วิษณุท่านจะตั้งข้อสังเกตกับตัวงานยังไงอีก ก็เชิญไปร่วมพิธีเปิดได้ในตอนเย็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์

ขายงานกันดื้อๆ อย่างนี้แหละ ใครจะทำไม (ฮา)

แต่รับรองว่าเขามีของให้ขาย

ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม ทั้งเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่มมูลค่าให้ยางพาราจากวัตถุดิบไปสู่สินค้าสำเร็จ

ไปจนถึงโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ

เพราะมีพ่อค้านักธุรกิจทั้งต่างถิ่นและต่างแดนตอบรับว่าจะมาร่วมงานกันอุ่นหนาฝาคั่งกว่าทุกปี

ท่านนายกเทศมนตรียะลา-พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชมน์เจริญ มากันคณะใหญ่ จะมาดูเครื่องกรีดยางอัตโนมัติ

ว่าจะเอาไปช่วยพี่น้องสวนยางภาคใต้ที่นับวันแรงงานก็ยิ่งขาดแคลนได้อย่างไร

มีท่านเอกอัครราชทูตมาเลเซียนำคณะมาร่วมเจรจาในงานเหมือนปีก่อน

มีท่านกงสุลใหญ่จากลาว ท่านตัวแทนสมาพันธ์ยางพาราจากกัมพูชา ตัวแทนจากเวียดนาม

คณะนักธุรกิจและท่านทูตพาณิชย์จากอินเดีย

ส่วนจีนนั้นไม่ต้องพูดถึง ยกกันมาเป็นมณฑลเลยทีเดียว ทั้งบริษัทรับซื้อยาง บริษัทผลิตล้อรถยนต์ ตัวแทนการค้า เจ้าหน้าที่รัฐ

เห็นท่านผู้ว่าฯ พิสุทธิ์ บุษยพรรณวงศ์ และท่านนายก อบจ. นิพนธ์ คนขยัน

เตรียมเปิดเมืองรับใหญ่แขกเหรื่อทุกคณะ

 

รายละเอียดของงานว่าจะมีสาระบันเทิงอะไรขนาดไหน

พี่น้องในกองบรรณาธิการ “มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ” ไปจนถึง “เทคโนโลยีชาวบ้าน” ท่านคงรายงานได้ละเอียดลออกว่า

เขาให้มีหน้าที่มาสรุปก็ขออนุญาตสรุปว่า

แนวคิดที่มั่นคงของงานยางพาราบึงกาฬตั้งแต่วันแรกยันวันนี้

ก็คือการพึ่งตัวเอง สร้างมูลค่าเพิ่ม และก้าวให้ทันนวัตกรรม

ซึ่งปีนี้จะเพิ่มเอาเรื่องการค้าการขายในโลกออนไลน์เข้ามาด้วย

ก็บอกแล้วว่า งานยางพาราบึงกาฬไม่จัดกันเองดูกันเอง หรือรำวงกันอยู่แต่ในบ้าน

วันนี้เขาไปไกลถึงระดับภูมิภาค ถึงระดับระหว่างประเทศแล้ว

โลกเขาพูดภาษาดิจิตอล

ใจคอจะให้บึงกาฬอยู่หลังเขาริมน้ำโขงตลอดไปหรือ

ไม่เชื่อหรือว่าเขาออกไปท้าสู้ทั้งโลกได้