ฐากูร บุนปาน | เมื่อ คุณธนินท์ กำลังสนุกกับ “งานใหม่”- ตั้งใจถ่ายทอดประวัติชีวิต

พูดกับพี่น้องเพื่อนฝูงร่วมอาชีพอยู่เสมอว่า

อภิสิทธิ์อย่างหนึ่งที่อาชีพนักข่าวให้กับคนอย่างเราๆ คือการได้พบปะเจอะเจอกับมนุษย์ทุกแบบ คนทุกประเภท

ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้มีโอกาสแสวงหาความรู้แบบ “ครูพักลักจำ” จากท่านทั้งหลาย

ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ความล้มเหลว ความรุ่งโรจน์ หรือความรุ่งริ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ประโยชน์อย่างยิ่งจากการสนทนากับ “คนฉลาด” ในทุกแวดวง

คุยกับคนฉลาดแล้วสนุกและมีประโยชน์กว่าคุยกับคนไม่ฉลาดแล้วยังดันทุรังเป็นไหนๆ

หรือใครว่าไม่จริง

สัปดาห์ที่ผ่านมา ติดสอยห้อยตามคณะพรรคในเครือมติชนไปเสวนากับคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือซีพี

สนุกและได้ความรู้กลับมาเป็นสมองอีกเหมือนเคย

สนุกไปกับคุณธนินท์ที่กำลังสนุกกับ “งานใหม่” ที่เอาจริงเอาจังมากอยู่ในเวลานี้

งาน “สร้างคน”

จากยุคสร้างเทคโนโลยี จากสมัยของการสร้างระบบ

วันนี้งานหลักของคุณธนินท์คือการฟูมฟัก “ศูนย์ผู้นำ” ของเครือซีพี ศูนย์กลางของการปั้นคนรุ่นใหม่ทั้งในเครือ-นอกเครือให้เข้าและขึ้นมารับช่วงธุรกิจในอนาคตอันใกล้และระยะยาว

ใครที่ได้เคยพบปะเสวนากับคุณธนินท์ก็จะรู้ว่า ท่านมีวิญญาณของ “ความเป็นครู” อยู่สูงยิ่ง

เป็นคนที่ชอบสรุปบทเรียนจากความสำเร็จและล้มเหลวของตัวเอง แล้วก็ถ่ายทอดให้คนรอบตัวอยู่เสมอ

ยิ่งมาสวมบทเหมือน “ครูใหญ่” บทเรียนที่ถอดให้กับคนรอบข้างยิ่งมากขึ้น

ใครที่ติดตามโลกโซเชียลเมื่อสัปดาห์สองสัปดาห์ก่อน ตอนซีพีเปิดให้คนนอกเข้าไปดูศูนย์ผู้นำ แล้วท่านทั้งหลายกลับมาถ่ายทอดประสบการณ์-ความประทับใจจนเป็น “ไวรัล” คงจะเห็นแบบเดียวกัน

ส่วนท่านที่ยังไม่เห็น ลองย้อนกลับไปค้นได้ครับ

โลกดิจิตอลเดี๋ยวนี้ค้นง่าย

และเพราะบทเรียนที่ทะลักทลายออกมานี้เอง

จึงเป็นที่มาของหนังสืออัตชีวประวัติเล่มแรกที่คุณธนินท์ตั้งใจถ่ายทอดออกมาเอง

โดยสรุปจากบทเรียนชีวิตทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว ตั้งแต่เริ่มปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ เลี้ยงต้นอ่อน เผชิญลมเผชิญฝน โดยคนเหยียบหรือก้าวข้ามไปบ้าง กว่าจะถึงวันที่ต้นไม้เติบใหญ่ออกดอกสะพรั่งในทุกวันนี้

ขออนุญาตพี่ๆ น้องๆ สำนักพิมพ์มติชนเขาว่าจะมาโฆษณาก่อนล่วงหน้า

เพราะว่าแค่เห็นชื่อหนังสือก็เร้าใจแล้ว

คุณธนินท์ตั้งชื่อหนังสือของท่านเองว่า

“ความสำเร็จ…ดีใจได้วันเดียว”

คมไหมล่ะ?

ถ้าอยากรู้ว่าทำไมความสำเร็จถึงดีใจได้แค่วันเดียว

และทำไมประธานเครือซีพีถึงชอบ “ปัญหา” มากกว่าความสำเร็จ

อดใจรองานมหกรรมหนังสือแห่งชาติเดือนตุลาคมนี้ครับ

ในฐานะพนักงานตรวจปรู๊ฟเฉพาะกิจ ที่แอบอ่านต้นฉบับแบบรวดเดียวจบเล่ม

ขออนุญาตขายของกันดื้อๆ (เพราะเชื่อว่าของเราดีจริง) ว่านี่คือบทเรียนชีวิตและธุรกิจในบริบทของไทย

ที่ไม่แพ้ (หรือเผลอๆ จะดีกว่า) หนังสือ “ฮาว ทู” ของนักธุรกิจใหญ่ทั้งโลก

“ลึก” แน่ๆ ทั้งในแง่ความสำเร็จและล้มเหลว

สำเร็จอาจจะลึกกว่าหน่อย ล้มเหลวนั้นต้อง “อ่านไป ขุดไป” เพราะผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบพูดด้านลบของคน

จะเน้นที่เหตุการณ์สถานการณ์เป็นหลัก

อันนี้คนอ่านต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้นอีกหน่อย

แต่ความมันนั้น รับประกันได้แน่

ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวหนังสือออกให้รีบซื้อไปอ่านเลยครับ

ฮา

และไหนๆ ก็ขายของ (ดี) กันมาถึงขนาดนี้แล้ว

เอาตัวอย่างคำคมที่คุณธนินท์เขากลั่นออกมาระหว่างพูดคุยกันวันนั้นเป็นตัวอย่าง

อย่างเช่น “เก่งจริง ต้องใจกว้าง”

แค่ไม่กี่พยางค์ แต่เอาไปคิดตีความได้กว้างขวางมหาศาล

ยิ่งถ้าลงมือทำได้จริง ก็ยิ่งเป็นคุณูปการทั้งกับตัวเอง กิจการ และคนรอบข้างได้อีกไม่รู้เท่าไหร่

ไปจนกระทั่ง

“12 ปีที่แล้ว ผมฟังที่แจ๊ค หม่า พูดไม่เข้าใจ เพราะไม่ฉลาดเท่าเขา”

ไม่ใหญ่จริง ไม่ถ่อมจริง ไม่สำรวจตัวเองอย่างถี่ถ้วน พูดประโยคแบบนี้ออกมาไม่ได้

แต่ทั้งหมดนี้ พอสรุปรวบยอดทั้งหมดแล้วไม่พ้นชื่อหนังสือที่ตั้งขึ้นมาเองว่า “ความสำเร็จ…ดีใจได้วันเดียว”

ในฐานะคนทำหนังสือขาย

ชักสงสัยอยู่เหมือนกันว่า

เล่มเดียวจะพอไหม?