ฐากูร บุนปาน | ธรรมะ จาก ‘สมเด็จพระสังฆราช’

4กรกฎาคม 2562 เครือมติชนได้รับพระราชกรุณาจากเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

พระราชทานวโรกาสให้เข้าเฝ้าเพื่อกราบแสดงมุทิตาจิตเนื่องในวันคล้ายวันประสูติ

เป็นพระกรุณาธิคุณอันล้นพ้น

และเป็นมงคลแก่ชีวิตของชาวคณะอย่างหาที่เปรียบมิได้

ใครก็ตามที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าใกล้ชิด จะรู้ได้ว่าเจ้าพระคุณสมเด็จฯ นั้นเปี่ยมด้วยพระเมตตาและอารมณ์ขัน

มีธรรมะแทรกอยู่ในทุกบททุกตอนของการสนทนา โดยไม่ได้ตั้งท่าสั่งสอน

ทรงกว้างขวางทั้งทางโลกและทางธรรม พูดคุยประเด็นไหนขึ้นมาก็สนุกและได้ข้อคิดให้ไปขบต่อ

โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์และโบราณคดี

หลายท่านประจักษ์ในความเอกอุทางธรรมของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จนลืมไปว่าท่านคือบัณฑิตปริญญาโทประวัติศาสตร์และโบราณคดี จากมหาวิทยาลัยพาราณสี

โลกที่กว้างเมื่อรวมกับพระทัยที่กว้าง อะไรในโลกนี้ก็เป็นเรื่องปกติวิสัย

เห็นแจ้งในเหตุแล้วก็เข้าใจในผล

ยิ่งพระเมตตาที่แผ่ออกมาจากภายในนั้น ที่ทำให้ลูกหลานกราบไหว้สนิทใจ เหมือนกราบหลวงปู่หลวงตาข้างบ้าน ซึ่งเห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออกจนแจ้งในวัตรปฏิบัติ

มงคลนั้นยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ

ขอทรงพระเจริญชนมายุยิ่งยืนนานเทอญ

เมื่อเริ่มด้วยเรื่องมงคล ก็ขออนุญาตต่อด้วยเรื่องมงคล

โดยเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ทรงประทานพระวโรกาสให้สาธุชนเข้าเฝ้าถวายที่ดินบริเวณอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นธรณีสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

เพื่อดำเนินการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม สมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร)

ท่านผู้มีจิตอันเป็นกุศล สามารถติดต่อสอบถาม หรือร่วมทำบุญเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

หรือติดตามความคืบหน้าของโครงการนี้ได้จากเฟซบุ๊กสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ก็ได้เช่นกัน

เชื่อว่าอีกไม่กี่วัน พี่เพื่อนน้องในเครือมติชน-ข่าวสด คงนำเสนอเรื่องนี้สนองทุกท่าน

อนุโมทนาบุญกับสาธุชนทั้งหลายเอาไว้ล่วงหน้า

ตบท้ายด้วยมงคลยิ่ง ด้วยพระสัมโมทนียกถาของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ในวโรกาสดังกล่าว ดังนี้

“ท่านทานบดี (ผู้ให้ทานอันยิ่งใหญ่) ผู้มีกุศลเจตนาอันยิ่งใหญ่ อุทิศถวายที่ดินเนื้อที่กว่าร้อยไร่แด่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อดำเนินการสร้างเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม เป็นเกียรติในนามของอาตมภาพ

นับเป็นบุญกิริยาอันประเสริฐ เตือนใจให้ระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อพระเจ้าพิมพิสารถวายพระอารามเวฬุวัน เป็นปฐมอารามในพระศาสนา

ครั้งนั้น บรรดาพระญาติของพระเจ้าพิมพิสารผู้ล่วงลับไป ได้รับกุศลอุทิศ จึงพลอยได้รับความสุขตามคติวิสัยไปด้วย

ท่านทั้งหลายผู้บำเพ็ญวิหารทาน ถวายที่ดินสำหรับเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมไว้สำหรับพระสงฆ์ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนจากจาตุรทิศ เป็นหลักมั่นของการเผยแผ่พระสัทธรรม เกื้อกูลแก่การอบรมเจริญปัญญา ย่อมได้รับอานิสงส์มหาศาลดุจเดียวกัน

อานิสงส์นี้มิใช่แต่เพียงเฉพาะตัวท่านเองเท่านั้น หากยังสามารถอุทิศไปถึงผู้ล่วงลับไปแล้วในปรโลก และสามารถเผื่อแผ่บอกบุญไปยังญาติมิตรที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้ได้อนุโมทนาสาธุการโดยทั่วหน้ากัน

บุญครั้งนี้จึงเป็นบุญใหญ่ เป็นเครื่องอำนวยความสุขมาสู่ผู้เสียสละทรัพย์ภายนอก ให้เจริญงอกงามเป็นอริยทรัพย์ภายใน

อริยทรัพย์ คือ ทรัพย์อันประเสริฐ เป็นที่พึ่งได้ทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า โจรลักไปไม่ได้ ไฟไหม้ไม่ได้ น้ำพัดไปไม่ได้ เป็นทรัพย์ภายใน ซึ่งสามารถทำให้พ้นจากทุกข์ได้ อริยทรัพย์ประกอบไปด้วยธรรมะ 7 ประการ กล่าวคือ 1.ศรัทธา 2.ศีล 3.หิริ 4.โอตตัปปะ 5.สุตะ 6.จาคะ และ 7.ปัญญา

ท่านทานบดีมีศรัทธาในพระรัตนตรัย จึงถึงพร้อมด้วยจาคะ สามารถสละทรัพย์สินมีค่าคือที่ดินผืนนี้เพื่อเป็นวิหารทาน เอื้ออำนวยให้ชนทั้งหลายได้มาอบรมศึกษา

เพื่อรู้จักการรักษาศีล มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ให้เป็นผู้ขวนขวายในการสดับตรับฟังธรรมะ ให้มีความเสียสละละวางจากบาปอกุศล จนบรรลุถึงความงอกงามทางปัญญา

ที่ดินร้อยกว่าไร่ที่ท่านอุทิศมอบไว้ในพระพุทธศาสนา จึงแปรเป็นทั้งอริยทรัพย์ในตัวท่านผู้บริจาค และจะเป็นทั้งแหล่งผลิตอริยทรัพย์ให้เพิ่มพูนขึ้นในหมู่พุทธบริษัทโดยทั่วหน้าสืบไป

ขอทุกท่านจงยินดีอิ่มเอิบใจในบุญกิริยาที่ได้บำเพ็ญครั้งนี้เถิด”

สาธุ