ฐากูร บุนปาน | ที่มันยุ่งก็เพราะจะไปบิดไปเบือน

สงกรานต์ปีนี้ร้อนจริงร้ายจริงอย่างที่เขาว่ากัน

น้ำที่รดที่สาดกันแค่บรรเทาไปได้ชั่วคราวไม่กี่วัน

พ้นเทศกาลปุ๊บ ความร้อนทั้งกายทั้งใจก็กลับเข้ากุมทันที

ร้อนทั้งอากาศ

ร้อนทั้งอุณหภูมิอื่นๆ

โดยเฉพาะการเมือง

ว่ากันด้วยหลักการอย่างเดียว

การเลือกตั้งนั้นควรจะเป็นเครื่องมือในการคลี่คลายความขัดแย้ง และหาทางออกด้วยวิธีที่อารยะ-สันติที่สุดให้กับสังคม

เพราะฉะนั้น ถ้าเลือกตั้งแล้วกลายเป็นเดินเข้าทางตัน หรือยิ่งทำให้ความขัดแย้งเพิ่มขึ้นนั้น

แปลว่าตัวการเลือกตั้งมีปัญหา หรือถูกทำให้มีปัญหา

ไม่ว่าจะด้วยกติกา หรือด้วยวัตรปฏิบัติของผู้รับผิดชอบ-ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายก็ดี

แต่เมื่อปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ไม่ได้เป็นเรื่องจนปัญญาแก้ไขไม่ได้อย่างภัยธรรมชาติน้ำท่วม-แผ่นดินไหวอะไรนั่น

คนด้วยกันก็สมควรจะแก้ไขได้

ถ้ามีเจตนาอันบริสุทธิ์ ถ้ามีความกล้าหาญที่จะแก้ไขปัญหาจริง

ส่วนใหญ่ เงื่อนที่มนุษย์ด้วยกันขมวดเข้ามาแล้วแก้ไม่ได้

ก็เพราะไม่อยากแก้มากกว่าอย่างอื่น

การเลือกตั้งก็เช่นกัน

เมื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง ก็แปลว่าเปิดกว้างรับฟังเสียงและการตัดสินใจของประชาชน

ถ้าทุกอย่างเปิดเผย โปร่งใส ตรงไปตรงมา

ชาวบ้านเขาลงมติมาอย่างไร ก็ดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น

มันก็ไม่ยุ่ง

ที่มันยุ่งก็เพราะจะไปบิดไปเบือน ไปทำให้เสียงของประชาชนไม่มีความหมาย

เหมือนไม่เข้าใจว่า ปัจจัยสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้วิกฤตในสังคมนี้ยืดยาวมาเป็นสิบปี

ก็คือความเป็นคนที่ไม่เท่าเทียมกัน

เมื่อได้เลือกตั้ง ชาวบ้านส่วนหนึ่งตื่นเต้นดีใจ ว่าจะได้กลับมาเป็นคนเหมือนกัน หนึ่งคนหนึ่งเสียงเท่ากันเสียที

ผ่าจะไปหักด้ามพร้าด้วยเข่า

ลากให้สังคมกลับไปอยู่ในสภาพ “สองมาตรฐาน” อีก

หรือคิดว่าที่ผ่านมายังบำเพ็ญทุกรกิริยากันไม่พอ

ไม่ใช่แต่ทรัพยากรธรรมชาติบางอย่างเท่านั้นที่ใช้แล้วหมดไป

อีกหลายอย่างในโลกก็มีคุณสมบัติคล้ายกัน

เช่น อำนาจ ความเชื่อถือไว้วางใจ ฯลฯ

บังเอิญว่าอย่างสองอย่างที่ยกตัวอย่างมานั้น เป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ปกครองไม่ว่าจะที่ไหนๆ

ใช้ดีก็ดีไป ใช้ไม่ถูก คมก็หันมาบาดตัวเอง

มีตัวอย่างให้เห็นอยู่มากมายไปในอดีตทั้งไกลทั้งใกล้ ทั้งในและนอกกะลา เอ๊ย ในและนอกสังคมไทย

แต่ละท่านก็ล้วนมีวุฒิสารพัด ทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ชาติวุฒิ

หรือถ้าภาษาบ้านๆ เขาก็บอกว่า โตจนหมาเลียก้น (คำสุภาพ) ไม่ถึงแล้ว

ย่อมรู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร

อะไรถูกต้องชอบธรรม

อะไรที่ทำไปแล้วอุณหภูมิประเทศเพิ่มขึ้นหรือลดลง

พูดมากไปก็เหมือนสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ

เจ็บคอ

อย่างที่กราบเรียนเอาไว้ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์นั่นละครับว่า

การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ

จริงอยู่ว่า หลักการของการลงทุนคือ No Risks, No Return หรือไม่เสี่ยงก็ไม่ได้

และ High Risk, High Return หรือเสี่ยงมากก็ได้มาก

แต่ต้องไม่ลืมว่าที่เสี่ยงแล้วสูญก็มีให้เห็นเยอะแยะไป

เสี่ยงแล้วได้ทุกหน ตอนนี้ทุกคนคงเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี

ไม่มานั่งบ่นกระปอดกระแปดเรื่องความเหลื่อมล้ำที่ถ่างกว้างออกไปทุกวันอย่างนี้

เหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจว่าอันตรายแล้ว

ถ้าเหลื่อมล้ำทางสังคม-เหลื่อมล้ำทางอำนาจเข้ามาซ้อนทับด้วย

ไม่ร้อนทนไหวหรือ

ถ้าอายุน้อยกว่านี้ลงไปสัก 10-20 ปี อาจจะยัง “โลกสวย” อยู่

เคลิ้มๆ ไปกับคำโฆษณาชวนเชื่อว่า ไทยนั้นรู้รักสามัคคี ถึงจะมีปัญหาอะไร เดี๋ยวสุดท้ายก็หันหน้าเข้าหากัน ปรึกษาหารือกันอย่างพี่ๆ น้องๆ แล้วปัญหาก็ปลาสนาการไป

แต่โชคร้ายที่ประสบการณ์ในฐานะคนทำข่าว คนติดตามข่าว ไม่ได้บ่งชี้เอาไว้อย่างนั้น

ก็ทำเท่าที่ทำได้ สะกิดเตือนความจำ ชี้ให้ดูประสบการณ์ของทั้งตัวเองทั้งของบ้านอื่นเมืองอื่นไป

ทำเสร็จแล้วก็ไปปิดห้องสวดมนต์

เผื่อจะสงบใจได้มากกว่านี้บ้าง