ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 - 31 มกราคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
หลังจากรอคอยกันมาด้วยความระทึกใจ
ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่
เพราะประกาศแล้วก็เลื่อนจนเชื่อไม่ได้
พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 23 มกราคม
โดย กกต.นัดประชุมเพื่อกำหนดและแถลงวันเลือกตั้งในบ่ายวันเดียวกัน
ตกลงเป็นวันที่ 24 มีนาคม
หมดคำถามเรื่อง “เลือกตั้งหรือไม่” ไปหนึ่งข้อ
ก่อนจะไปถึงคำถามว่า แล้วใครจะชนะหรือจัดตั้งรัฐบาล
ประมวลเหตุการณ์ฝุ่นตลบในช่วงก่อนการประกาศพระราชกฤษฎีกาก็จะเห็นว่า
คำถามเรื่องเลือกตั้งหรือไม่นั้น ไม่ค่อยน่าเป็นประเด็นสักเท่าไหร่
เพราะพรรคการเมืองแทบทั้งหมด-โดยเฉพาะพลังประชารัฐ ที่แนบแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรัฐบาล
ลงสนาม ลงพื้นที่หาเสียงกับประชาชนไปแล้วหลายเพลา
บางคนบางพรรคเพียงปรากฏตัวก็ส่งผลให้แผ่นดินสะท้าน พสุธาสะเทือน
แต่บ้างเดินไปแล้วจนขาแทบลาก เรื่องที่อยากให้เป็นประเด็นในความสนใจไม่ยักเป็นประเด็น
ผ่าไปเป็นพาดหัวข่าวในเรื่องที่ติดลบกับคะแนนเสียงไปเสียได้
เป็นไปตามธรรมชาติธรรมดาของการเมืองเมื่อเข้าสู่โหมดการหาเสียงเลือกตั้ง
ก่อนถึง 24 มีนาคม ยังจะได้เห็นอะไรแปลกประหลาดมากกว่านี้
อีกหลายเรื่องหลายกรณี
ประเด็นที่เป็นกังวลกันมากไม่ว่าชาวบ้านร้านช่องในระดับไหน
ก็คือ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม เที่ยงตรงหรือไม่-อย่างไร
ด้านหนึ่งก็เป็นภาระที่ กกต. และรัฐบาล ในฐานะพระเอกและพระรองของหนังเรื่องนี้ ต้องไปจัดการดูแลให้สมกับความคาดหวังของท่านผู้ชม
แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นภาระของตัวแสดงประกอบอย่างพรรคและนักการเมืองทั้งหลาย รวมไปถึงท่านผู้ชมอย่างเราๆ ท่านๆ
ต้องช่วยกันกำกับ หรือเป่าปากโห่ร้องเวลาเห็นคนเล่นนอกบท
มีเสียงโห่มากๆ หรือเห็นผู้ชมชะโงกหน้าเข้ามาดูใกล้ชิด ที่คิดจะออกนอกลู่นอกทาง ก็คงเขินๆ อายๆ กันบ้าง
ส่วนที่ลือๆ กันว่า บางคนบางพรรคการเมืองช่วงนี้ต้องไปหาหมอกระดูกหมอเส้นเอ็นบ่อยเป็นพิเศษ
เพราะรับกันทีละฟ่อนทีละปึ๊งจนข้อมืออักเสบทั้งคนให้คนรับนั้น
ก็ให้ถือว่าเป็นแค่ข่าวลือกันไป
เพราะไม่มีคนไข้ท่านไหนยอมรับว่าจริง (ฮา)
เช่นเดียวกันตัวเลขรวมๆ ที่บอกว่า ถึงวันนี้ก็ 3,000 เข้าไปแล้ว ยืดออกไปอีกหนึ่งเดือนนี่มิตกเข้าไปถึงประมาณ 4,500 หรือ
ก็เป็นแค่การคำนวณคนนอก
ที่ไม่มีทางไปรู้ตัวเลขเป๊ะๆ ของเขาได้
โน่น-ไปหลังเลือกตั้งนั่น พอมีการชำระบัญชีครั้งใหญ่ คราวนี้ไส้กี่ขดๆ ไหลออกมากองอยู่นอกท้องนอกพุง
ที่นึกว่าลับก็กลายเป็นเปิดเผยไปเอง
ที่สนุกยิ่งกว่าตอนนี้ก็คือขโมยร้องให้จับโจรนั่นละครับ
พรรค-นักการเมืองที่ถูกจับตาว่า “อู้ฟู่” ที่สุด กลายเป็นฝ่ายร้องโวยวายว่าเจอทีเด็ดของพรรค-นักการเมืองที่มีข่าวว่าบ้านแตก แล้วมีคนหิ้วกระเป๋าเงินออกจากบ้านไป
โวยว่า พรรคหลังแจกเยอะกว่า
เป็นงั้นไป-ฮ่าฮ่าฮ่า
จริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็เหมือนเรื่องแรกนั่นแหละครับ
รอให้ฝุ่นจางเดี๋ยวข้อเท็จจริงก็ค่อยๆ โผล่มาทีละจุด ทีละเส้น ลากโยงกันเป็นภาพเป็นเรื่องได้
จะชัดเจนว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
ตอนนี้ก็ให้เป็นหน้าที่ของ “ข่าวลือ” ไปก่อน
ถึงในสังคมไทย ลือกันทีไรกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาทุกที
ก็ยังไม่ควรจะปรักปรำใคร จนกว่าจะได้หลักฐานคาหนังคาเขา
คิดเสียอย่างนั้นแล้วก็อาจจะสบายใจขึ้น
เอาเป็นว่า เลือกตั้งมาแน่ 24 มีนาคม
และถ้าไม่อยากให้ “เสียของ” คราวนี้ก็ต้องออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันให้มากๆ
ให้รู้กันไปว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้คิด-เชื่อ-อยากเห็นอย่างไร
รักใคร ชอบพรรคไหน เชื่ออะไรที่พูด ก็กาคนนั้น-พรรคนั้นเถอะครับ
แค่ไม่นอนหลับทับสิทธิ์ก็ช่วยสังคมนี้ได้มากแล้ว