ฐากูร บุนปาน : (มีผู้ต้องการให้) คนไทยส่วนใหญ่เป็น ‘ลิงสามตัว’

มีภาพกราฟิกแพร่หลายอยู่ในโลกโซเชียลภาพหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ไม่ทราบใครทำ แต่ลูกชายส่งมาให้ดู

ระหว่างที่กำลังไล่อ่านข่าวนั้นข่าวนี้อยู่พอดี

พอเห็นรูปปั๊บ ก็สะกิดใจปุ๊บ

กับอย่างน้อยสองเรื่อง

เรื่องแรก

ที่ สนช. (ไม่กี่คน ซึ่งก่อเรื่องขึ้นมาเองจากเรื่องไม่มีมูล) ทำท่าจะถอย ไม่แก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. แล้ว

ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคนท้วงว่า การแก้ไขจะส่งผลให้ผู้ตรวจการการเลือกตั้ง 616 คนที่เพิ่งคัดเลือกมาเป็นโมฆะ

และผลต่อเนื่องก็คือการเลือกตั้งอาจจะต้องเลื่อนออกไปอีก 9 เดือน

จากกุมภาพันธ์ 2562 ไปโน่นพฤศจิกายน 2562

ท่านก็ไม่ฟัง

ยังกระดี๊กระด๊าว่าจะแก้กฎหมายให้ได้

มีการอ้างด้วยว่าเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเว็บของ สนช.

มีผู้มาแสดงความเห็นกว่า 6,000 คนแน่ะ

แถมร้อยละ 88 เห็นด้วยกับการแก้กฎหมาย

เท่านั้นก็เป็นเรื่อง

สองวันต่อมามีคนแห่เข้าไปแสดงความเห็นในเว็บที่ว่าอย่างถล่มทลาย

นับถึงวันที่เขียนนี่ก็กว่า 100,000 คนเข้าไปแล้ว

รวมแล้วกว่าร้อยละ 90 คัดค้านการแก้กฎหมาย (ที่จะลากให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป) นี้

ตอนที่มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นประมาณ 50,000 คน (ที่เกือบทั้งหมดก็คือคัดค้าน) นั้น

สนช. ตัวตั้งตัวตีบางรายอ้างว่าต้องตรวจสอบว่าผู้มาลงคะแนนโหวตนั้นมาถูกต้องหรือไม่

กลัวว่าจะจัดตั้งมา

แลกมาซึ่งเสียงด่าขรมอีกรอบ

ว่าทีตัวเองมุบมิบจัดตั้งมา ทำเป็นลอยหน้าลอยตาบอกชาวบ้านสนับสนุน

พอชาวบ้านแห่กันเข้ามา ดันจะไปบอกว่าเขาจัดตั้ง-ต้องตรวจสอบ

ทั้งที่เรื่องพวกนี้ ถ้าเปิดเผยโปร่งใส ตรวจสอบได้ไม่ยาก

ใครจัดตั้งมา ใครลงซ้ำ

ถ้าไม่โกงกันเสียแต่ต้นมือแล้ว สื่อดิจิตอลบันทึกเอาไว้ได้หมด

แต่ล่าสุด พอเห็นชัดๆ ว่ากระแสมวลชนเทไปทางไหน

ที่บิดตะกูด ที่แถกที่แถ ก็ชักจะเริ่มอายเริ่มกระดากขึ้นมา

ตั้งท่าจะถอย (แต่ยังไม่ถอยจริง) อยู่ในเวลานี้

อีกเรื่อง

บ้านป่าแหว่ง ที่บทสรุปบอกว่า ให้เลิกโครงการตีนดอยสุเทพ เชียงใหม่ ไปอยู่เชียงรายแทน

เรื่องนี้ขออนุญาตไม่อภิปรายยาว

ด้วยเหตุผลที่ท่านทั้งหลายก็น่าจะรู้กันอยู่ (ฮา)

แต่เอาเป็นว่าสองเรื่องนี้คล้ายคลึงกัน

คล้ายตรงไหน

ก็ตรงที่การเปลี่ยนแปลงหรือการเปลี่ยนใจของผู้ใหญ่-ผู้มีอำนาจ-หรือหางสุนัข (ที่คิดจะเอาใจหัว) ทั้งหลาย

เกิดขึ้นเพราะตระหนักสำนึกว่า ทานแรงทานกระแสของมวลชนไม่ได้

ไม่เข้าไปโหวตกันถล่มทลาย

กฎหมายจะเป็นหมันหรือ

ไม่ออกมาเดินกันทั่วเชียงใหม่ และในโลกโซเชียล

บ้านป่าแหว่งจะเลิกโครงการหรือ

เกี่ยวข้องกับรูปประกอบตรงนี้นี่แหละ

ท่านที่ทำภาพจิกกัดเสียดสีภาพนี้ขึ้นมา จะจี้ตรงจุดตรงปัญหาประเทศอื่นหรือไม่

ไม่แน่ใจ

แต่สำหรับประเทศไทย-ใช่เลย

ถ้าอยู่กันเป็นลิงปิดตา-ปิดหู-ปิดปาก

ปัญหาเล็กก็กลายเป็นปัญหาใหญ่

ปัญหาน้อยก็กลายเป็นปัญหามาก

เลิกปิดหู ปิดตา ปิดปากเมื่อไหร่

ใหญ่เท่าไหร่ก็ต้องเงี่ยหูฟัง

ที่คิดว่าจะทำอะไรตามอำเภอใจ

จะทำอะไรที่ตอบสนองแต่ประโยชน์ของตัวหรือกลุ่ม

ก็ต้องชะงัก ต้องละอายนิดหน่อย

อาจมีข้อถกเถียงว่า

เสียงส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะที่มาด้วยอารมณ์) อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป

ก็ใช่

แต่ต้องนึกต่อไปด้วยว่า มันมีเงื่อนไขอะไรสะสมสั่งสมมา ถึงทำให้อารมณ์ของสังคมระเบิดขึ้นได้ง่ายๆ

อารมณ์สังคมนะครับ ไม่ใช่น้ำมันไวไฟ

จะได้จุดปุ๊บระเบิดปั๊บ

และอย่าเผลอแถอีกเชียวว่า เสียงส่วนใหญ่ซื้อได้

เดี๋ยวจะมีคนย้อนเข้าให้ว่า จะซื้อเสียงส่วนใหญ่ให้ได้

ต้องทำเปิดเผย ต้องทำให้คนส่วนใหญ่เห็นพ้องกัน เข้าใจตรงกัน

มันถึงจะจุดติด

ไอ้ที่น่ากลัวกว่าคือเสียงส่วนน้อย ที่แอบไปมุบมิบทำอะไรกันใต้โต๊ะ

แล้วพอโผล่มาอีกที ก็อ้างอำนาจ-กติกา (ที่คนกลุ่มน้อยหรือพวกตัวเอง เขียน-กำหนดกันขึ้นมาเอง)

บังคับให้คนส่วนใหญ่ต้องทำตามอย่างนั้นอย่างนี้

หรือจริงๆ คนกลุ่มน้อยที่พยายามกอด ตะปบ ยื้อคว้าอำนาจเอาไว้

เขาเข้าใจตรงนี้อยู่แล้ว

ถึงต้องการให้คนไทยส่วนใหญ่เป็นลิงสามตัวกันต่อไป

ถึงไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง

ถึงพยายามจะยื้อการเลือกตั้งให้ออกไปนานที่สุด

จนกว่าจะมั่นใจว่า เอากล้วยอุดปากลิงส่วนใหญ่ได้

หรือไง?