‘เจ้าคุณพิพิธ-พระพยอม’ มองยังไงต่อกระแส 2 พส.ไลฟ์ คนฟังธรรมะร่วม 2 แสน

วันที่ 5 กันยายน 2564 ยังคงเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสาธารณชนโดยเฉพาะการไลฟ์แบทเทิลธรรมะระหว่าง 2 พระสงฆ์จากวัดสร้อยทาง โดยฟากหนึ่งคือพระมหาสมปอง พระนักเทศน์ชื่อดังและพระมหาไพรวัลย์ พระนักคิดที่ได้ร่วมไลฟ์ธรรมะกันโดยมีสาธารณชนซึ่งส่วนใหญ่คือกลุ่มคนรุ่นใหม่มาร่วมฟังการไลฟ์มากถึง 2 แสนคน จนเกิดเสียงที่หลากหลายในฟากฆราวาส เช่นเดียวกับฟากพระสงฆ์เองก็มีทั้งมุมมองต่อพระทั้ง 2 รูปที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กระแสความคิดที่หลากหลายและมีพลวัต ในขณะที่วัฒนธรรมของพระสงฆ์และพุทธศาสนาในไทยมีวิถีแบบเถรวาทที่มีความเป็นอนุรักษ์นิยมบนโครงสร้างตามระบบอาวุโส ลำดับชั้นพระที่เข้มข้นสูง

พระเทพปฏิภาณวาที หรือ เจ้าคุณพิพิธ วัดสุทัศนเทพวรารามฯ ให้สัมภาษณ์ “มติชนออนไลน์” ถึงกรณีพระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก มีผู้รับชมพร้อมกันสูงถึงกว่า 2 แสนคน ว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการดำเนินการ “แนวใหม่” เปลี่ยนภาพลักษณ์การแสดงธรรม แต่ย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ที่แน่ๆ พระผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม

ส่วนตัวจึงรู้สึกห่วงใยอนาคตในวงการคณะสงฆ์ของพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป เนื่องจากมีความรู้ดีทั้งคู่ พรรษาเกิน 10 ต่อไปต้องเติบโต ถ้าให้แนะนำ ควรปรับโดยใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนา และพระพุทธวจนะเป็นแกนหลัก ส่วนมุขตลกหรือแก๊ก เป็น 1 ใน 4 ของหลักการเทศน์อยู่แล้ว

“หลักการเทศน์ของพระสงฆ์ หลักการคือ 1.ให้เกิดปัญญา 2.ให้กล้าปฏิบัติ 3.ให้กำจัดความชั่ว 4.ให้กลั้วเสียงหัวเราะ ซึ่งเป็นประเด็นท้าย อย่างไรก็ตาม หัวข้อที่พูดคุย ถ้าเน้นหัวข้อธรรมะเป็นแกนกลาง มีพระพุทธพจน์ มีปุจฉา วิสัชนา ซึ่งมีได้หลายอารมณ์

พระมหาไพรวัลย์และพระมหาสมปอง เป็นน้อง อาตมารักและห่วงใย ถือเป็นพระเถระ พรรษามากกว่า 10 อยากรักษาทั้ง 2 รูปนี้ไว้ เพราะเป็นพระที่มีความรู้ดี จบปริญญา อาตมาเอง ไม่มีปริญญาสักใบ ไม่ตำหนิ แต่ถ้าปรับเปลี่ยนให้เข้ากระบวนการ 4 อย่างของการแสดงธรรมมาตรฐาน ตลกนิดๆ สาระเยอะกว่า เข้าประเด็น จะได้ไม่มีใครมาว่าได้ในประเด็นไม่ถูกสมณสารูป

เพราะทั้ง 2 จะต้องเป็นพระผู้ใหญ่ในอนาคต พระผู้ใหญ่หลายรูปมาเปรยกับอาตมา พระผู้ใหญ่ไม่ปลื้มเลย ไปลองถามๆ ดูก็ได้ อาตมาเป็นห่วงว่าทั้ง 2 จะไม่มีอนาคตในวงการคณะสงฆ์ ขนาดการเมืองนิดๆ หน่อยๆ ที่อาตมาพูด ยังร้อนระอุ อาตมาเคยโดนตำหนิมาก่อนแล้ว ผ่านมาหมดแล้ว” เจ้าคุณพิพิธกล่าว

เจ้าคุณพิพิธ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไป พระมีโซเชียลเป็นสื่อของตัวเอง ไม่ถูกควบคุม ผลิตเอง ถ้าออกโทรทัศน์อย่างในอดีต จะมีการตรวจสอบก่อน อะไรที่หนักไป แรงไป เกี่ยวกับการบ้านการเมือง จะถูกตัดออก บางครั้งยกทิ้งทั้งชั่วโมง ตลกไป ก็ถูกขอตัด ส่วนตัวไม่ติดใจอะไร ถือว่าได้เรียนรู้ คนที่ไม่ชอบ อย่าคิดว่าเขาเป็นศัตรู พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนที่เห็นโทษในตัวเรา ขอให้มองเป็นการชี้ขุมทรัพย์

เจ้าคุณพิพิธ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พระมหาไพรวัลย์ เคยมีงานเขียนที่เข้มข้น ดุดัน ซึ่งก็อันตรายต่อตัวท่านอีกแบบหนึ่ง เมื่อมาใช้โซเชียลแบบนี้อาจลบภาพเก่าไป แต่อย่างนี้อาจอันตรายกว่า พระนักเทศน์ในไทยมีเยอะ มีพระเทศน์มหาชาติออกสื่อตัวเองทางยูทูบ เอาปี่พาทย์ไปบรรเลงพร้อมกับลิเก ตลกโปกฮา สมัยก่อนอาตมาเองก็เคยบ้าง นิดๆ หน่อยๆ เคยทำมาหมดแล้ว แต่ไม่ตลกขนาดนี้

“ต่อมา เมื่อครั้งไปออกรายการโต้วาที ตลกโปกฮา สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ท่านมาขอร้องอย่าไปออกรายการแบบนี้ หยุดเถอะ พระผู้ใหญ่ท่านแนะนำว่า จะเป็นการหยุดความเจริญของตัวเอง คณะสงฆ์ก็จะไม่ได้ใช้ความรู้ของเรา สิ่งที่พยายามสื่อสารทางธรรม จะเสียสาระ อาตมาจึงเลิก ถ้าตลกนิดๆ หน่อยๆ ให้โยมพอฮา พอหัวเราะได้ อย่างนี้ไม่เป็นไร อาตมารักน้องทั้ง 2 รูป วันหนึ่งเขาต้องเติบโตเป็นพระผู้ใหญ่ในอนาคต วงการคณะสงฆ์ต้องมีนักเทศน์ที่มีความรู้” เจ้าคุณพิพิธกล่าว

ขณะที่ พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว มองกระแสนี้ว่า อาตมาเคยเป็นแบบนี้สมัยหนึ่ง อาจารย์คึกฤทธิ์ปราโมช คุณสมัคร สุนทรเวช ท่านอาจารย์พุทธทาส ได้เตือนสติอาตมา โดยเฉพาะอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ บอกไม่ศรัทธาเลยที่อาตมาเทศน์แบบนี้ เราก็ยังไฟแรง ย้อนไปแบบไม่ดีว่า ที่บวชมานี่ไม่ได้ให้หม่อมคึกฤทธิ์ท่านมาศรัทธา คุณสมัครบอกว่าอยากให้อาตมาเทศน์แบบสุนทราภรณ์ แบบหลวงพ่อปัญญา บอกอาตมาเทศน์แบบจำอวดมากไป

คนก็ไปถามหลวงพ่อพุทธทาสว่ารู้สึกอย่างไร หลวงพ่อท่านก็พูดดีว่าเรายังไม่เคยเห็นเด็กๆ มาฟังธรรมะอย่างจริงจัง ไม่เคยเห็นพระในประเทศไทยทำได้ ยังแซวอาตมาด้วยว่ามาทีหลัง แต่แซงหน้าท่านไปแล้ว เพราะเทศน์แบบนี้ แต่ก็ไม่ดีอย่างหนึ่งเรื่องหัวเราะ ตอนนั้นอาตมาหัวเราะมาก ตอนหลังปรับตัวเร็ว แต่กลับมาตำหนิอาตมาว่าเทศน์ไม่สนุกเหมือนก่อน

พระพยอม กล่าวต่อว่า ทั้งสองท่านก็เหมือนกัน เมื่ออายุมากขึ้นจะมีสติ ปัญญามากขึ้นตามลำดับ เมืองไทยเรามีคนหลายอย่าง คนวัยรุ่นชอบอีกอย่าง คนสูงอายุชอบอีกอย่าง ตอนนี้อาตมาเปลี่ยนแนวไปเป็นวิเคราะห์ตามสื่อ ตามหนังสือพิมพ์มากกว่า

“อยากฝากไว้ว่าอย่าไปตำหนิอะไรกันมากเลย เมื่ออายุหรือพรรษามากขึ้น ความรู้สึกจะปรับเปลี่ยนไป ยังไงก็ขึ้นตาชั่งแล้วยังได้ประโยชน์ มีที่ไหนคนฟังธรรมะ 2 แสนคน มันอาจจะน้ำท่วมทุ่งสนุกสนานเบิกบานไปบ้าง แต่ก็ดีที่เทศน์ให้สนุกสนานไม่ใช่เทศน์ให้ง่วง ให้เครียด ให้หลับ”พระพยอม กล่าว